ระนอง-สรรพากรพื้นที่ระนอง เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เรื่องการคืนเงินภาษีอากร หลังได้รับแจ้งจากประชาชนได้รับโทรศัพท์จากบุคคลอ้างตัวเป็นจำนวนมาก
นายประยูร สืบศิริวิริยะกุล สรรพากรพื้นที่ระนอง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร โทรศัพท์ไปถึงผู้เสียภาษี และประชาชนในท้องที่ต่าง ๆ เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญหลายประการ ได้แก่ ชื่อ-สกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขบัญชีธนาคาร เพื่อนำเงินเข้าบัญชีธนาคาร หรือให้กดรหัสผ่านตู้ ATM เป็นต้น
โดยอ้างว่า จากการตรวจแบบแสดงรายการภาษีระหว่างปี 2546-2551 พบว่า มีภาษีที่จะได้รับคืนเป็นจำนวนหลายพันบาท และจะส่งคืนภาษีดังกล่าวเข้าบัญชีธนาคาร ทำให้ผู้เสียภาษี และประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อ แจ้งข้อมูลส่วนบุคคลให้กับมิจฉาชีพเหล่านั้น
สรรพากรพื้นที่ระนอง กล่าวว่า ขอยืนยันว่า กรมสรรพากรไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด ขอให้ผู้เสียภาษี และประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ ตกเป็นเหยื่อแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง เพราะอาจถูกมิจฉาชีพนำไปใช้ในทางมิชอบ
หรือในทางที่ผิดกฎหมาย อาจทำให้ได้รับความเดือดร้อนในภายหลัง ที่สำคัญกรมสรรพากร มีข้อมูลบุคคลที่ได้จากแบบแสดงรายการภาษี และบันทึกไว้ในฐานข้อมูลของระบบคอมพิวเตอร์
สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ตลอดเวลา ส่วนการคืนภาษีให้กับผู้ขอคืน หรือผู้ที่ชำระภาษีไว้เกินนั้น กรมสรรพากร มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน โดยจะส่งภาษีคืนให้ในรูปของเช็คธนาคารกรุงไทย จำกัด เท่านั้น โดยสั่งจ่ายระบุชื่อ-สกุลของผู้ขอคืนภาษี
ส่งตรงให้ทางไปรษณีย์ถึงภูมิลำเนาของผู้เสียภาษี เพื่อนำเข้าบัญชีธนาคารด้วยตนเอง โดยที่ผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี และขอคืนภาษีทางอินเตอร์เน็ตจะได้รับเช็คคืนภาษีภายใน 15 วัน
สรรพากรพื้นที่ระนอง กล่าวอีกว่า หากใครพลาดไปแล้ว ขอให้แจ้งความ ณ สถานีตำรวจใกล้บ้าน โดยนำหลักฐานการโอนเงิน /ต้นขั้วเช็ค /ข้อมูลในการติดต่อ โทรศัพท์มือถือ หรือ สลิป ตู้ ATM ไปเป็นหลักฐานด้วย.
นายประยูร สืบศิริวิริยะกุล สรรพากรพื้นที่ระนอง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร โทรศัพท์ไปถึงผู้เสียภาษี และประชาชนในท้องที่ต่าง ๆ เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญหลายประการ ได้แก่ ชื่อ-สกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขบัญชีธนาคาร เพื่อนำเงินเข้าบัญชีธนาคาร หรือให้กดรหัสผ่านตู้ ATM เป็นต้น
โดยอ้างว่า จากการตรวจแบบแสดงรายการภาษีระหว่างปี 2546-2551 พบว่า มีภาษีที่จะได้รับคืนเป็นจำนวนหลายพันบาท และจะส่งคืนภาษีดังกล่าวเข้าบัญชีธนาคาร ทำให้ผู้เสียภาษี และประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อ แจ้งข้อมูลส่วนบุคคลให้กับมิจฉาชีพเหล่านั้น
สรรพากรพื้นที่ระนอง กล่าวว่า ขอยืนยันว่า กรมสรรพากรไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด ขอให้ผู้เสียภาษี และประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ ตกเป็นเหยื่อแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง เพราะอาจถูกมิจฉาชีพนำไปใช้ในทางมิชอบ
หรือในทางที่ผิดกฎหมาย อาจทำให้ได้รับความเดือดร้อนในภายหลัง ที่สำคัญกรมสรรพากร มีข้อมูลบุคคลที่ได้จากแบบแสดงรายการภาษี และบันทึกไว้ในฐานข้อมูลของระบบคอมพิวเตอร์
สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ตลอดเวลา ส่วนการคืนภาษีให้กับผู้ขอคืน หรือผู้ที่ชำระภาษีไว้เกินนั้น กรมสรรพากร มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน โดยจะส่งภาษีคืนให้ในรูปของเช็คธนาคารกรุงไทย จำกัด เท่านั้น โดยสั่งจ่ายระบุชื่อ-สกุลของผู้ขอคืนภาษี
ส่งตรงให้ทางไปรษณีย์ถึงภูมิลำเนาของผู้เสียภาษี เพื่อนำเข้าบัญชีธนาคารด้วยตนเอง โดยที่ผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี และขอคืนภาษีทางอินเตอร์เน็ตจะได้รับเช็คคืนภาษีภายใน 15 วัน
สรรพากรพื้นที่ระนอง กล่าวอีกว่า หากใครพลาดไปแล้ว ขอให้แจ้งความ ณ สถานีตำรวจใกล้บ้าน โดยนำหลักฐานการโอนเงิน /ต้นขั้วเช็ค /ข้อมูลในการติดต่อ โทรศัพท์มือถือ หรือ สลิป ตู้ ATM ไปเป็นหลักฐานด้วย.