ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์ชาติไม่ให้แบงก์พาณิชย์หยุดวันที่ 16 เม.ย.หวั่นหยุดยาว 6 วัน กระทบระบบธุรกิจ แต่ให้หยุด 13 ส.ค.เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ไม่ขัดกับธรรมเนียมปฎิบัติ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศกำหนดให้วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2553 เป็นวันหยุดทำการของสถาบันการเงินเป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติม 1 วัน เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ประกอบกับไม่ขัดกับหลักประเพณีปฏิบัติ ซึ่งสถาบันการเงินไม่ควรหยุดติดต่อกันเกิน 4 วัน
สำหรับวันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2553 นั้น กำหนดให้เป็นวันทำการปกติ เนื่องจากการที่สถาบันการเงินหยุดให้บริการทางการเงินติดต่อกันถึง 6 วัน จะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงภาคธุรกิจ และระบบเศรษฐกิจโดยรวม
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบที่จะสลับหรือเลื่อนวันหยุดราชการประจำปี 2553 ตามที่สำนักเลขาธิการ ครม.เสนอให้เพิ่มวันหยุดอีก 2 วัน โดยกำหนดให้วันที่ 16 เม.ย.2553 เป็นวันหยุดเพิ่มหนึ่งวันต่อเนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ และกำหนดให้วันที่ 13 ส.ค. 2553 เป็นวันหยุดเพิ่มอีก 1 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยได้ร่วมเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
**หลอกโกงบัตรเครดิตยังลาม
วันเดียวกัน ธปท.ออกแถลงการเตือนประชาชนให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงข้อมูลส่วนบุคคล โดยศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อ เปิดเผยว่า ยังคงได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก กรณีถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวง โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ธปท.หรือเป็นพนักงานธนาคารพาณิชย์ ส่วนใหญ่จะใช้โทรศัพท์สอบถามเกี่ยวกับการทำรายการบัตรเครดิต หรือการทำรายการเพื่อคืนเงินเข้าบัญชี เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการเงินไปฉ้อโกง
ศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อ ธปท.เปิดเผยว่า พฤติกรรมฉ้อฉลของกลุ่มมิจฉาชีพยังไม่ได้ลดน้อยลง มีการหลอกให้ทำรายการผ่านเครื่องเอทีเอ็ม แก่ประชาชนที่หลงเชื่อ นำไปสู่ความเสียหายอย่างกว้างขวาง
"ขอย้ำว่าไม่มีนโยบายให้คนของ ธปท.ติดต่อประชาชนหรือแจ้งฐานข้อมูลลูกค้าแบงก์พาณิชย์ จึงอยากให้ระวังและควรตรวจสอบกับสถาบันการเงินที่ใช้บริการ กรณีที่เกิดหากเกิดความเสียหาย ขอให้เก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ติดต่อแบงก์ที่ใช้บริการหรือแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ"
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศกำหนดให้วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2553 เป็นวันหยุดทำการของสถาบันการเงินเป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติม 1 วัน เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ประกอบกับไม่ขัดกับหลักประเพณีปฏิบัติ ซึ่งสถาบันการเงินไม่ควรหยุดติดต่อกันเกิน 4 วัน
สำหรับวันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2553 นั้น กำหนดให้เป็นวันทำการปกติ เนื่องจากการที่สถาบันการเงินหยุดให้บริการทางการเงินติดต่อกันถึง 6 วัน จะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงภาคธุรกิจ และระบบเศรษฐกิจโดยรวม
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบที่จะสลับหรือเลื่อนวันหยุดราชการประจำปี 2553 ตามที่สำนักเลขาธิการ ครม.เสนอให้เพิ่มวันหยุดอีก 2 วัน โดยกำหนดให้วันที่ 16 เม.ย.2553 เป็นวันหยุดเพิ่มหนึ่งวันต่อเนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ และกำหนดให้วันที่ 13 ส.ค. 2553 เป็นวันหยุดเพิ่มอีก 1 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยได้ร่วมเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
**หลอกโกงบัตรเครดิตยังลาม
วันเดียวกัน ธปท.ออกแถลงการเตือนประชาชนให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงข้อมูลส่วนบุคคล โดยศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อ เปิดเผยว่า ยังคงได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก กรณีถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวง โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ธปท.หรือเป็นพนักงานธนาคารพาณิชย์ ส่วนใหญ่จะใช้โทรศัพท์สอบถามเกี่ยวกับการทำรายการบัตรเครดิต หรือการทำรายการเพื่อคืนเงินเข้าบัญชี เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการเงินไปฉ้อโกง
ศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อ ธปท.เปิดเผยว่า พฤติกรรมฉ้อฉลของกลุ่มมิจฉาชีพยังไม่ได้ลดน้อยลง มีการหลอกให้ทำรายการผ่านเครื่องเอทีเอ็ม แก่ประชาชนที่หลงเชื่อ นำไปสู่ความเสียหายอย่างกว้างขวาง
"ขอย้ำว่าไม่มีนโยบายให้คนของ ธปท.ติดต่อประชาชนหรือแจ้งฐานข้อมูลลูกค้าแบงก์พาณิชย์ จึงอยากให้ระวังและควรตรวจสอบกับสถาบันการเงินที่ใช้บริการ กรณีที่เกิดหากเกิดความเสียหาย ขอให้เก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ติดต่อแบงก์ที่ใช้บริการหรือแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ"