ชาวบ้านรวมตัวเรียกร้องเอกสารสิทธิที่ทำกิน

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านในพื้นที่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา กว่า 200 คน รวมตัวเข้ายื่นหนังสือผู้ว่าราชการจังหวัด ขอสิทธิ์ทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาวังพา-เทือกเขาแก้ว ที่ชาวบ้านครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินและอยู่อาศัยต่อเนื่องมานานกว่า 60 ปีแต่ถูกกลุ่มอนุรักษ์ต่อต้าน

วันนี้ (25 ม.ค.) ชาวบ้านพื้นที่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา กว่า 200 คน นำโดย นายสุรินทร์ ไชยเขียว นายสมศิลป์ แสงฟุ้ง และนายอภิชาต มู่เก็ม ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา พร้อมถือป้ายผ้ามีข้อความ “ขอความเป็นธรรม ปัญหาเดือดร้อน ที่ทำกินในเขตป่าสงวน เทือกเขาแก้ว-เทือกเขาวังพา” เนื่องจากชาวบ้านอ้างเหตุผลว่า ได้ครอบครอง และทำประโยชน์ในที่ดินและอยู่อาศัยต่อเนื่อง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาวังพา-เทือกเขาแก้ว มานานกว่า 60 ปี และได้ทำการปลูกยางพาราเต็มพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งในส่วนของพื้นที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ หรือป่าทึบ และไม่ได้เป็นป่าต้นน้ำ แต่เป็นพื้นที่ราบ

ขณะที่ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า บางส่วนอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ และบางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ใกล้เคียงบางส่วนได้นำไปออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ไปบ้างแล้ว แต่ปรากฏว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อออกเอกสารสิทธิทำกินให้กับชาวบ้าน ได้มีบุคคลที่อ้างตัวเอง ว่า เป็นกลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ ได้มาข่มขู่และขับไล่จนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่สามารถปฏิบัติงานได้

กลุ่มที่อ้างตัวว่า เป็นกลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ ก็มีสวนยางพาราอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเช่นกัน แต่ที่อ้างตัวเป็นกลุ่มอนุรักษ์เพื่อขับไล่ชาวบ้าน เพียงเพื่อต้องการที่จะเข้าไปทำกินเสียเอง จึงต้องการให้จังหวัดลงไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเป็นข้อมูลและรับทราบข้อเท็จจริง เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการช่วยเหลือชาวบ้าน โดยการออกเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินต่อไป

เบื้องต้น นายพิศาล ทองเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้รับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมพร้อมรายชื่อและเอกสารหลักฐานภาพถ่ายพื้นที่ที่ชาวบ้านทำกินอยู่ในปัจจุบันพร้อมกับจะดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย