ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - AIT จับมือกองทัพภาคที่ 4 ส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ มอบตู้พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ ซึ่งเป็นสื่อการเรียนรู้แบบใหม่ให้กับ 17 โรงเรียนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังให้การเรียนรู้ที่สนุกสนานช่วยกระตุ้นให้นักเรียนสนใจศึกษาค้นคว้าข้อมูล และพัฒนาการเรียนได้ดียิ่งขึ้น
นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 ส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ผ่านโครงการ “พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ สู่มือน้องด้วย KIOSK” โดยมอบสื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่เรียกว่า คีออสก์ จำนวนรวม 17 ชุด มูลค่ารวมประมาณ 1.7 ล้านบาท ให้แก่โรงเรียนในเขตพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับโครงการดังกล่าวฯ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็กไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ผ่านสื่อการสอนที่สนุกสนาน และมีคุณค่า เพิ่มพูนความรู้จาก การเรียนปกติ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสำหรับนักเรียนที่จะได้รับความรู้เพิ่มมากขึ้นจากการฝึกฝนทำข้อสอบที่มีเฉลยพร้อมคำอธิบาย ประหยัดเวลาในการทำแบบฝึกหัดจากหนังสือ และสามารถประเมินความรู้ของตนเองเพื่อสอบแข่งขันเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นสูงขึ้น
“ประโยชน์ที่จะได้รับสำหรับทางโรงเรียนก็คือ ได้สื่อการเรียนรู้รูปแบบใหม่ๆ มีเครื่องมือช่วยพัฒนาความรู้ของนักเรียน ตลอดจนสามารถใช้เทคโนโลยีประยุกต์ให้เข้ากับการศึกษาได้อย่างเกิดประสิทธิภาพ เป็นการปลูกฝังอุปนิสัยให้เด็กรักการเรียนรู้ด้วยตนเอง” นายศิริพงษ์กล่าว
ประธานกรรมการบริหาร AIT กล่าวด้วยว่า สำหรับตู้คีออสพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้นี้ เป็นคอมพิวเตอร์หน้าจอแบบสัมผัส สำหรับให้นักเรียนสามารถพัฒนาความรู้จากการทำแบบทดสอบความรู้ 8 กลุ่มสาระ กับข้อสอบที่ถูกบรรจุมากกว่าสามพันข้อ พร้อมเฉลย และคำอธิบายจากคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ สามารถรายงานผลสอบสำหรับนักเรียน และดูลำดับคะแนนแต่ละวิชาได้ ซึ่งนักเรียนจะสามารถพัฒนาความรู้และได้รับความสนุกในการทำแบบทดสอบเช่นเดียวกับการเล่นเกม
ด้าน พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ความร่วมมือกับบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ผ่านโครงการนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการเพิ่มศักยภาพด้านการศึกษาให้กับเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าการศึกษาของเยาวชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง และมีเยาวชนที่ไม่ได้เข้ารับการศึกษาอยู่อีกเป็นจำนวนมาก จึงทำให้การศึกษาโดยเฉลี่ยของประชากรในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่ายังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ จึงเชื่อว่าโครงการนี้จะเข้ามาช่วยกระตุ้น การเรียนรู้ให้กับเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้
ทั้งนี้ ชุดพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ดังกล่าวจะมอบให้กับ 17 โรงเรียน เป็นโรงเรียนในจังหวัดปัตตานีจำนวน 5 โรงเรียน จังหวัดยะลา จำนวน 7 โรงเรียน และจังหวัดนราธิวาส จำนวน 5 โรงเรียน ดังนี้
จังหวัดปัตตานี ได้แก่ 1.โรงเรียนวุฒิชัยวิทยา 2.โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ 3.โรงเรียนยาบีบรรณวิทย์ 4.โรงเรียนสะนอวิทยาคม และ 5.โรงเรียนวังกะพ้อพิทยาคม
จังหวัดยะลา ได้แก่ 1.โรงเรียนคณะราษฎรบำรุงจังหวัดยะลา 2.โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง 2 3.โรงเรียนสตรียะลา 4.โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ 5.โรงเรียนรามันห์ศิริวิทย์ 6.โรงเรียนเบตงวีระราษฎร์ประสาน และ 7.โรงเรียนยะหาศิรยานุกูล
จังหวัดนราธิวาส ได้แก่ 1.โรงเรียนเรียงราษฎร์อุปถัมภ์ 2.โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บางปอประชารักษ์ 3.โรงเรียนธัญธารวิทยา 4.โรงเรียนสุคิรินวิทยา และ 5.โรงเรียนบูกิตประชาอุปถัมภ์
