อุบลราชธานี-กลุ่มชาวบ้าน 3 อำเภอใน จ.อุบลราชธานี ในนามกลุ่มผู้ใช้น้ำกว่า 1,000 คน รวมตัวร้องคัดค้าน ครม.ไม่ให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล อ้างจะเกิดผลกระทบขาดน้ำทำเกษตรกรรมและใช้ในครัวเรือนในฤดูแล้ง แต่ร่วมขอค่าชดเชยจากผลกระทบสร้างเขื่อนเมื่อ 20 ปีก่อนด้วย
วันนี้( 21 ก.พ.) ที่หน้าที่ว่าการอำเภอพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ตัวแทนชาวบ้านจาก 3 อำเภอคือ โขงเจียม สิรินธร และพิบูลมังสาหาร ซึ่งอ้างตัวเป็นเกษตรกรผู้ใช้น้ำและทำประมงริมแม่น้ำมูลประมาณ 1,000 คน รวมตัวประท้วงเรียกร้องไม่ให้ ครม.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้านสมัชชาคนจน กรณีให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลถาวร โดยอ้างว่าจะทำให้พวกตน ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำทำเกษตรกรรมและประกอบอาชีพประมงน้ำจืดสองฝั่งแม่น้ำมูลขาดแคลนน้ำใช้ในภาคเกษตรกรรมและภาคครัวเรือนในฤดูแล้ง พร้อมประกาศว่าหากรัฐบาลไม่ฟังเสียงของพวกตน จะมีการจัดประท้วงใหญ่ เพื่อกดดันรัฐบาลเช่นเดียวกับกลุ่มสมัชชาคนจน
จึงมาร้องคัดค้านไม่ต้องการให้มีการเปิดประตูเขื่อนปากมูล เพราะเกรงจะได้รับผลกระทบหาก ครม.มีมติให้เปิดประตูระบายน้ำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มสมัชชาคนจน ส่วนข้อเรียกร้องให้จ่ายเงินค่าชดเชย หรือจัดสรรที่ดินทำกินให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนคนละ 15 ไร่ กลุ่มชาวบ้านผู้ใช้น้ำไม่ขอคัดค้าน พร้อมขอร่วมลงชื่อเรียกร้องค่าชดเชยที่รัฐจะจัดสรรให้ผู้ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
ต่อมานายทวีศักดิ์ ประสิทธิ์โศภีน นายอำเภอพิบูลมังสาหาร และตัวแทนจากจังหวัดเชิญตัวแทนชาวบ้านเข้าหารือ โดยนายโสภณ บันหนองสา สมาชิก อบต.ช่องเม็กหนึ่งในแกนนำชาวบ้านระบุว่า พวกตนรู้สึกเป็นห่วงหลังทราบข่าวว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเป็นประธานคณะกรรมการแก้ปัญหากลุ่มสมัชชาคนจน จะนำข้อเรียกร้องของกลุ่มสมัชชาคนจนจำนวน 2 ข้อ คือ 1.ให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลอย่างถาวร และ 2.ให้ชดเชยเยี่ยวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูลเมื่อกว่า 20 ปี เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 22 ก.พ.นี้
หลังการเจรจากันประมาณ 30 นาที นายทวีศักดิ์ นายอำเภอพิบูลมังสาหาร เป็นตัวแทนรับหนังสือและรายชื่อชาวบ้านจำนวน 29,000 ราย ที่ร้องคัดค้านไม่ให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล และขอรับค่าชดเชยจากผลกระทบ ส่งต่อให้รัฐบาลรับไปพิจารณา ก่อนพากันสลายตัวไปในบ่ายวันเดียวกัน
