เมื่อเวลา 14.10 น. วานนี้ (3 ก.พ.) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อทดสอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด หรือ จีที 200 ว่า ขอให้มั่นใจได้ในเรื่องความโปร่งใส เนื่องจากมีกรรมการ 20 คน ประกอบด้วยตน ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงปลัดหรือ ผู้แทนกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และนักวิชาการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะประชุมนัดแรกในวันที่ 4 ก.พ. เวลา 15.30 น. เพื่อจะกำหนดกรอบการทดสอบเบื้องต้น ทั้งในส่วนของการตรวจสอบในห้องแลป การตรวจสอบในสถานที่จริง และการตรวจสอบในสถานที่ที่กำหนดเงื่อนไข คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบไม่เกิน 2 อาทิตย์
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้ย้ำกับตนว่า การตรวจสอบนั้นขอให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามระหว่างที่คณะกรรมการกำลังตรวจสอบเครื่องจีที 200 นั้น ก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่โดยไม่ต้องระงับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลการตรวจสอบประสิทธิภาพออกมาว่าไม่สามารถใช้งานได้ จะระงับ หรือทำหนังสือไปยังผู้เกี่ยวข้องอย่างไร คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ระหว่างการทดสอบทางคณะกรรมการจะต้องรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเป็นระยะๆ เพื่อให้ทราบถึงความคืบหน้าว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร
เมื่อเวลา 09.30 น.วันเดียวกันนี้ ที่รัฐสภามีการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่งคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร มีนาย เจ๊ะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ประธานกมธ. เป็นประธานที่ประชุม โดยได้เชิญตัวแทนจากกระทรวงกลาโหม กระทรวงวิทยาศาสตร์ กรมสรรพาวุธ กรมการปกครอง กองทัพบก รวมทั้ง นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของเครื่อง จีที 200 โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟัง
นายเจ๊ะอามิง กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์เข้ามาดูแลโดยจะตั้งคณะทำงานร่วมกัน ระหว่างกรรมาธิการฯ และกระทรวงวิทยาศาสตร์เพียงชุดเดียว ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนจาก 11 หน่วยงาน โดยมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธาน ซึ่งจะมีการนำข้อมูลจากทุกภาคส่วน รวมทั้งนำข้อมูลจาก ผศ.ดร.เจษฏา มาประกอบในการตรวจสอบด้วย
นายเจ๊ะอามิง กล่าว่า ในการประชุมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ระบุตรงกันว่าเครื่องดังกล่าวมีประสิทธิภาพ เพราะพลาดเพียง 2-3 ครั้ง จาก 20 ครั้ง และเป็นเครื่องมือที่บีบพื้นที่ตรวจจับระเบิดให้แคบลง ทั้งนี้คงไม่มีความจำเป็นต้องระงับการใช้เครื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าข่าวที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งตนเกรงว่าจะกระทบต่อการทำงาน จึงอยากให้สังคม รอการตรวจสอบจากคณะกรรมากรที่ตั้งขึ้นให้เสร็จสิ้นก่อน
ขณะที่นาย มุข สุไลมาน ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการความมั่งคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการทำงานของเครื่องจีที 200 ว่า จากการลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ได้รับทราบข้อมูลจากชาวบ้านว่า การทำงานของเครื่องนี้ไม่มีความแม่นยำ มีการชี้แบบสะ แปะสะปะ ชี้ไปยังวัตถุที่ไม่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญมีการชี้ไปยังผู้บริสุทธิ์ และเจ้าหน้าก็ได้ดำเนินการจับกุมไปตรวจสอบในค่ายทหาร 1-2 วัน แล้วปล่อยออกมา ประเด็นดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน เกิดความหวาดผวา ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลได้ตรวจสอบว่า จะยังคงให้ใช้เครื่องนี้อยู่ต่อไปหรือไม่
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะประชุมนัดแรกในวันที่ 4 ก.พ. เวลา 15.30 น. เพื่อจะกำหนดกรอบการทดสอบเบื้องต้น ทั้งในส่วนของการตรวจสอบในห้องแลป การตรวจสอบในสถานที่จริง และการตรวจสอบในสถานที่ที่กำหนดเงื่อนไข คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบไม่เกิน 2 อาทิตย์
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้ย้ำกับตนว่า การตรวจสอบนั้นขอให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามระหว่างที่คณะกรรมการกำลังตรวจสอบเครื่องจีที 200 นั้น ก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่โดยไม่ต้องระงับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลการตรวจสอบประสิทธิภาพออกมาว่าไม่สามารถใช้งานได้ จะระงับ หรือทำหนังสือไปยังผู้เกี่ยวข้องอย่างไร คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ระหว่างการทดสอบทางคณะกรรมการจะต้องรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเป็นระยะๆ เพื่อให้ทราบถึงความคืบหน้าว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร
เมื่อเวลา 09.30 น.วันเดียวกันนี้ ที่รัฐสภามีการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่งคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร มีนาย เจ๊ะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ประธานกมธ. เป็นประธานที่ประชุม โดยได้เชิญตัวแทนจากกระทรวงกลาโหม กระทรวงวิทยาศาสตร์ กรมสรรพาวุธ กรมการปกครอง กองทัพบก รวมทั้ง นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของเครื่อง จีที 200 โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟัง
นายเจ๊ะอามิง กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์เข้ามาดูแลโดยจะตั้งคณะทำงานร่วมกัน ระหว่างกรรมาธิการฯ และกระทรวงวิทยาศาสตร์เพียงชุดเดียว ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนจาก 11 หน่วยงาน โดยมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธาน ซึ่งจะมีการนำข้อมูลจากทุกภาคส่วน รวมทั้งนำข้อมูลจาก ผศ.ดร.เจษฏา มาประกอบในการตรวจสอบด้วย
นายเจ๊ะอามิง กล่าว่า ในการประชุมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ระบุตรงกันว่าเครื่องดังกล่าวมีประสิทธิภาพ เพราะพลาดเพียง 2-3 ครั้ง จาก 20 ครั้ง และเป็นเครื่องมือที่บีบพื้นที่ตรวจจับระเบิดให้แคบลง ทั้งนี้คงไม่มีความจำเป็นต้องระงับการใช้เครื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าข่าวที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งตนเกรงว่าจะกระทบต่อการทำงาน จึงอยากให้สังคม รอการตรวจสอบจากคณะกรรมากรที่ตั้งขึ้นให้เสร็จสิ้นก่อน
ขณะที่นาย มุข สุไลมาน ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการความมั่งคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการทำงานของเครื่องจีที 200 ว่า จากการลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ได้รับทราบข้อมูลจากชาวบ้านว่า การทำงานของเครื่องนี้ไม่มีความแม่นยำ มีการชี้แบบสะ แปะสะปะ ชี้ไปยังวัตถุที่ไม่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญมีการชี้ไปยังผู้บริสุทธิ์ และเจ้าหน้าก็ได้ดำเนินการจับกุมไปตรวจสอบในค่ายทหาร 1-2 วัน แล้วปล่อยออกมา ประเด็นดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน เกิดความหวาดผวา ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลได้ตรวจสอบว่า จะยังคงให้ใช้เครื่องนี้อยู่ต่อไปหรือไม่
