ศูนย์ข่าวภูเก็ต-ผู้ว่าฯภูเก็ตสั่งรื้อศูนย์ควบคุมเรือภูเก็ต หลังถูกปล่อยปะปละเลยจนชำรุดไม่เหลือสภาพการเป็นศูนย์ฯ และไม่สามารถให้บริการเรือยอชต์ที่เข้า-ออกภูเก็ตปีละ 1,200 ลำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มอบพื้นที่ให้อบจ.เข้าไปจัดการซ่อมแซมครุภัณฑ์และบริการจัดการแบบ one stop service ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์ควบคุมท่าเรือและประสานงานรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทางทะเล ครั้งที่ 1/2553ที่ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากที่นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้มีการแต่งตั้ง คณะกรรมการบริหารศูนย์ควบคุมท่าเรือและประสานงานรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทางทะเลจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2552
หลังจากที่ได้มีคำสั่งยกเลิกการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารศูนย์ควบคุมท่าเรือ และประสานงานรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทางทะเลจังหวัดภูเก็ต ที่แต่งตั้งเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2545 คณะกรรมการบริหารท่าเทียบเรือภูเก็ต (อ่าวฉลอง) เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2550 และยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานกำหนดมาตรการควบคุมเรือสำราญและกีฬาประเภทเรือยอชต์
ทั้งนี้ เนื่องจากคณะกรรมการฯทั้ง 3 ชุด ขาดความต่อเนื่องในการประชุมติดตามความคืบหน้า และผลการดำเนินการของศูนย์ควบคุมเรือภูเก็ต (Phuket Port Control Center:PPCC) ทำให้สภาพของศูนย์ควบคุมเรือภูเก็ต ซึ่งเป็นศูนย์ที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2541 เพื่อเป็นศูนย์ที่ให้บริการเรือยอชต์ที่เข้ามาภูเก็ตแบบ One Stop Service โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้บริการแจ้งเข้า-ออกเรือยอชต์มาให้บริการทุกหน่วย ทั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีภูเก็ต ด่านศุลากรภูเก็ต อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เสียหาย ทำให้การให้บริการไม่มีประสิทธิภาพตามเจตนารมณ์ของการตั้งศูนย์ควบคุมเรือภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม จากการหารือของคณะกรรมการฯชุดใหม่ได้ข้อสรุป ที่จะมีการฟื้นฟูศูนย์ควบคุมเรือภูเก็ตขึ้นมาใหม่ พร้อมกับจะเข้ามาดูแลความปลอดภัยทางทะเลของนักท่องเที่ยวด้วย โดยจะให้อบต.ฉลองมอบพื้นที่ศูนย์ควบคุมเรือให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต(อบจ.) เพื่อจัดสรรงบประมาณในการเข้าไปปรับปรุงอุปกรณ์และอาคารให้มีความพร้อมในการให้บริการแจ้งเข้า-ออกของเรือยอชต์
พร้อมทั้งได้มีการเสนอให้มีการจัดทำโปรแกรมแบบฟอร์ม (Single Form) เพื่อที่จะให้เจ้าของเรือกรอกแบบฟอร์มทางอินเทอร์เน็ต เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะการดึงเรือยอชต์เข้ามาท่องเที่ยวและแวะจอดที่ภูเก็ต ถือเป็นยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
จากข้อมูลของด่านศุลากากรจังหวัดภูเก็ตในแต่ละปีมีเรือยอชต์แจ้งเข้า-ออกภูเก็ตปีละประมาณ 1,200 ลำ แต่เรือยอชต์ที่อยู่ในภูเก็ตมีจำนวนมากกว่านี้ เนื่องจากเรือยอชต์บางลำได้มาจดทะเบียนเป็นเรือไทยเพื่อให้บริการทางการท่องเที่ยว และปัจจุบันมีท่าเรือเอกชนเกิดขึ้นหลายแห่งในภูเก็ต ที่จะให้บริการจอดเรือยอชต์และซ่อมแซมเรือยอชต์ ทั้งที่เป็นท่าจอดเรือยอชต์ขนาดธรรมดาและซูเปอร์ยอชต์
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบที่จะมอบหมายให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ดูแลในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทางทะเล เนื่องจากทางศูนย์ฯได้รับการจัดสรรงบประมาณกลุ่มจังหวัดอันดามัน 17 ล้านบาท ในการตั้งศูนย์ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทางทะเลในกลุ่มอันดามัน โดยจะมีการซื้อเรือตรวจการณ์และเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสารต่างๆ
