ชาวสวนยางพัทลุงเหยื่อดีเปรสชันวอนรับเร่งชดเชยค่าเสียหาย

พัทลุง -ชาวสวนยางพาราจังหวัดพัทลุง เหยื่อพายุดีเปรสชันพัดถล่ม วอนรัฐเร่งชดเชย หลังได้มีรางวัดและสำรวจเสร็จสิ้นแล้ว แต่กลับเงียบหายไปพร้อมงบประมาณ 103 ล้าน ซึ่งสำนักงานกองทุนสงเคราะห์ได้นำมาฝากไว้กับ ธ.ก.ส. แต่ไม่ยอมจ่ายให้เกษตรกรแต่อย่างใด

วันนี้ (9 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ที่โดนพายุดีเปรสชันพัดถล่ม เมื่อวันที่ 1 พ.ย.53 ที่ผ่าน ทำให้สวนยางพาราล้มระเนระนาดได้รับความเสียหายไปกว่า 58,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 10 ของปริมาณยางที่ปลูกในจังหวัด ซึ่งเกษตรกรยังคงทุกข์หนัก เนื่องจากจนถึงขณะนี้เหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมานานกว่า 3 เดือนแล้วสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ยังไม่ชดเชยค่าเสียหายในเบื้องต้น ที่มีการกำหนดจ่ายให้ในวันที่ 27 ธันวาคม 2553 ในราคาไร่ละ 6,007 บาท แม้จะทำการรางวัดและสำรวจเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม

เกษตรชาวสวนยางในพื้นที่ตำบลเกาะนางคำ อำเภอปากพะยูน จ.พัทลุง รายหนึ่งกล่าวว่าจนถึงขณะนี้เกษตรกรที่ทำสวนยางในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุพัดถล่ม เริ่มหวั่นวิตกในการช่วยเหลือของรัฐบาล เพราะผ่านมานานกว่า 3 เดือนแล้ว เงินค่าชดเชยที่รัฐสัญญาว่าจะช่วยเยียวยาชาวสวนยางไร่ 6007 บาท เกษตรกรยังไม่รับแต่อย่างใด และทางสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางพัทลุงยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน

เกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเสียหาย เริ่มสงสัยในงบประมาณดังกล่าว ที่เป็นค่าเยียวยาช่วยชาวสวนยางเป็นเงินทั้งสิ้น 103 ล้านบาท ซึ่งทางสำนักงานกองทุนสงเคราะห์ได้นำมาฝากไว้กับ ธ.ก.ส. แต่ไม่ยอมจ่ายให้เกษตรกรแต่อย่างใด

ในขณะที่เกษตรกรยังระบุอีกว่าหากการช่วยเหลือช้า ทำให้เกษตรกรต้องเสียโอกาสในการปลูกยางใหม่อีกหลายเดือน เพราะขณะนี้กำลังสิ้นฤดูฝน หากไม่ได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วเกษตรกรต้องเลื่อนการปลูกไปจนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งจากราคายางพาราที่สูง เป็นแรงจูงใจทำให้เกษตรต้องเร่งปลูกโดยเร็ว