ภาครัฐร่วมแก้ปัญหาชุมชนเก็จแก้วไม่มีทางเข้า-ออก

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หน่วยงานภาครัฐในภูเก็ตร่วมแก้ปัญหาให้ชาวบ้านในชุมชนภูเก็จแก้ว มีทางเข้า-ออกชุมชน

นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังลงพื้นที่ชุมชนภูเก็จแก้ว หลังโครงการพนาสนธิ์ ม.3 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เพื่อตรวจสอบกรณีชาวบ้านในชุมชนร้องเรียนเส้นทางเข้า-ออกชุมชนฯ ที่ต้องผ่านโครงการหมู่บ้านพนาสนธิ์ ว่าตนพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการเกี่ยวข้อง ทั้งอำเภอเมือง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ป่าไม้จังหวัด ที่ดินจังหวัด เทศบาลตำบลวิชิต และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ชุมชนภูเก็จแก้ว เพื่อดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้าน

ทั้งนี้ ชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้เป็นคนยากจนเข้ามาอยู่อาศัยบนที่ดินมีโฉนด เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ที่เจ้าของได้จำนองไว้กับธนาคาร โดยชุมชนอ้างว่าได้เข้ามาอยู่อาศัยหลายสิบปีแล้ว และมีเส้นทางเข้า-ออกชุมชนเพียงเส้นทางเดียว

สำหรับเส้นทางเข้า-ออกดังกล่าว ปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่โครงการของบ้านจัดสรรของพนาสนธิ์ ซึ่งเมื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการได้กั้นรั้วโครงการ ทำให้ชาวบ้านในชุมจำนวน 16 ครัวเรือน ประมาณ 50-60 คน ได้รับความเดือดร้อนเรื่องเส้นทางเข้า-ออก ไม่สามารถใช้เส้นทางไปมาได้ จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมมายังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และรับฟังปัญหาจากชาวบ้าน คิดว่าเรื่องของการใช้เส้นทางเส้นนี้ น่าจะเป็นปัญหาในอนาคตอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เนื่องจาก ตามระเบียบกฎหมายแล้ว ถ้ามีหมู่บ้านจัดสรรเกิดขึ้นหมู่บ้านจะไม่อนุญาตให้คนภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิก เข้ามาใช้สาธารณูปโภค สาธารณูปการ

อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านในระยะเวลานี้ ได้ขอให้โครงการพนาสนธิ์อนุญาตให้ทางชุมชนได้ใช้เส้นทางนี้เข้า-ออกชั่วคราว จนกว่าชาวบ้านเขาจะมีทางออกอื่น ซึ่งทางโครงการพนาสนธิ์ก็ยินดีที่จะให้ชาวบ้านได้ใช้เส้นทางปัจจุบันชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะได้เส้นทางใหม่ให้กับชาวบ้านต่อไป

โดยได้มอบหมายให้ทางปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต ปลัดเทศบาลตำบลวิชิต ไปร่วมเจรจากับทางเจ้าของพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งอยู่ติดต่อกับบริเวณที่ดินแปลงที่ชุมชนอาศัยอยู่ เพื่อขอใช้เป็นเส้นทางเข้า-ออกให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งจะไปออกตรงบริเวณซอยเจริญโรจน์ก็คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

นอกจากนี้ นายสมเกียรติยังได้กล่าวถึงที่ดินแปลงที่ชุมชนอาศัยอยู่นี้ด้วยว่า ถ้าที่ดินแปลงนี้เป็นที่ตาบอด ไม่มีทางเข้า-ออก ธนาคารก็คงจะไม่รับจำนองไว้ แต่เมื่อธนาคารรับจำนองก็น่าจะมีเส้นทางหนึ่งเส้นทางใดที่คนที่อยู่ในที่ดินแปลงนี้สามารถเข้า-ออกได้โดยภาวะจำยอม ซึ่งเรื่องนี้ทางที่ดินจังหวัดภูเก็ตก็จะรับไปดำเนินการว่ามีเส้นทางเข้า-ออก ที่เป็นเส้นทางสาธารณะหรือไม่