ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – นักวิชาการ มอ.ปัตตานี ชักแถวอัดเละแกนนำม็อบหางแดงมีพฤติกรรมสุดถ่อย กรณีนำการเสียชีวิตของ “ผกก.สมเพียร เอกสมญา” ไปพัวพันกับความขัดแย้งทางการเมือง ชี้ การเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของวีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโดมีคุณค่ามากกว่ากลุ่มผลประโชยน์ทางการเมืองแบบเทียบกันไม่ได้
กรณีแกนนำ นปช.ที่กำลังก่อม็อบปั่วป่วนในกรุงเทพฯ ได้ฉกฉวยเอากรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่เกิดจากน้ำมือของกลุ่มโจรใต้ ไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อโค่นล้มรัฐบาลและล้มล้างระบบอำมาตย์ โดยเฉพาะการนำไปปราศรัยแบบย้ำคิดย้ำทำบนเวทีเสื้อแดง รวมถึงที่มีข่าวว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้พยายามทาบทาม นายชุมพล เอกสมญา หรือ นายจิรพัชช์ ภูวพงษ์พิทักษ์ บุตรชายคนโตของ พ.ต.อ.สมเพียร ให้ไปขึ้นเวทีคนเสื้อแดง โดยให้เวลาถึง 1 ชม.แต่ก็ถูกปฏิเสธมาตลอดนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผศ.ชิดชนก ราฮิมมูลา นักวิชาการจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี) ให้ความเห็นกับ “ASTVผู้จัดการ” ว่า การกระทำของแกนนำ นปช.ที่พยายามนำเอาการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.สมเพียร ซึ่งในเวลานี้ได้รับการยอมรับจากสังคม ว่า เป็นวีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโดในชายแดนใต้ ไปผูกกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่กำลังป่วนบ้านป่วนเมืองในกรุงเทพฯ การกระทำเช่นนี้ถือเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง
“ไม่ควรใช้ลูกหลานของวีรบุรุษมาเป็นเหยื่อทางการเมือง เพราะที่ผ่านมา พ.ต.อ.สมเพียร เป็นตัวอย่างที่ดีในฐานะนักต่อสู้แห่งจังหวัดชายแดนภาคใต้คนหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพที่สะท้อนถึงกระบวนการบริหารอำนาจรัฐอย่างอยุติธรรมในประเทศไทย ที่ราชการชั้นผู้น้อยมักไม่ได้สิทธิ์ที่เท่าเทียมกับพวกที่มีทั้งเงินและเส้น ดังนั้น จึงไม่ควรนำครอบครัวของผู้ทำคุณงามความดีให้กับแผ่นดินต้องมามัวหมอง เพียงเพื่อผลประโยชน์ให้กับใครก็ไม่รู้ อีกทั้งไม่คิดว่าเป็นความเพลี่ยงพล้ำของรัฐบาล เพราะหากจะมีการโจมตีก็ควรทำในอีกรูปแบบหนึ่ง” ผศ.ชิดชนก กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตรภิรมย์ศรี นักวิชาการรัฐศาตร์ จากสถาบันเดียวกันเพิ่มเติมว่า ในส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่มีการนำเอาปัญหาความไม่สงบในชายแดนใต้ไปเชื่อมโยงกับปัญหาทางการเมือง เพราะการเสียสละของ พ.ต.อ.สมเพียร เป็นแบบอย่างของการเสียสละเยี่ยงนักรบ เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น หากกลุ่ม นปช.นำการเสียชีวิตของวีรบุรุษไปเชื่อมโยงกับความขัดแย้งของกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง ก็จะทำให้คุณค่าของความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ถูกลดทอนลงไป
“นอกจากนี้ การนำเรื่องของ พ.ต.อ.สมเพียร ไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เป็นความขัดแย้งทางการเมือง จึงมีความเสี่ยงสูงมากต่อความผิดพลาด อาจจะทำให้เกิดความความเสียหายอย่างใหญ่หลวงตามมา ปัญหาความขัดแย้งระหว่างภาครัฐกับกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าใครแพ้หรือชนะ ปัญหาเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ ส่วนปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้นั้นเกี่ยวพันกับอำนาจรัฐ อำนาจอธิปไตย สิทธิในเรื่องการปกครองตนเอง จึงอยากให้ฝ่ายต่างๆ ที่พยายามจะกระทำการใดๆ แยกแยะปัญหาให้ชัด เพราะเป็นเรื่องที่เปราะบางมาก” ผศ.ดร.ศรีสมภพกล่าวตบท้าย
