ตรัง – จังหวัดตรังเปิดประมูลรังนกโดยวิธีพิเศษ รอบที่ 6 หลังเปิดประมูลมาแล้ว 5 ครั้ง โดยบริษัท รังนกตรัง จำกัด ของนายอภิชิต อังศุทธางกูร หรือ "เสี่ยเล็ก" ได้รับสัญญาท้องที่อำเภอปะเหลียน ด้วยจำนวนเงิน 55 ล้านบาท
วันนี้ (18 ม.ค.) คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดตรัง ได้เปิดประมูลเงินอากรรังนกอีแอ่นในท้องที่จังหวัดตรังโดยวิธีพิเศษ ณ สถานที่กลาง โดยคงไว้ที่ราคากลางเดิม คือ สัญญาท้องที่อำเภอปะเหลียนจำนวน 63 ล้านบาท และสัญญาท้องที่อำเภอกันตัง และสิเการวมกันจำนวน 11.2 ล้านบาท หลังจากจังหวัดตรังได้ทำการเปิดประมูลเงินอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดตรังมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง แบ่งเป็นเปิดประมูลด้วยระบบอีออกชั่น 4 ครั้ง พร้อมกับการปรับลดราคากลางลงมารวม 3 ครั้ง และการเปิดให้เสนอราคาด้วยวิธีการยื่นเอกสารประมูลราคาแทน 1 ครั้ง แต่ยังหาผู้รับสัมปทานรายใหม่ไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหายืดเยื้อมานาน 4 เดือนแล้ว
สำหรับในครั้งที่ 6 นี้ ใช้การประมูลโดยวิธีพิเศษ โดยมีนายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง เป็นประธานคณะกรรมการประมูล ปรากฎว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีผู้ประกอบการเข้ายื่นเอกสารประมูลราคาโดยวิธีพิเศษทั้งหมด 5 ราย
ประกอบด้วย หจก.บี วาย บิวซิเนส บริษัท ขวานเพชร (สยาม) จำกัด บริษัท รังนกตรัง จำกัด บริษัท เซ็นจูรี ออยส์ จำกัด และ หจก.ประยงค์ศิลป์การโยธา
ส่วน หจก.ซุ่นเฮงก่อสร้าง มาลงชื่อ แต่ไม่ได้ยื่นเอกสารประมูล เนื่องจากหลักฐานไม่ครบ โดยมี 2 บริษัท ที่เสนอประมูลราคาทั้ง 2 สัญญา คือ บริษัท รังนกตรัง จำกัด และบริษัท เซ็นจูรี่ ออยส์ จำกัด
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการเปิดเอกสารประมูลของทั้ง 5 แห่ง พบว่า ทุกรายเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางทั้งหมด ดังนั้น ทางคณะกรรมการประมูลโดยวิธีพิเศษ เรียกตัวแทนผู้ประกอบการทั้ง 5 แห่ง เข้ามาเจรจาต่อรองราคา เพื่อให้ได้ราคาที่สูงที่สุด และเพื่อรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ
ผลปรากฎว่า บริษัท รังนกตรัง จำกัด ของนายอภิชิต อังศุทธางกูร หรือเสี่ยเล็ก ซึ่งอดีตเคยเป็นผู้รับสัมทานจัดเก็บรังนกจังหวัดตรัง เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา เป็นผู้เสนอราคาสูงที่สุด คือ สัญญาท้องที่อำเภอปะเหลียน จำนวน 55 ล้านบาท ส่วนสัญญาท้องที่อำเภอกันตัง และสิเการวมกัน จำนวน 7 ล้านบาท
ในขณะที่ผู้ประกอบการอีก 1 ราย คือ บริษัท เซ็นจูรี่ ออยส์ จำกัด เสนอราคาสัญญาท้องที่อำเภอปะเหลียน 44 ล้านบาท ส่วนสัญญาท้องที่อำเภอกันตัง และสิเกา จำนวน 4 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่เหลือที่ยื่นเสนอราคาเฉพาะสัญญาท้องที่อำเภอปะเหลียน เท่านั้น ได้แก่ หจก.ประยงค์ศิลป์การโยธา จำนวน 39 ล้านบาท บริษัท ขวานเพชร (สยาม) จำกัด จำนวน 35.3 ล้านบาท และ หจก.บี วาย บิวซิเนส จำนวน 25 ล้านบาท
นายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง และประธานคณะกรรมการประมูลโดยวิธีพิเศษ กล่าวว่า หลังจากเปิดเอกสารประมูลพบว่า ทุกบริษัทเสนอต่ำกว่าราคากลางทั้งหมด โดยมี บริษัท รังนกตรัง เสนอราคาประมูลสูงที่สุด คณะกรรมการจึงใช้ดุลยพินิจตามระเบียบของทางราชการร ในการให้ผู้เสนอราคารายใดเป็นผู้รับสัมปทาน ทั้งนี้ เพื่อความเป็นธรรมและเพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน คณะกรรมการจึงได้เรียกผู้เสนอราคาทั้งหมดเข้าพูดคุย และได้ผู้เสนอราคาสูงที่สุดคือ บริษัท รังนกตรัง
อย่างไรก็ตาม ราคาที่ได้ทาง อบจ.ตรัง ถือว่าพอใจ และทางราชการไม่ได้เสียผลประโยชน์ ที่สำคัญได้ผู้ประกอบการมืออาชีพมาดำเนินการจัดเก็บ คงไม่มีการทิ้งงานกลางคันเกิดขึ้น และคงช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้มีความสมบูรณ์ต่อไป
