สมัชชาคนจนยุติชุมนุมที่อุบลฯพร้อมใจตบเท้าเข้า กทม.

อุบลราชธานี- กลุ่มชาวบ้านสมัชชาคนจนเขื่อนปากมูล ยุติการชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ตบเท้าเข้าชุมนุมหน้ารัฐสภาเรียกร้องรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นำเรื่องเปิด-ปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล และชดเชยเยียวยาผลกระทบจากการสร้างเขื่อนเมื่อ 20 ปีก่อนพิจารณาให้ได้ข้อสรุป ให้เสร็จภายในรัฐบาลนี้

ความคืบหน้ากรณีกลุ่มสมัชชาคนจนเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.ถึงปัจจุบันเป็นเวลารวม 35 วัน แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล แกนนำชาวบ้าน จึงตกลงเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯ โดยไปปักหลักที่บริเวณที่หน้ารัฐสภาในบ่ายวันนี้

นายทองปน ไชยคำ แกนนำชาวบ้านสมัชชาคนจน กล่าวว่า หลังนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเป็นประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน มีหนังสือแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาเปิด-ปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล และชดเชยผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูลเมื่อ 20 ปีก่อน ปรากฏว่า ตั้งแต่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน ซึ่งมีชาวบ้านเข้าร่วมเป็นกรรมการ ยังไม่มีการเรียกประชุม เพื่อพิจารณาการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านสมัชชาคนจน

“ทำให้ไม่มั่นใจว่าปัญหาของชาวบ้านจะได้รับการแก้ไขปัญหาภายในรัฐบาลนี้ จึงมีมติเดินทางลงไปรวมกับพี่น้องประชาชนปัญหาอื่นๆของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจะเดินทางไปด้วยกันราว 5,000 คน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน”

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ก่อนออกเดินทางกลุ่มสมัชชาคนจนได้มีพิธีบายศรีสู่ขวัญ และการแสดงของเยาวชนลูกหลานสมัชชาคนจน ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จังหวัด ได้ประชุมชี้แจงร่วมกับแกนนำชาวบ้านสมัชชาคนจน เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการที่รัฐบาลประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคง 2 ฉบับ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 9-23 กุมภาพันธ์

ห้ามบุคคลและกลุ่มบุคคลเข้าหรือออกถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกพาณิชยการพระนคร ด้านถนนพระราม 5 ถึงแยกสวนมิสกวัน, ถนนนครปฐม ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชษฐ ถึงสะพานอรทัย, ถนนพระราม 5 ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชษฐ ถึงสะพานอรทัย ถนนลูกหลวงตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถึงสะพานเทวกรรมรังรักษ์ และถนนกรุงเกษมตั้งแต่แยกมัฆวานถึงสะพานเทวกรรมรังรักษ์

ส่วนประกาศฉบับที่ 2 ระบุห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะในเส้นทางถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานีถึงสามแยกถนนราชวิถีตัดถนนพิชัย ถนนราชวิถีตั้งแต่แยกการเรือนถึงแยกราชวิถี และถนนอู่ทองในตั้งแต่แยกอู่ทองในถึงพระบรมรูปทรงม้ารัชกาลที่ 5 การประกาศพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับนี้ เพื่อป้องกันและควบคุมไม่ให้สถานการณ์ขยายลุกลามจนเกิดความรุนแรงเกิดผลเสียหายต่อเศรษฐกิจกระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร

ทั้งนี้ หากประชาชนฝ่าฝืนเดินทางเข้าไปชุมนุมในพื้นที่ที่มีประกาศ อาจถูกดำเดินคดีตามกฏหมายได้ หลังรับฟังชี้แจงชาวบ้านสมัชชาคนจน ยืนยันจะเดินทางไปชุมนุมอย่างสงบ เพื่อให้ปัญหาของชาวบ้านได้รับการแก้ไขภายในรัฐบาลนี้