ยะลา - พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผบ.พตท. สั่งนำชุดสุนัขสงคราม ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเสริมการทำงานของ GT200 มั่นใจการทำงานมีความแม่นยำร้อยเปอร์เซ็น
พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) กล่าวว่า ขณะนี้ทางกองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ได้นำชุดสุนัขสงคราม เข้ามาประจำการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 30 ตัวพร้อมชุดผู้บังคับหมู่สุนัขทหาร ประจำการในชุดหน่วยเฉพาะกิจยะลา ปัตตานีและนราธิวาส เพื่อสนับสนุนการค้นหา ตรวจค้น ให้กับหน่วยกำลังในพื้นที่ เพื่อเป็นการเสริมการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่
ซึ่งสุนัขสงครามที่นำมาประจำการ ประกอบด้วย สุนัขดมกลิ่น สุนัขตรวจหาวัตถุระเบิด ตรวจยาเสพติด ซึ่งทั้งหมดได้ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดี จึ่งมั่นใจว่าสามารถมาใช้งานได้ร้อยเปอร์เซ็น ตามที่ตั้งเป้าหมายในการทำงานในพื้นที่ แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงแรกของการนำสุนัขมาปฏิบัติงานในพื้นที่ มีการต่อต้านพอสมควร เนื่องจากผิดหลักทางศาสนา แต่หลังจากได้มีการเข้มงวดในการกำหนดการใช้ และประสานการปฏิบัติกับผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ตลอดจนทำความเข้าใจกับประชาชนแล้ว ทำให้ในปัจจุบันไม่มีการต่อต้าน
โดยหลักการทำงานนั้นตนได้ให้นโยบาย ในการนำไปใช้ จะเน้นในเรื่องพื้นที่โดยทั่วไปที่เป็นป่าเขา หรือที่ชุมชน ที่ไม่ได้เกี่ยวกับสถานที่ของทางศาสนา หากมีความจำเป็นที่ต้องใช้ ในบางสถานที่ อาทิ โรงเรียนราชสอนศาสนาอิสลาม ก็ให้มีการประสานกับผู้เกี่ยวเป็นกรณีๆ ไป อย่างก็ดี จะเทียบกับกับเครื่องตรวจ GT 200 นั้น สุนัขมีขีดจำกัดในการปฏิบัติ เนื่องเป็นสัตว์ มีการเหนื่อยอ่อนล้า เกิดผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้ง่าย ทั้งการเคลื่อนย้ายระยะไกล แต่เครื่อง GT 200 เป็นเครื่องมือที่ไม่มีชีวิตสามารถนำไปใช้ได้ตลอดเวลาทุกสถานภาพ ทุกสถานการณ์ โดยให้มีการสับเปลี่ยนผู้ใช้เท่านั้นเอง ดังนั้นทั้งสองมีขีดความสามารถต่างกัน
ด้าน จ.ส.อ.สมาน นางวงษ์ ผู้บังคับหมู่สุนัขทหาร เปิดเผยว่า สุนัขที่นำมาประจำการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 5 ประเภท คือ สุนัขดมกลิ่น ตรวจหาวัตถุระเบิด สุนัขลาดตระเวนสะกดรอย ตรวจค้นยาเสพติดและ ตรวจค้นวัสดุภัณฑ์ ซึ่งการทำงานก็มีขีดจำกัดอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะการอ่อนล้าของสุนัข ซึ่งได้กำหนดการทำงาน 2 ชั่วโมง หยุดพัก 30 นาที จุดอ่อนในบางสถานการณ์ จะให้สุนัขมีความสับสนในการทำงาน อาทิ ฝนตก เป็นต้น แต่ยอมรับสามารถนำไปใช้ร่วมกับเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ GT 200 และชุด EOD ได้เป็นอย่างดี
พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) กล่าวว่า ขณะนี้ทางกองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ได้นำชุดสุนัขสงคราม เข้ามาประจำการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 30 ตัวพร้อมชุดผู้บังคับหมู่สุนัขทหาร ประจำการในชุดหน่วยเฉพาะกิจยะลา ปัตตานีและนราธิวาส เพื่อสนับสนุนการค้นหา ตรวจค้น ให้กับหน่วยกำลังในพื้นที่ เพื่อเป็นการเสริมการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่
ซึ่งสุนัขสงครามที่นำมาประจำการ ประกอบด้วย สุนัขดมกลิ่น สุนัขตรวจหาวัตถุระเบิด ตรวจยาเสพติด ซึ่งทั้งหมดได้ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดี จึ่งมั่นใจว่าสามารถมาใช้งานได้ร้อยเปอร์เซ็น ตามที่ตั้งเป้าหมายในการทำงานในพื้นที่ แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงแรกของการนำสุนัขมาปฏิบัติงานในพื้นที่ มีการต่อต้านพอสมควร เนื่องจากผิดหลักทางศาสนา แต่หลังจากได้มีการเข้มงวดในการกำหนดการใช้ และประสานการปฏิบัติกับผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ตลอดจนทำความเข้าใจกับประชาชนแล้ว ทำให้ในปัจจุบันไม่มีการต่อต้าน
โดยหลักการทำงานนั้นตนได้ให้นโยบาย ในการนำไปใช้ จะเน้นในเรื่องพื้นที่โดยทั่วไปที่เป็นป่าเขา หรือที่ชุมชน ที่ไม่ได้เกี่ยวกับสถานที่ของทางศาสนา หากมีความจำเป็นที่ต้องใช้ ในบางสถานที่ อาทิ โรงเรียนราชสอนศาสนาอิสลาม ก็ให้มีการประสานกับผู้เกี่ยวเป็นกรณีๆ ไป อย่างก็ดี จะเทียบกับกับเครื่องตรวจ GT 200 นั้น สุนัขมีขีดจำกัดในการปฏิบัติ เนื่องเป็นสัตว์ มีการเหนื่อยอ่อนล้า เกิดผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้ง่าย ทั้งการเคลื่อนย้ายระยะไกล แต่เครื่อง GT 200 เป็นเครื่องมือที่ไม่มีชีวิตสามารถนำไปใช้ได้ตลอดเวลาทุกสถานภาพ ทุกสถานการณ์ โดยให้มีการสับเปลี่ยนผู้ใช้เท่านั้นเอง ดังนั้นทั้งสองมีขีดความสามารถต่างกัน
ด้าน จ.ส.อ.สมาน นางวงษ์ ผู้บังคับหมู่สุนัขทหาร เปิดเผยว่า สุนัขที่นำมาประจำการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 5 ประเภท คือ สุนัขดมกลิ่น ตรวจหาวัตถุระเบิด สุนัขลาดตระเวนสะกดรอย ตรวจค้นยาเสพติดและ ตรวจค้นวัสดุภัณฑ์ ซึ่งการทำงานก็มีขีดจำกัดอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะการอ่อนล้าของสุนัข ซึ่งได้กำหนดการทำงาน 2 ชั่วโมง หยุดพัก 30 นาที จุดอ่อนในบางสถานการณ์ จะให้สุนัขมีความสับสนในการทำงาน อาทิ ฝนตก เป็นต้น แต่ยอมรับสามารถนำไปใช้ร่วมกับเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ GT 200 และชุด EOD ได้เป็นอย่างดี