ยะลา - ผู้ปกครองนักศึกษาไทย ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของบุตรหลาน วอนรัฐบาลรับกลับบ้านมาด่วน ด้านนักศึกษาไทยในอียิปต์ เผย หลังถูกเคอร์ฟิวความเป็นอยู่ลำบาก ขณะเพื่อนนักศึกษาประเทศอื่น ทยอยกลับเกือบหมดแล้ว
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่บ้านนิบงบารู หมู่ที่ 7 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา นายอับดุลรอฮมาน วอเดร์ ซึ่งเป็นพ่อของนางสาวสุไมยะห์ วอเคร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาภาษาอาหรับ มหาวิทยาลัยไคโร ประเทศอียิปต์ พร้อมภรรยา และญาติพี่น้อง ได้รวมตัวกันโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ สอบถามไปยัง นางสาว สุไมยะห์ ผู้เป็นบุตรสาว ด้วยความเป็นห่วง โดยได้สอบถามเรื่องของความเป็นอยู่ สถานการณ์โดยทั่วไป และความปลอดภัย กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอียิปต์
โดยใช้เวลาในการพูดคุยกันประมาณ 15 นาที หลังจากการพูดคุยกับบุตรสาวแล้ว ทาง นายอับดุลรอฮมาน วอเดร์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บุตรสาวเป็นนักเรียนทุนของ ก.พ.เดินทางไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยไคโร เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยได้เช่าบ้านพักอาศัย อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย ใจกลางนครเมืองไคโร เมื่อเกิดเหตุตนเองได้โทรศัพท์ให้ลูกสาว ย้ายสถานที่พักอาศัยไปอยู่รวมกับกลุ่มนักศึกษาไทยที่บริเวณชานเมือง และให้อยู่แต่ภายในบ้านห้ามออกนอกบริเวณ เนื่องจากว่าบ้านพักเดิม มีกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาล มีการเดินขบวนอยู่ใกล้ๆ กับบ้านพัก ซึ่งเต็มไปด้วยกองกำลัง ทหาร ตำรวจ และยานเกราะ อาวุธปืนใหญ่ พร้อมกับ มีเสียงปืน ประทุดังขึ้นอยู่ตลอดเวลาอาจเกิดอันตรายได้ แต่เมื่อมาอยู่ที่บริเวณชานเมืองแล้ว ปรากฏว่ายังมีกลุ่มคนที่ต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัก ออกมาเดินขบวนขับไล่รัฐบาลเช่นกัน
นอกจากนี้ บุตรสาวได้เล่าให้ฟังว่า ในพื้นที่พักอาศัย ยังมีการปล้นสะดมร้านค้า อย่างประปราย พร้อมทั้งถูกกำหนดเป็นพื้นที่การประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบริเวณเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป ถึง 09.00 ในวันรุ่งขึ้น ทำให้มีปัญหาในเรื่องของการจัดหาอาหารการกินเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ บุตรสาวยังเล่าให้ฟังว่า บรรดานักศึกษาจากประเทศอื่นที่มาเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน และมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในกรุงไคโร รัฐบาลของแต่ละประเทศนั้นๆ ได้จัดเครื่องบินมารับนักศึกษากลับไปเกือบหมดแล้ว เหลือแต่นักศึกษาจากประเทศไทย และประเทศอื่นบางส่วนเท่านั้น ที่เหลืออยู่
นอกจากนี้ นักศึกษายังมีปัญหาในเรื่องของการติดต่อสื่อสารกับสถานทูต เนื่องจากระบบเครือข่ายถูกตัดคลื่นไปหมดแล้ว เหลือใช้ได้เฉพาะสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ใช้ได้ในบางช่วงบางคราวเท่านั้นเอง
นายอับดุลเลาะมาน วอเดร์ ยังกล่าวอีกว่า ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ให้ความสำคัญในการอพยพนักศึกษาไทยกลับประเทศไทยโดยด่วน ซึ่งทราบว่า มีนักศึกษาไม่น้อยกว่า 2,500 คน ที่ยังไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งการดำเนินการของรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบนักเรียนไทย ในต่างประเทศโดยตรง จะต้องเร่งรัด ให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน ในขณะเดียวกัน รัฐบาลเองถึงเวลา ที่จะแสดงความจริงใจ ในการดูแลชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัด และโอกาสที่จะบ่งบอกถึงความจริงใจต่อการดูแลชาวไทยมุสลิม ซึ่งจะมีผลทางด้านจิตใจ ของประชาชนในพื้นที่ และจะเป็นต่อแนวทางในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกช่องทางหนึ่งด้วย