นครศรีธรรมราช - “ถาวร เสนเนียม” เย้ยเสื้อแดงเคลื่อนไหวอ้างประชาธิปไตย ที่แท้แค่ป้องทรัพย์คนหนีคุก ขอบคุณ “บิ๊กจิ๋ว”ประกาศถอย ไม่ตั้งกองทัพประชาชนหาญสู้กองทัพในพระเจ้าอยู่หัว
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีสื่อต่างชาติเสนอประเด็นการเปลี่ยนสัญชาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นสัญชาติเขมรเรียบร้อยแล้วว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงต่างประเทศจะต้องดำเนินการติดตาม ส่วนการพูดกันไปเรื่องจริงเท็จอย่างไรคงประจักษ์
ส่วนความเคลื่อนไหวในประเทศที่มีความห่วงถึงความรุนแรงก่อนที่จะมีการพิพากษาคดียึดทรัพย์นั้น ขอให้สังเกตว่าเมื่อมีการเคลื่อนไหวทุกครั้งจะอ้างว่าเพื่อประโยชน์ของระบอบประชาธิปไตย แต่ที่แน่ชัดคือการเคลื่อนไหวไม่ให้ตัวเองติดคุกหรือได้ทรัพย์สมบัติคืน ทั้งที่เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม และยังอ้างเสมอว่าจะกลับมาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชน ขอให้ประชาชนอย่าได้ตระหนกรัฐบาลสามารถคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบและปลอดภัยได้
“วานนี้ที่มีการประกาศยุติบทบาทของพลเอกพัลลภ ปิ่นมณีนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญแต่อยู่ที่สถานการณ์ที่เราจะต้องติดตามไม่ว่าจะเป็น พลเอกพัลลภ หรือใครก็แล้วแต่อยู่ในบ้านเมืองนี้ที่มีกฎหมายมีขื่อแป สิ่งใดที่เป็นความผิดต้องใช้กฎหมายกระบวนการยุติธรรมแก้ ถ้าสิ่งใดต้องทำความเข้าใจก็ต้องสร้างความเข้าใจกัน สิ่งใดเป็นโทษต้องชี้ให้เห็นเช่นกัน ต้องทำความเข้าใจกับสังคมขอให้ยึดความสงบสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง”
ต่อข้อถามจะฝากอะไรถึง พล.อ.ชวลิตหรือไม่ นายถาวรกล่าวว่าพลเอกชวลิตอายุเยอะแล้ว การไม่รับตำแหน่งเป็นผู้นำทัพประชาชนซึ่งเป็นการกล่าวอ้างเกินจริง ประชาชน 63 ล้านคนไม่เคยคิดจัดตั้งกองทัพมาสู้กับกองทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นความคิดของคนไม่กี่คนเท่านั้น การที่ประกาศถอยออกมานั้นนับว่าท่านยังน่าเคารพต้องขอขอบคุณ
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีสื่อต่างชาติเสนอประเด็นการเปลี่ยนสัญชาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นสัญชาติเขมรเรียบร้อยแล้วว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงต่างประเทศจะต้องดำเนินการติดตาม ส่วนการพูดกันไปเรื่องจริงเท็จอย่างไรคงประจักษ์
ส่วนความเคลื่อนไหวในประเทศที่มีความห่วงถึงความรุนแรงก่อนที่จะมีการพิพากษาคดียึดทรัพย์นั้น ขอให้สังเกตว่าเมื่อมีการเคลื่อนไหวทุกครั้งจะอ้างว่าเพื่อประโยชน์ของระบอบประชาธิปไตย แต่ที่แน่ชัดคือการเคลื่อนไหวไม่ให้ตัวเองติดคุกหรือได้ทรัพย์สมบัติคืน ทั้งที่เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม และยังอ้างเสมอว่าจะกลับมาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชน ขอให้ประชาชนอย่าได้ตระหนกรัฐบาลสามารถคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบและปลอดภัยได้
“วานนี้ที่มีการประกาศยุติบทบาทของพลเอกพัลลภ ปิ่นมณีนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญแต่อยู่ที่สถานการณ์ที่เราจะต้องติดตามไม่ว่าจะเป็น พลเอกพัลลภ หรือใครก็แล้วแต่อยู่ในบ้านเมืองนี้ที่มีกฎหมายมีขื่อแป สิ่งใดที่เป็นความผิดต้องใช้กฎหมายกระบวนการยุติธรรมแก้ ถ้าสิ่งใดต้องทำความเข้าใจก็ต้องสร้างความเข้าใจกัน สิ่งใดเป็นโทษต้องชี้ให้เห็นเช่นกัน ต้องทำความเข้าใจกับสังคมขอให้ยึดความสงบสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง”
ต่อข้อถามจะฝากอะไรถึง พล.อ.ชวลิตหรือไม่ นายถาวรกล่าวว่าพลเอกชวลิตอายุเยอะแล้ว การไม่รับตำแหน่งเป็นผู้นำทัพประชาชนซึ่งเป็นการกล่าวอ้างเกินจริง ประชาชน 63 ล้านคนไม่เคยคิดจัดตั้งกองทัพมาสู้กับกองทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นความคิดของคนไม่กี่คนเท่านั้น การที่ประกาศถอยออกมานั้นนับว่าท่านยังน่าเคารพต้องขอขอบคุณ