ASTVผู้จัดการรายวัน - มิจฉาชีพอาละวาด แบงก์ชาติเตือนประชาชนหลังเจอโทรศัพท์ร้องเรียนกว่า 100 ราย ภายใน 2 สัปดาห์ โจรอ้างเป็นคนแบงก์ชาติแจ้งหนี้บัตรเครดิตและรับปากจะช่วยเหลือ แต่ต้องโอนเงินเข้าบัญชีก่อน แฉใช้เบอร์โทรต่างประเทศ หากยังไม่สำเร็จจะทิ้งเบอร์ของแบงก์ชาติไว้ดูต่างหน้า
นางฤชุกร สิริโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์และติดตามฐานะ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ศูนย์ประสานแก้ไขปัญหาสินเชื่อได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปว่าถูกหลอกหลวงมากขึ้นนับตั้งแต่กลางเดือน ต.ค.เป็นต้นมาประมาณ 147 ราย ล่าสุดกลับพบว่ามีประชาชนโทรศัพท์มาร้องเรียนถี่มากขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงเมื่อวานนี้ (5พ.ย.) มีคนร้องเรียนทั้งสิ้น 100 ราย และในจำนวนนี้มีผู้เสียหาย 2 ราย ซึ่งถูกหลอกให้โอนเงินผ่านเครื่อง ATM จำนวน 3 หมื่นบาท และ 8 หมื่นบาท รวมถึงพบว่าผู้ถูกหลอกส่วนใหญ่กระจายทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้มากเป็นพิเศษ
ลักษณะการหลอกหลวงส่วนใหญ่จะคล้ายกัน คือ กลุ่มมิจฉาชีพใช้โทรศัพท์ที่เป็นเบอร์โทรในต่างประเทศเข้ามาหาในเครื่องโทรศัพท์เหยื่อและแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ธปท.หรือธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อว่าเหยื่อได้ติดหนี้บัตรเครดิต หรือบางกรณีแจ้งสถานที่ซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิตด้วย เพื่อทำให้เหยื่อตกใจ หลังจากนั้นจะเสนอตัวเข้าช่วยเหลือโดยขอข้อมูลการเงินและให้ทำธุรกรรมผ่านเครื่อง ATM สุดท้ายโอนเงินเข้าบัญชีของกลุ่มมิจฉาชีพ หรือถ้าบางรายไม่เชื่อก็จะทิ้งเบอร์โทรติดต่อกลับ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่เบอร์ดังกล่าวกลับเป็นเบอร์หน่วยงานภายใน ธปท.
“หากมีเบอร์โทรลักษณะแปลกๆ เข้ามาจะมีโอกาสถูกหลอกลวงสูง ถือเป็นภัยอาชญากรรมเศรษฐกิจรูปแบบหนึ่งในปัจจุบัน”นางฤชุกรกล่าวและย้ำว่า ประชาชนทั่วไปอย่าหลงเชื่อ หากได้รับความเสียหายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ธปท.จะเร่งประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนทั่วไประวังตัวมากขึ้น โดยแจ้งเรื่องดังกล่าวให้สถาบันการเงินทราบและขอความร่วมมือชี้แจงให้ลูกค้าทราบเพิ่มเติม สร้างตัววิ่งในเครื่อง ATM และบางสถาบันการเงินอาจลงข่าวหน้าหนังสือพิมพ์
นอกจากนี้ยังใช้วิธีกระจายข่าวนี้ให้สำนักงานภูมิภาคของ ธปท.รับทราบและชี้แจงให้ประชาชนในท้องถิ่นรับทราบด้วย
ด้านนายกำธร ประเสริฐสม หัวหน้าศูนย์ประสานแก้ไขปัญหาสินเชื่อ ธปท.กล่าวว่า กลุ่มมิจฉาชีพส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติร่วมกับคนไทย โดยอาจจ้างให้คนทั่วไปเปิดบัญชีเงินฝาก เพื่อรับโอนเงินของเหยื่อเข้ามา และบัญชีเงินฝากดังกล่าวจะถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้การติดตามลำบาก เพราะกลุ่มมิจฉาชีพจริงๆ อยู่ในต่างประเทศนอกจากนี้ในปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ทำให้รูปแบบการกระทำผิดต่างจากในอดีตมาก และ ผู้ที่ถูกหลอกส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงาน หากผู้ใดที่เจอสถานการณ์ดังกล่าวให้โทรกลับมาสอบถามสถาบันการเงินโดยตรง เพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่งและระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวเป็นหลัก รวมทั้งที่สำคัญที่สุดไม่ควรติดต่อกลับเบอร์ที่กลุ่มมิจฉาชีพให้ เพราะอาจถูกหลอกได้ หรือโทรมาสอบถามมายังธปท.ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2283-5900.
