xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.สำรอง3แสนล. ไว้ให้เบิกจ่ายปีใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ธปท.คาดเบิกจ่ายช่วงปีใหม่ 1.8 แสนล้าน เพิ่มจากปีก่อน 5.3% เผยยอดสำรองธนบัตรล่าสุด 3.3 แสนล้าน พร้อมออกโรงเตือนประชาชนทั่วไประวังธนบัตรปลอมระบาดหนัก โดยเฉพาะปีหน้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพปรับเทคนิคเลียนแบบธนบัตรสมจริงมากขึ้น เผยเดือน ม.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมามีธนบัตรปลอมคิดเป็นมูลค่า 12.3 ล้านบาท 18,895 ฉบับ หรือเพิ่มขึ้น 80.88%

นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยการเตรียมการสำรองธนบัตรในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดถึง 5 วันนั้น ธปท.ได้ประมาณการว่าในเดือนธ.ค.นี้ ธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรเป็นมูลค่ารวมประมาณ 180,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.3% โดย ธปท.ได้เตรียมธนบัตรสำรองชนิดต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการเบิกจ่ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าในช่วงปกติไว้แล้ว และเชื่อว่าได้เตรียมพร้อมไม่ให้ธนบัตรขาดแคลน ซึ่งล่าสุดในเดือน พ.ย.นี้มีธนบัตรสำรองมีมูลค่าประมาณ 330,000 ล้านบาท

นายนพพรเตือนด้วยว่า ธนบัตรที่ออกใช้สู่ระบบการเงินมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งการทำงานของกลุ่มมิจฉาชีพมีความพยายามที่จะลอกเลียนแบบธนบัตรให้เหมือนจริงมากที่สุด แม้ ธปท.ได้เพิ่มและปรับปรุงเทคนิคต่างๆ เข้าไป จึงมองว่าในปีหน้าประชาชนยิ่งต้องระมัดระวังในการใช้จ่ายธนบัตรมากขึ้น รวมถึงในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่ธนบัตรปลอมจะแพร่กระจายมากในการรับหรือจ่ายธนบัตร เพื่อซื้อสินค้าและบริการ

“แม้ธนบัตรปลอมจะเข้าสู่ระบบธนาคารพาณิชย์และ ธปท.ไม่สูงนัก แต่กลับกระจายในทุกพื้นที่รวมถึงพื้นที่ในต่างจังหวัด แต่การผลิตอยู่ในกลุ่มพื้นที่กรุงเทพ ซึ่งต่างกับก่อนหน้านี้ที่ธนบัตรปลอมจะแพร่กระจายรวดเร็วในพื้นที่แถบชายแดน เพราะกลุ่มมิจฉาชีพคิดว่าคนในพื้นที่ดังกล่าวไม่รู้เท่าที่ควร” นายนพพรกล่าว

โดยการตรวจจับธนบัตรปลอมส่วนใหญ่เกิดจากวิธีการจับกุมของตำรวจ คิดเป็น 70%ของปริมาณธนบัตรปลอมที่ตรวจจับได้ทั้งหมด โดยการตรวจจับได้ล็อตใหญ่สูงถึง 8,000 ฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท

ทั้งนี้ ธปท.ได้สำรวจข้อมูลล่าสุดในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ตรวจพบธนบัตรปลอมทั้งสิ้น 18,895 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 12.3 ล้านบาท จากปริมาณเงินทุนหมุนเวียนทั้งสิ้น 8.5 แสนล้านบาท จำนวน 3,000 ล้านฉบับ เมื่อเทียบกับในปี 2550 ที่พบธนบัตรปลอมทั้งสิ้น 10,819 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 6.8 ล้านบาท ฉะนั้นในระบบเศรษฐกิจมีมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากธนบัตรปลอมเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 80.88% และมีปริมาณเพิ่มขึ้น 74.64% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปริมาณธนบัตรหมุนเวียน 1 ล้านฉบับในปีนี้จะมีธนบัตรปลอม 5-7 ฉบับ จากปีก่อนมีอยู่ 4-5 ฉบับ ถือว่าเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย

