สลด! ชีวิตชายชราตาบอดกับลูกสาวสติไม่สมประกอบ

กาฬสินธุ์-พบชีวิตสุดแสนรันทดที่จ.กาฬสินธุ์ ชายชราวัย 89 ปี ทั้งพิการตาบอดถูกลูกในไส้ 5 คน ทอดทิ้งไปนานกว่า 40 ปี มีเพียงลูกสาวที่เป็นสาวแก่วัย 50 ในสภาพสติไม่สมประกอบคอยเลี้ยงดู ส่วนบ้านที่พักอาศัยการการกินอยู่ต้องพึ่งพิงผู้ใจบุญและเพื่อนบ้าน

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 694 ซอยห้ามหนุ่ม เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายรัตน์ เจริญพล อาย 89 ปี เป็นผู้พิการทางสายตา ที่ถูกลูกสาวและลูกชาย 5 คน ทอดทิ้งให้อยู่กับลูกสาวที่สติไม่สมประกอบเพียงลำพัง ในวันนี้ไม่เห็นหน้าลูกอีก 5 คน มานานกว่า 30 ปี ซึ่งการเข้าไปพบครั้งนี้ผู้สื่อข่าวต้องพบกับภาพที่สุดแสนรันทดเพราะ นายรัตน์ที่ตาบอด สวมใส่เสื้อผ้าขาด ๆ นอนห่มผ้าที่เก่าและขาดอยู่ภายในบ้านเพียงลำพัง

จากการสอบถามนายรัตน์ ทราบว่า บ้านหลังที่อาศัยอยู่เดิมเป็นบ้านของภรรยาที่ตายไปที่ตอนนี้ลูกติดของภรรยาได้แอบขายไปทำให้บ้านหลังนี้ตกไปเป็นของเพื่อนบ้าน แต่โชคดีที่เพื่อบ้านที่รับซื้อบ้านต่อ ยังเมตตาให้อยู่อาศัย ส่วนลูก ๆ ของตนเองที่มีกับภรรยาเก่า 6 คน 5 คนแรกได้ทิ้งตนให้มาหาอยู่กินที่นี่เพียงลำพังและนับจากวันที่พบเจอกันครั้งสุดท้ายจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว

ตอนนี้ได้อาศัยอยู่กับลูกสาวคนสุดท้องคือนางสาวสุวรรณี เจริญพล อายุ 54 ปี เป็นคนสติไม่สมประกอบต้องกินยาของจิตเวชเป็นประจำ เลี้ยงกันไปตามยถากรรมด้วยอาชีพเก็บของเก่าขาย

นอกจากจะอดมือกินมื้อ ทุกวันนี้ต้องทุกข์ทนกับความเจ็บปวดที่ดวงตาทั้งสองข้างถึงแม้ว่าวันนี้จะบอดสนิทจนมองไม่เห็นแล้วทั้งสองข้างก็ตาม เพราะดวงตาทั้งสองข้างเป็นต้อหินพอไม่มีเงินไปรักษาทุกสิ่งก็มืดดับไป ซึ่งตาที่บอดสนิทเป็นเวลานานกว่า 10 ปี แล้ว ทุกวันนี้ต้องรอ เงินจากรายได้ของลูกสาวไปรับจ้างเก็บขยะมาได้วันละ 50-100 บาท ทุกวันนี้อยู่แบบอดยาก

กลางวันแทบไม่ได้กินอะไรเพราะมองไม่เห็นเดินไปมาก็ลำบากต้องรอเวลาค่ำที่มีเพื่อนบ้านอยู่บ้านลูกสาวกลับมาคอยหาข้าวหาปลามาให้ ส่วนเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มก็ได้รับบริจาคมาจากเพื่อนบ้านบ้างลูกสาวไปเก็บมาให้บ้าง เก่าขาดเพียงไหนก็ต้องสวมใส่ต้องใช้เพราะไม่มีเงินเหลือจะไปซื้อเพราะต้องเจียดไว้ซื้อข้าวปลาอาหารกิน

“ก่อนหน้านั้นได้ทำอาชีพรับจ้างขนน้ำขายในตลาดสดได้เงินวันละ 100-200 บาทยังพอเลี้ยงตัวและครอบครัวได้แต่เมื่อแก่เฒ่าไปอีกทั้งยังพิการตาบอดช่วยเหลือตัวเองก็ไม่ได้ก็จำใจต้องยอมรับชะตากรรมทนทุกข์ทรมาน ส่วนชีวิตที่เหลือในตอนนี้สิ่งหนึ่งที่หวังคืออยากจะได้ยินได้กอดลูกอีกสักครั้งก่อนตาย เพราะตอนนี้ก็ห่วงลูก ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะล้มหายตายจากไปหรือยัง ถึงแม้ว่าไม่มีเงินทองหรือไม่มีปัญญาจะเลี้ยงดูก็ขอให้ได้สัมผัสลูกอีกสักครั้ง”

ด้าน ดต.เรืองครุฑ แก้วภิรมย์ อายุ 63 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ได้ดูแลนายรัตน์และครอบครัวมานานร่วม 5 ปี แล้ว ซึ่งบ้านที่ครอบครัวนายรัตน์ได้อาศัยอยู่ ตนเองได้รับซื้อไว้จากลูกติดของนายรัตน์ พื้นที่ 64 ตารางเมตร ซึ่งตนเองก็ไม่อยากจะไล่หนีจึงให้อยู่ต่อไปจนกว่าจะมีญาติพี่น้องมารับไปดูแล ซึ่งชีวิตของสองพ่อลูกครอบครัวนี้น่าสงสารมากทุก ๆ วันคนแก่ตาบอดจะถูกทิ้งให้อยู่บ้านตามลำพังวันทั้งวัน ก็มีแต่นอนได้กินข้าวก็แต่ตอนเย็น

ตนเองก็ไม่รู้จะช่วยเหลืออะไรได้ วันไหนมีอาหารก็แบ่งปันเมื่อเจ็บป่วยก็พาไปหาหมอ

สำหรับผู้ที่มีจิตใจดีต้องการอยากจะช่วยเหลือสามารถติดต่อประสานตนเองได้ตลอดที่หมายเลขโทรศัพท์ 043-812 590 , 089 - 574 8019 และอยากจะบอกให้ลูกหลานของนายรัตน์ได้มาดูสภาพความเป็นอยู่ทีเพราะตอนนี้นายรัตน์มีชีวิตน่าเวทนายิ่งนัก