กรณีแกนนำ นปช.ที่กำลังก่อม็อบปั่วป่วนในกรุงเทพฯ ได้ฉกฉวยเอากรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่เกิดจากน้ำมือของกลุ่มโจรใต้ ไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อโค่นล้มรัฐบาลและล้มล้างระบบอำมาตย์ โดยเฉพาะการนำไปปราศรัยแบบย้ำคิดย้ำทำบนเวทีเสื้อแดง รวมถึงที่มีข่าวว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้พยายามทาบทาม นายชุมพล เอกสมญา หรือ นายจิรพัชช์ ภูวพงษ์พิทักษ์ บุตรชายคนโตของ พ.ต.อ.สมเพียร ให้ไปขึ้นเวทีคนเสื้อแดง โดยให้เวลาถึง 1 ชม.แต่ก็ถูกปฏิเสธมาตลอดนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผศ.ชิดชนก ราฮิมมูลา นักวิชาการจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี) ให้ความเห็นกับ “ASTVผู้จัดการ” ว่า การกระทำของแกนนำ นปช.ที่พยายามนำเอาการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.สมเพียร ซึ่งในเวลานี้ได้รับการยอมรับจากสังคม ว่า เป็นวีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโดในชายแดนใต้ ไปผูกกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่กำลังป่วนบ้านป่วนเมืองในกรุงเทพฯ การกระทำเช่นนี้ถือเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง
“ไม่ควรใช้ลูกหลานของวีรบุรุษมาเป็นเหยื่อทางการเมือง เพราะที่ผ่านมา พ.ต.อ.สมเพียร เป็นตัวอย่างที่ดีในฐานะนักต่อสู้แห่งจังหวัดชายแดนภาคใต้คนหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพที่สะท้อนถึงกระบวนการบริหารอำนาจรัฐอย่างอยุติธรรมในประเทศไทย ที่ราชการชั้นผู้น้อยมักไม่ได้สิทธิ์ที่เท่าเทียมกับพวกที่มีทั้งเงินและเส้น ดังนั้น จึงไม่ควรนำครอบครัวของผู้ทำคุณงามความดีให้กับแผ่นดินต้องมามัวหมอง เพียงเพื่อผลประโยชน์ให้กับใครก็ไม่รู้ อีกทั้งไม่คิดว่าเป็นความเพลี่ยงพล้ำของรัฐบาล เพราะหากจะมีการโจมตีก็ควรทำในอีกรูปแบบหนึ่ง” ผศ.ชิดชนก กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตรภิรมย์ศรี นักวิชาการรัฐศาตร์ จากสถาบันเดียวกันเพิ่มเติมว่า ในส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่มีการนำเอาปัญหาความไม่สงบในชายแดนใต้ไปเชื่อมโยงกับปัญหาทางการเมือง เพราะการเสียสละของ พ.ต.อ.สมเพียร เป็นแบบอย่างของการเสียสละเยี่ยงนักรบ เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น หากกลุ่ม นปช.นำการเสียชีวิตของวีรบุรุษไปเชื่อมโยงกับความขัดแย้งของกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง ก็จะทำให้คุณค่าของความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ถูกลดทอนลงไป
“นอกจากนี้ การนำเรื่องของ พ.ต.อ.สมเพียร ไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เป็นความขัดแย้งทางการเมือง จึงมีความเสี่ยงสูงมากต่อความผิดพลาด อาจจะทำให้เกิดความความเสียหายอย่างใหญ่หลวงตามมา ปัญหาความขัดแย้งระหว่างภาครัฐกับกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าใครแพ้หรือชนะ ปัญหาเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ ส่วนปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้นั้นเกี่ยวพันกับอำนาจรัฐ อำนาจอธิปไตย สิทธิในเรื่องการปกครองตนเอง จึงอยากให้ฝ่ายต่างๆ ที่พยายามจะกระทำการใดๆ แยกแยะปัญหาให้ชัด เพราะเป็นเรื่องที่เปราะบางมาก” ผศ.ดร.ศรีสมภพกล่าวตบท้าย
