“ชวน” มั่นใจยึดทรัพย์ “แม้ว” พิสูจน์กลไกตุลาการยังพึ่งได้

ตรัง – “ชวน หลีกภัย” ระบุหลังคดียึดทรัพย์ "ทักษิณ" ระบบตุลาการยังคงเป็นที่พึ่งของสังคมไทย และเป็นที่เชื่อถือจากทั่วโลก ด้าน “ถาวร เสนเนียม” ไม่ห่วงเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดง เชื่อปลุกม็อบไม่เกิน 3 หมื่น

วันนี้ (27 ก.พ.) นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเดินทางกลับมาพักผ่อนอยู่ที่บ้านในจังหวัดตรัง หลังออกจากโรงพยาบาล โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

นายชวน กล่าวว่า ตนไม่อยากแสดงความคิดเห็นกรณีคำพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปรกติ เพราะเคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนการตัดสินหมดแล้ว ทั้งนี้ ก็เห็นได้ชัดเจนทุกครั้งว่า นับตั้งแต่ประเทศชาติถูกการเมืองแทรกแซงการทำงานของทุกองค์กรต่างๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ระบบตุลาการเท่านั้นเป็นที่พึ่งของสังคมไทย ซึ่งระบบตุลาการของไทยก็เป็นที่ยอมรับของทั่วโลกประเทศหนึ่ง แม้ใครจะพูดจาข่มขู่คุกคามการทำงานอย่างหนักเช่นใดก็ตาม กระบวนการยุติธรรมก็สามารถทำงานได้ และคงความเป็นธรรมเป็นที่ยอมรับของทั่วไป

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมคารวะ นายชวน หลีกภัย ที่บ้านพักในจังหวัดตรัง มองการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงหลังคดียึดทรัพย์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณกับพวก คงไม่ยอมลดละที่จะดึงอำนาจทางการเมืองกลับไปเป็นของตนเองให้ได้ จึงต้องทำทุกวิธีทาง แม้จะอ้างเหตุการยึดทรัพย์ไม่ได้ เพราะศาลมีเหตุมีผลอย่างยิ่ง แต่เขาก็จะอ้างเหตุอื่น

ที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกดำเนินคดีตามมาอีกอย่างน้อย 8 คดี เช่น เรื่องการปล่อยกู้รัฐบาลพม่า เรื่องการแปลงสัญญาสัมปทาน และเรื่องแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จอีก 6 ครั้ง ดังนั้น ทักษิณจึงต้องเคลื่อนไหวที่จะยึดอำนาจรัฐให้ได้ และออกกฎหมายนิรโทษกรรม หรืออย่างอื่น เพื่อให้ตนเองพ้นผิดให้ได้ แต่อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าประชาชนผู้เป็นกลาง และแสวงหาสันติไม่ออกมาร่วมด้วย และเชื่อว่าผู้ที่มาชุมนุมคราวหน้าจะไม่ถึง 30,000 คน แต่ความพยายามก่อเหตุจะมีมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลไม่ห่วงว่าจะเกิดความรุนแรง เพราะเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว จะใช้ความอดทน และสร้างความเข้าใจกับประชาชน

นายถาวร กล่าวอีกว่า ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จะยุติลงได้ต่อเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ติดคุก หรือมีอันเป็นไปตามกฎธรรมชาติของสัตว์โลก หรือการเคลื่อนไหวมีไปเรื่อยๆ แต่ประชาชนเบื่อหน่ายก็จะเงียบไปเอง แต่รัฐบาลต้องใช้ความอดทน แต่ที่มีการเรียกร้องจะให้รัฐบาลยุบสภานั้น ตนขอบอกว่า ไม่มีเหตุใดต้องยุบสภา เพราะไม่ได้มีความผิด จึงไม่รู้สึกหนักใจอะไร ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะมีขึ้นนั้น หากใครถูกอภิปรายแล้วตอบประเด็นไม่ได้ ก็ต้องรับผิดชอบกันเอง