นอกจากนี้ในช่วงเดียวกัน พบว่า ธนบัตรปลอมชนิดราคา 1,000 บาท มีจำนวนทั้งสิ้น 11,158 ฉบับ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 61%ของจำนวนธนบัตรปลอมรวมที่ตรวจพบ รองลงมาเป็นธนบัตรชนิดราคา 100 บาท จำนวน 2,989 ฉบับ ธนบัตรชนิดราคา 50 บาท 2,553 ฉบับ ชนิดราคา 500 บาท มีจำนวน 1,495 ฉบับ และชนิดราคา 20 บาท จำนวน 700 ฉบับ

สำหรับผู้กระทำการปลอมธนบัตรจะมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิตและปรับสูงสุด 40,000 บาท ส่วนผู้นำธนบัตรปลอมออกใช้หรือพยายามใช้มีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี และปรับสูงสุด 30,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ธปท.และตำรวจจะพยายามเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้น เพื่อให้ธนบัตรปลอมเข้าสู่ระบบได้ยากขึ้น ทำให้ธปท.ได้พยายามให้ความรู้และข้อมูลต่างๆ ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบธนบัตรที่มีหลากหลายวิธี อาทิ ผ่านเวบไซต์ของธปท. คือ www.bot.or.th รวมถึงพยายามทำโครงการต่างๆ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลทั้งตระเวนให้ความรู้แก่นักศึกษา ครู ตำรวจ แคชเชียร์ รวมถึงประชาชนทั่วไป

ส่วนการตรวจสอบธนบัตรปลอมเบื้องต้นมี 3 วิธี คือ 1.วิธีการสัมผัส เนื้อกระดาษธนบัตรเป็นกระดาษชนิดพิเศษ มีความเหนียว แกร่ง ทนต่อการพับดึง และให้ความรู้สึกเมื่อสัมผัสต่างจากกระดาษทั่วไป ส่วนลวดลายเส้นนูนที่บริเวณคำว่า “รัฐบาลไทย” เมื่อใช้ปลายนิ้วมือลูบสัมผัสบริเวณดังกล่าวจะรู้สึกสะดุดกับหมึกพิมพ์ 2.วิธียกส่อง เมื่อยกธนบัตรส่องกับแสงสว่างบริเวณพื้นที่ว่างด้านขวาของธนบัตรจะเห็นลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ ซึ่งอยู่ในเนื้อกระดาษอย่างชัดเจนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ประดับด้วยรูปลายไทยขนาดเล็กที่มีความโปร่งแสงเป็นพิเศษ ขณะที่บริเวณด้านซ้ายของธนบัตรใกล้กับพระครุฑพ่าห์มีแถบสีโลหะขนาดเล็กฝังอยู่ในเนื้อกระดาษตามแนวตั้ง บนแถบมีตัวเลขและอักษรขนาดเล็กแจ้งชนิดราคาธนบัตรฉบับนั้น และ3.วิธีการพลิกเอียงทั้งธนบัตรชนิดราคา 500 และ 1,000 บาท ที่ตัวเลขอารบิกแจ้งราคามุมขวาบนพิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์ชนิดพิเศษที่สามารถเปลี่ยนสลับจากสีหนึ่งเป็นอีกสีหนึ่งเมื่อเปลี่ยนมุมมอง โดยธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท จะเปลี่ยนสลับจากส่วนที่เป็นสีทองเป็นสีเขียว และธนบัตรชนิดราคา 500 บาทเปลี่ยนสลับจากสีเขียวเป็นสีม่วง สำหรับธนบัตรชนิดราคา 100 บาท ชนิด 500 บาท และ 1,000 บาท ผนึกแถบฟอยล์สีเงินแนบเป็นเนื้อเดียวกับกระดาษ ซึ่งแถบฟอยล์ดังกล่าวจะมองเห็นหลากสีหลายมิติ เมื่อพลิกเอียงธนบัตรไปมา.
กำลังโหลดความคิดเห็น