นครพนม-รวบแก๊งตระเวนตกทองทั่วอีสาน หลังก่อเหตุแล้วหลบหนีแต่จนมุม พบของกลางทองคำหนักร่วม 30 บาท รับก่อเหตุมานับไม่ถ้วน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้(21 ก.พ.) ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอธาตุพนม พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ อิ่มทั่ว ผกก.สภ.ธาตุพนม พ.ต.ท.มังตรา กาชัย รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.อภิเชษฐ โหม่งพุฒ สวป. แถลงข่าวการจับกุมแก๊งตกทอง ได้ผู้ต้องหา 4 ราย มี นายนิกร บุญหาร อายุ 42 ปี ชาว ต.ห้วยถัวเหลือง อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ นางเพ็ญ มัณฑปาน อายุ 42 ปี บ้านอยู่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นางเรณู มะละนนท์ อายุ 51 ปี บ้านอยู่ ต.หนองกลับ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ และ นางสาวสุวรรณา สาแก้ว อายุ 23 ปี บ้านอยู่ ต.กระเทียม อ.สังขระ จ.สุรินทร์ พร้อมของกลางสร้อยแขนทองคำ น้ำหนัก 3 บาท สร้อยคอ แหวน สร้อยข้อมือ ทองคำปลอม น้ำหนักรวมประมาณ 30 บาท และเงินสดจำนวน 3,700 บาท พร้อมรถยนต์ยี่ห้อเซฟโรเลต สีดำ หมายเลขทะเบียน กต. 1209 นครสวรรค์
ซึ่งขณะแถลงข่าวได้มีผู้เสียหายในพื้นที่ อ.ธาตุพนม ที่ทราบข่าว และเคยตกเป็นเหยื่อเสียทองคำไปน้ำหนักถึง 5 บาท พยามยามมาทำร้ายร่างกายแก๊งตกทอง เพราะแค้น จนตำรวจต้องกันตัวไว้ ป้องกันเกิดเหตุทำร้ายร่างกายบนโรงพัก
พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ อิ่มทั่ว ผกก.สภ.ธาตุพนม กล่าวถึงที่มาของการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก นางสาวรุ่งทิวา นาสมฝัน อายุ 21 ปี บ้านอยู่บ้านเวินพระบาท ต.เวินพระบาท อ.เมือง จ.นครพนม ผู้เสียหาย ถูกแก๊งตกทองใช้กลอุบาย ก่อนนำสร้อยข้อมือทองคำ หนัก 3 บาท แล้วหลบหนีไปเกิดเหตุที่ตลาดสดในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จึงได้รับการประสานจาก สภ.เมืองนครพนม จึงได้วางแผน นำกำลังชุดสืบสวนออกติดตาม ตั้งจุดตรวจสกัด
จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมแก๊งตกทองดังกล่าวได้ ในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม ขณะพยายามขับรถยนต์มุ่งหน้าหลบหนีไปต่างจังหวัด โดยจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า แก๊งดังกล่าวเคยมาก่อเหตุที่ห้างโลตัส สาขาอำเภอธาตุพนม เมื่อปี 2552 ได้ทองคำไปน้ำหนักกว่า 5 บาท ซึ่งทางห้างโลตัสได้มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ ก่อนหลบหนีไป
จนกระทั่งมาก่อเหตุซ้ำอีก จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดสารภาพว่า ได้ร่วมกันตั้งแก๊งตระเวนตกทอง ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ตระเวนไปหลายจังหวัด โดยใช้กลอุบาย หลอกให้เหยื่อเชื่อว่าตนเก็บทองคำได้ แต่ไม่มีใครแสดงตนเป็นเจ้าของ และหาทางตกลงกับเหยื่อเพื่อที่จะขายทองคำนำเงินมาแบ่งกัน หรืออาจจะตกลงกับเหยื่อเพื่อขอแลกทองคำปลอมที่เก็บได้ แต่มีน้ำหนัก และราคามากกว่าทองคำของเหยื่อที่มีอยู่
พอเหยื่อหลงเชื่อก็จะหลบหนีไป ซึ่งกลโกงเหล่านี้ ผู้เสียหายหลายรายยืนยันว่า เมื่อมีแก๊งเหล่านี้เข้ามาพูดคุยมีความรู้สึกขาดสติเบลอ ทำให้หลงเชื่อพร้อมถอดสร้อยคอ หรือของมีค่าให้ ที่อาจจะมาจากการใส่ยาก็เป็นได้
จึงขอเตือนประชาชนหากพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือรีบหนีห่าง ที่สำคัญอย่างหวังได้กับของมีค่า เพราะส่วนใหญ่แก๊งเหล่านี้จะก่อเหตุกับคนมีเกิดความอยากได้ จึงหลงเชื่อ
นางสาวรุ่งทิวา นาสมฝัน อายุ 21 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้เกิดเหตุกับตนขณะซื้อของอยู่ที่ตลาดสด โดยมีผู้ต้องหาคนแรก เป็นหญิง เดินมาทักว่า เห็นกระเป่าเงินของตนที่หล่นหายหรือไม่ ซึ่งข้างในมีทองคำ ตนจึงปฏิเสธ จากนั้นไม่นานมีผู้หญิงอีกคนเดินมาบกกับตนว่า เก็บกระเป๋าเงินได้ข้างในมีทองคำน้ำหนักมากพอสมควร แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ตนจึงเจตนาดี พาไปตามผู้หญิงคนแรกนึกว่าเป็นเจ้าของ แต่กลับไม่พบ จากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวจึงชักชวนตนนำทองคำไปขายนำเงินแบ่งกัน
แต่เกรงว่าจะชักช้า จึงบอกกับตนว่าให้เอาทองคำที่เก็บได้นี้ไปเลย แต่ให้ถอดสร้อยแขนที่ตนมีอยู่มาแลกกัน ซึ่งขณะนั้นตนมีความรู้สึกเบลอสับสน ถอดสร้อยข้อมือให้กับแก๊งตกทองไป จนกระทั่งสักพัก พอแก๊งตกทองหนีไป จึงร้องโวยวายให้คนช่วย และไปแจ้งตำรวจให้ติดตาม จนกระทั่งจับตัวได้ ซึ่งจำหน้าได้แม่น
