ยะลา - พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร เป็นประธานพิธีเปิดตาผู้ผ่านการผ่าตัดต้อกระจกเฉลิมพระเกียรติในหลวงและพระราชินี ตามโครงการแสงแห่งความหวัง พร้อมเผยหากพบ"เสธ.แดง" หลบหนีในภาคใต้พร้อมจับตัวส่งทางการทันที
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารอำนวยการโรงพยาบาลรามัน อ.รามัน จ.ยะลา พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.เป็นประธานในพิธีเปิดตาแก่ผู้ผ่านการผ่าตัดต้อกระจก เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตามโครงการแสงแห่งความหวัง แด่พี่น้องชาว อ.รามัน จ.ยะลา โดยมีนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายบุญไทย กาฬศิริ นายอำเภอรามัน พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ทพ. 41 อ.รามัน พ.ท.อิศรา จัทรกระยอม ผบ.ฉก.12 อ.รามัน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฉก.12 อ.รามัน ทหารพราน ที่ 41 และ ประชาชน เข้าร่วมในพิธีกว่า 150 คน
หลังเสร็จพิธี พล.ท.พิเชษฐ์ กล่าวถึงกรณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือ เสธ.แดง ที่กำลังหลบหนีคดียิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กองบัญชาการกองทัพบก อยู่ในขณะนี้ว่า หาก เสธ.แดง อยู่ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้จริงๆ ก็ดี ถ้าตนเองเจอตัวแล้วก็จะมีการดำเนินการตามตัวบทกฎหมายต่อไปไม่มีการละเว้น
สำหรับโครงการแสงแห่งความหวังฯ นั้น หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 (ทพ.41) ได้ร่วมมือกับ หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 12 (ฉก.12) สถานีตำรวจภูธร อ.รามัน และ อำเภอรามัน ได้ดำเนินการผ่าตัดต้อเนื้อ ต้อกระจก ให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา โดยได้รับการสนับสนุนค่ารักษาพยาบาล จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 12 สงขลา ตรวจรักษาโดยทีมแพทย์ จากบริษัททาสของแผ่นดิน จำกัด และ ทีมแพทย์โรงพยาบาลรามัน ซึ่งมีประชาชนเข้ารับการรักษา โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และ ผ่าตัดรวมทั้งสิ้น จำนวน 160 ราย ซึ่งในวันนี้มีการเปิดดวงตาแก่ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อร่วมทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ บรมราชินีนาถ
พล.ท.พิเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่หลายๆ ภาคส่วนในพื้นที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ และได้ร่วมมือกัน โดยมีผู้ประสานงานหลักคือ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 (ทพ.41) อ.รามัน ได้รับความร่วมมือจากทุก ๆ ฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ กระทรวงสาธารณะสุข ซึ่งในจุดนี้ ก็มีความเกี่ยวข้องเกี่ยวกับหลักประกันสุขภาพ ที่ทางกองทัพบกมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง
ส่วนโครงการแสงแห่งความหวัง นั้น ทางหน่วยงานทหารเป็นผู้ที่ไปเคาะประตูบ้านพร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งในขณะนี้ประชาชนเริ่มรับรู้ และ เริ่มทยอยกันเข้าร่วมในโครงการสำหรับการผ่าตัดต้อกระจก ต้อเนื้อ หรือ ต้อหินนั้น เป็นสิ่งที่ค่อนข้างลำบาก เพราะต้องใช้เงินงบประมาณที่สูง แต่ก็เป็นความโชคดีของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับโอกาสดีๆ จาก บริษัททาสของแผ่นดิน จำกัด ที่ได้จัดส่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดต้อกระจก ที่เคยผ่านการผ่าตัดต้อมาแล้วกว่า 70,000 ราย ไม่ต้องกลัวในเรื่องของการติดเชื้อหลังการผ่าตัด เพราะทีมแพทย์ได้ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และทำให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจถึงความปรารถนาดีของทางรัฐบาลที่มีต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย ส่วนทางกองทัพภาคที่ 4 นั้นจะเป็นหน่วยงานที่เข้าไปสำรวจประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ผู้ที่ด้อยโอกาส ฐานะยากจนที่ประสบปัญหาทางสายตามาเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้
