ยะลา - นักวิชาการยะลาชี้ให้รัฐบาลเร่งตรวจสอบเครื่องจีที 200 เจ้าปัญหาว่าสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ ทั้งที่จริง ควรตรวจสอบเครื่องมือก่อนใช้การจริง ก่อนเน้นในการจัดซื้อเครื่องมือต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ควรมีความโปร่งใส่
หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไฟเขียวมอบให้ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นเจ้าภาพจัดทีมพิสูจน์ เครื่องตรวจระเบิด "จีที 200" เจ้าปัญหา ว่าสามารถตรวจหาวัตถุระเบิดได้จริงหรือ ไม่ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ประชาชนทั่วประเทศไทยได้หายข้อข้องใจเกี่ยวกับเครื่องมือดังกล่าว
วันนี้ (3 ก.พ.53) ที่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ผศ.ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา กล่าวว่า จีที 200 กลายเป็นประเด็นสาธารณะขึ้นมา เพราะกระบวนการทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก สิ่งเหล่านี้ไม่ควรที่จะออกมาเป็นข่าว หรือเกิดข้อบกพร่อง ซึ่งตนเองอยากเห็นรัฐบาลหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้าไปตรวจสอบ เพราะต้องเข้าใจว่าเครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูจน์ทราบทางวิทยาศาสตร์ได้ ซึ่งรัฐบาลเองก็ต้องทำความจริงให้ประจักว่าแก่ประชาชน ว่าแท้จริงแล้วเครื่องมือเหล่านั้นที่นำมาใช้ สามารถที่จะใช้งานได้จริง หรือ มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน
ผศ.ดร.สมบัติ กล่าวต่อว่า เรื่องเหล่านี้ต้องสามารถบอกกับสาธารณะให้ได้ หากสามารถบอกได้ในจุดนี้ได้ ก็จะสามารถสร้างความเชื้อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนได้ ในความโปร่งใส่ในด้านต่าง ๆ ก็จะตามขึ้นมา เพราะฉะนั้นในวันนี้ทางรัฐบาล หรือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องออกมาพิสูจน์ให้ทราบอย่างรวดเร็ว ส่วนที่จะใช้เครื่อง จีที 200 เป็นตัวชี้ว่าใครกระทำผิดนั้น ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
สิ่งที่สำคัญที่สุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ความเชื่อมั่น ถ้ามีปัญหาในเชิงของวัสดุอุปกรณ์ ที่ลงมาใช้มีความไม่เชื่อมั่น จะส่งผลทำให้ประชาชนในพื้นที่ขาดความเชื่อมั่น หากจะนำเครื่องมือชนิดใหม่มาใช้ในพื้นที่ต้องมาทำการพิสูจน์ก่อนที่จะมาใช้จริง และ ผ่านการยอมรับจากสากล ถึงจะนำมาปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ ไม่ใช่ว่ามาพิสูจน์ทราบภายหลังว่าเป็นอย่างไร หากเป็นอย่างนั้นแล้ว เมื่ออุปกรณ์เหล่านั้นชี้บุคคลนั้นไปแล้ว ทุก ๆ คนต่างคลางแคลงใจว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุจริง หรือ ไม่ สิ่งเหล่านี้ต้องระมัดวังมากในเรื่องของความรู้สึกของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
ในส่วนการใช้เงินงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะนำไปแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าในกระบวนการทำงานมีหลายส่วนของงบประมาณที่ลงมาใช้ในพื้นที่ ซึ่งตนเองหวังว่าการใช้งบประมาณในพื้นที่ในเชิงของจิตวิทยาสังคมก็ต้องใช้ ในเรื่องของความมั่นคงก็จำเป็นต้องใช้ ด้านการพัฒนาก็มีความจำเป็น ดังนั้นอย่างจะให้ทางรัฐบาลมีความรอบคอบในการใช้งบประมาณ เพื่อความโปร่งใส่ของภาครัฐเอง