นางฤชุกร สิริโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์และติดตามฐานะ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ศูนย์ประสานแก้ไขปัญหาสินเชื่อได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปว่าถูกหลอกหลวงมากขึ้นนับตั้งแต่กลางเดือน ต.ค.เป็นต้นมาประมาณ 147 ราย ล่าสุดกลับพบว่ามีประชาชนโทรศัพท์มาร้องเรียนถี่มากขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงเมื่อวานนี้ (5พ.ย.) มีคนร้องเรียนทั้งสิ้น 100 ราย และในจำนวนนี้มีผู้เสียหาย 2 ราย ซึ่งถูกหลอกให้โอนเงินผ่านเครื่อง ATM จำนวน 3 หมื่นบาท และ 8 หมื่นบาท รวมถึงพบว่าผู้ถูกหลอกส่วนใหญ่กระจายทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้มากเป็นพิเศษ
ลักษณะการหลอกหลวงส่วนใหญ่จะคล้ายกัน คือ กลุ่มมิจฉาชีพใช้โทรศัพท์ที่เป็นเบอร์โทรในต่างประเทศเข้ามาหาในเครื่องโทรศัพท์เหยื่อและแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ธปท.หรือธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อว่าเหยื่อได้ติดหนี้บัตรเครดิต หรือบางกรณีแจ้งสถานที่ซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิตด้วย เพื่อทำให้เหยื่อตกใจ หลังจากนั้นจะเสนอตัวเข้าช่วยเหลือโดยขอข้อมูลการเงินและให้ทำธุรกรรมผ่านเครื่อง ATM สุดท้ายโอนเงินเข้าบัญชีของกลุ่มมิจฉาชีพ หรือถ้าบางรายไม่เชื่อก็จะทิ้งเบอร์โทรติดต่อกลับ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่เบอร์ดังกล่าวกลับเป็นเบอร์หน่วยงานภายใน ธปท.
“หากมีเบอร์โทรลักษณะแปลกๆ เข้ามาจะมีโอกาสถูกหลอกลวงสูง ถือเป็นภัยอาชญากรรมเศรษฐกิจรูปแบบหนึ่งในปัจจุบัน”นางฤชุกรกล่าวและย้ำว่า ประชาชนทั่วไปอย่าหลงเชื่อ หากได้รับความเสียหายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ธปท.จะเร่งประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนทั่วไประวังตัวมากขึ้น โดยแจ้งเรื่องดังกล่าวให้สถาบันการเงินทราบและขอความร่วมมือชี้แจงให้ลูกค้าทราบเพิ่มเติม สร้างตัววิ่งในเครื่อง ATM และบางสถาบันการเงินอาจลงข่าวหน้าหนังสือพิมพ์
นอกจากนี้ยังใช้วิธีกระจายข่าวนี้ให้สำนักงานภูมิภาคของ ธปท.รับทราบและชี้แจงให้ประชาชนในท้องถิ่นรับทราบด้วย
ด้านนายกำธร ประเสริฐสม หัวหน้าศูนย์ประสานแก้ไขปัญหาสินเชื่อ ธปท.กล่าวว่า กลุ่มมิจฉาชีพส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติร่วมกับคนไทย โดยอาจจ้างให้คนทั่วไปเปิดบัญชีเงินฝาก เพื่อรับโอนเงินของเหยื่อเข้ามา และบัญชีเงินฝากดังกล่าวจะถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้การติดตามลำบาก เพราะกลุ่มมิจฉาชีพจริงๆ อยู่ในต่างประเทศนอกจากนี้ในปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ทำให้รูปแบบการกระทำผิดต่างจากในอดีตมาก และ ผู้ที่ถูกหลอกส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงาน หากผู้ใดที่เจอสถานการณ์ดังกล่าวให้โทรกลับมาสอบถามสถาบันการเงินโดยตรง เพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่งและระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวเป็นหลัก รวมทั้งที่สำคัญที่สุดไม่ควรติดต่อกลับเบอร์ที่กลุ่มมิจฉาชีพให้ เพราะอาจถูกหลอกได้ หรือโทรมาสอบถามมายังธปท.ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2283-5900.
