xs
xsm
sm
md
lg

มท.1 ชี้ก็ดี อดีต ขรก.ตั้งชมรมราชสีห์ ย้ำไม่มีซื้อเก้าอี้ - “วงศ์ศักดิ์” รับย้ายผิดปกติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
“ชวรัตน์” บอกก็ดี อดีตข้าราชการมหาดไทยตั้งชมรมราชสีห์ผู้ภักดีแผ่นดิน จะได้หมดข้อสงสัย ยันไม่มีซื้อเก้าอี้ เผย “ปลัดคิกๆ” สั่ง “จาดุร” แจงใส่ร้ายแล้ว - กมธ.ปกครอง สภาฯ เชิญอธิบดีกรมการปกครองสอบซื้อคอมพ์ฉาว ยันย้ายเจ้าหน้าที่ สนองตามคำขอผู้ว่าฯ ยอมรับย้ายล็อตใหญ่นอกฤดูส่อไม่ปกติ “ภุชงค์” รับสอบต่อลำบากหลังข้าราชการกลับเข้าทำหน้าที่เดิม เชื่อมีนักการเมืองเอี่ยว “ชวลิต” รุดนำข้อมูลแจง กมธ.ป.ป.ช.ต่อ ยันมีมูลส่อทุจริตจริง

วันนี้ (25 ก.พ.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายศิวะ แสงมณี อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุจะมีการตั้งชมรม “ราชสีห์ผู้ภักดีต่อแผ่นดิน” เพื่อให้เป็นที่พึ่งของข้าราชการปัจจุบันให้สามารถร้องเรียนปัญหาได้ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีเพื่อที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงให้ชัดเจน จะได้หมดข้อสงสัย ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้น 1 ชุด เพื่อสอบสวนกรณีปัญหาการทุจริตสอบโรงเรียนนายอำเภอแล้ว

ส่วนที่มีหลายฝ่ายเสนอให้กระทรวงมหาดไทยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกรณีปัญหาการ ซื้อขายตำแหน่งด้วยนั้น นายชวรัตน์กล่าวว่า หากมีการเสนอเรื่องเข้ามา และพิจารณาว่ามีความจำเป็น ก็ต้องตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาสอบสวน แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ยืนยัน มท.ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งตามที่เป็นข่าวแน่นอน ทั้งนี้ นายจาดุร อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และนายกสมาคมข้าราชการพลเรือนแห่งประเทศไทยยังไม่ได้มีการชี้แจงใดๆ เข้ามา ซึ่งเรื่องนี้ นายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีการสั่งการให้นายจาดุรชี้แจงรายละเอียดภายใน 1 สัปดาห์แล้ว

ขณะที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภุชงค์ รุ่งโรจน์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ได้พิจารณาความไม่ชอบมาพากลในการเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์ 3,490 ล้านบาทของกระทรวงมหาดไทย โดยได้เชิญนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง นายวิเชียร ชิดชนกนาถ อดีตผู้อำนวยการส่วนบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีการทะเบียน สำนักบริหารการทะเบียน (สพท.สน.บท.) ช่วยราชการ ศอ.บต. พร้อมด้วยข้าราชการของสำนักบริหารการทะเบียนที่ถูกย้ายไปช่วยราชการ เจ้าหน้าที่ทดสอบระบบคอมพิวเตอร์ และคณะกรรมการกำหนดขอบข่ายงาน (ทีโออาร์) เข้าร่วมการชี้แจง

นายภุชงค์แถลงภายหลังการประชุมว่า การร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างคอมพิวเตอร์ที่ส่อไปในทางไม่สุจริต และอาจเกี่ยวพันกับการแต่งตั้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยอธิบดีกรมการปกครองชี้แจงว่า การทำคำสั่งย้ายข้าราชการที่ได้ลงนามไปนั้น เพราะทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำเรื่องขอตัวบุคคลจากสำนักบริหารการทะเบียน ให้ไปช่วยราชการ จึงได้สนองความต้องการ เพราะคิดว่าได้ผ่านการกลั่นกรองจากผู้ว่าฯ จึงไม่น่าปัญหา อย่างไรก็ตาม ข้าราชการที่เป็นกรรมการทีโออาร์ที่ถูกย้ายไปได้ทำความเห็นแย้ง การทดสอบคอมฯโดยเจ้าหน้าที่เทคนิคชุดใหม่ เพราะห่วงว่าจะกระทบกับข้อตกลง และอาจทำให้เกิดความเสียหาย เพราะการทดสอบไม่ได้ดำเนินการตามที่ทีโออาร์กำหนด จึงต้องรักษาผลประโยชน์ไว้ โดยสรุปแล้วการย้ายก็อาจจะเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ชุดนี้ ดังนั้น กมธ.จึงเห็นว่าเป็นการย้ายที่ไม่ปกติตามเหตุผลทางราชการ

“แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ติดใจ รวมทั้งขณะนี้ได้ย้ายกลับมาทำงานในตำแหน่งเดิมก่อน กำหนดแล้ว ทาง กมธ.จึงไม่สามารถสอบสวนต่อไปได้ ส่วนจะมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ คำตอบของผู้ที่มาชี้แจง เชื่อได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ นายวิเชียรได้ระบุว่าอธิบดีฯ ได้พูดว่า พวกท่านเป็นคนตรงเกินไป ดีเกินไป จำเป็นต้องอดทน แต่ไม่นานก็จะย้ายกลับมาแน่นอน อย่างไรก็ตาม กมธ.ป้องกันและปราบการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณเรื่องนี้ด้วย ซึ่ง กมธ.ปกครองคงจะนำข้อสรุปจากการประชุมวันนี้ส่งให้พิจารณาว่ามีการส่อไป ในทางทุจริตหรือไม่ โดยจะเข้าไปติดตามการตรวจสอบของ กมธ.ป.ป.ช.ด้วย นอกจากนี้ จะสรุปเรื่องทั้งหมดเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป” นายภุชงค์กล่าว

ด้าน นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ส.ส.สุโขทัย พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการ กมธ.กล่าวว่า นอกจากนี้ การชี้แจงของข้าราชการที่ถูกโยกย้าย ไม่แน่ใจว่าเป็นการเกรงใจอธิบดีหรือไม่ แต่ทางอธิบดีได้ยอมรับกับที่ประชุมว่า การโยกย้ายลักษณะนี้เป็นการย้ายนอกฤดูกาลและย้ายในหน่วยงานเดียวกับเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องไม่ปกติ ไม่เคยมีปรากฎมาก่อน

ทั้งนี้ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบได้นำข้อสรุปของกมธ.ปกครอง เข้าไปชี้แจงต่อ กมธ.ป.ป.ช.โดยระบุว่า ผลการตรวจสอบ พบว่ามีการกระทำที่ส่อไปในทางไม่สุจริต 3 ประเด็น 1.น่าจะมีการล็อกสเปกกับบริษัทที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง 2.การทดสอบไม่เป็นไปตามหลักของทีโออาร์ และคณะกรรมการทดสอบชุดใหม่ก็อ้างว่าไม่สามารถติดต่อนายวิเชียรได้ แต่นายวิเชียรได้ยืนยันต่อ กมธ.ปกครองว่าไม่ได้รับการติดต่อ และ 3.ไม่เข้าใจว่าเหตุผลที่ย้ายข้าราชการกลุ่มนี้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่มาทำหน้าที่แทนกลับมาจาก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญแต่อย่างใด

ทางด้านการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานในการประชุม โดยเชิญตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทยมาชี้แจงกรณีการตรวจสอบโครงการจัดทำให้ บริการประชาชนทางด้านการทะเบียนและบัตรประชาชนแบบใหม่ รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องคอมพิวเตอร์ 3,490 ล้านบาทของกระทรวงมหาดไทย

นายวิเชียร ชิดชนกนารถ ผอ.ส่วนการบริหารและพัฒนาเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดขอบเขตงาน (ทีโออาร์) กล่าวชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่า คณะกรรมการตรวจสอบราคาที่ตั้งขึ้นมาใหม่ มีการเพิ่มเสป็ค ของคอมพิวเตอร์จำนวน 2 ประเด็นคือ 1.บริษัทคู่สัญญาจะต้องมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ ควบคุมกล่องใส่บัตร ที่เครื่องผลิตบัตร เพื่อความปลอดถัยและเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ และ 2.มีการเพิ่มคุณสมบัติ อุปกรณ์สำรองไฟฟ้า ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีอายุการใช้งานที่น้อยลง ดังนั้นตนจึงต้องทำเรื่องส่งไปยังกระทรวงการคลังให้ตีความว่า เข้าข่ายเป็นการเพิ่มสเป็กหรือไม่ จากการเพิ่มเสป็กส่งผลมีบริษัทผ่านคุณสมบัติด้านเทคนิคจาก 3 รายเหลือ 2 รายคือ บริษัทคอนโทรลดาต้า (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไทยอีควิปเมนต์รีเสิร์ช จำกัด

ด้านนายวงศ์สวัสดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในส่วนของตน ไม่ได้ลงนามทีโออาร์เพื่อรับรองการจัดซื้อดังกล่าว เนื่องจากได้รับการชี้แจงจากนายวิเชียร ในฐานะประธานทีโออาร์ว่า ไม่เป็นไปตามเสป็กที่คณะคณะกรรมการตั้งไว้

จากนั้นกรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายวิลาศ และนายธีระชาติ ปางวิรุฬรักษ์ ส.ส.ชุมพร ได้ ตั้งข้อสังเกตว่า การเพิ่มเงื่อนไขทำให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบ และอาจขัดต่อพ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐหรือพ.ร.บ.ฮั้ว นอกจากนี้ยังมีความพยามยามตั้งคนของตัวเองมานั่งเป็นประธานประกวดราคาเพื่อ ให้บริษัทที่เป็นคู่สัญญาเดิมได้รับเลือกอีกครั้ง

ขณะ ที่นายพิภพ คำทองสุข ผอ.สำนักบริหารการทะเบียน ในฐานะประธานกรรมการประกวดราคาชุดใหม่ กล่าวว่า การดำเนินการทุกอย่าง ไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแทรง รวมทั้งคนเป็นข้าราชการคงไม่กล้าทำอะไรที่ตัดอนาคตของตัวเอง ยืนยันว่าไม่มีการเพิ่มเสป็ก แต่เป็นเพียงการชี้แจงเป็นปากเปล่าต่อบริษัทต่างๆ ที่จะมาประกวดราคาเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้มีความเห็นร่วมกันว่า ยังสงสัยในการชี้แจง เนื่องจากพบว่าการเพิ่มสเป็กไม่ได้เป็นการชี้แจงปากเปล่า แต่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีลายเซ็นของนายนายปรีดา บุญประคอง หัวหน้าฝ่ายระบบผลิตบัตรประชาชนแบบใหม่ ซึ่งเป็น 1 ในคณะกรรมการประกวดราคาชุดใหม่ด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมจะเชิญบริษัททั้งหมดที่เข้าร่วมการประกวดราคามาชี้แจงอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น