ศูนย์ข่าวศรีราชา - รมช.คมนาคม ดูความพร้อมและเตรียมเพิ่มพื้นที่ความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวทางทะเล ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ
วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่อาคารศูนย์ควบคุมสมุทรเขต ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม คณะที่ปรึกษา พร้อมด้วย อธิบดีกรมเจ้าท่า รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม และชมศูนย์ควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล (ศจป.) และแนวทางในการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังในอนาคต โดยมี นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายเฉลิมเกียรติ สลักคำ ผู้อำนวยการการท่าเรือแหลมฉบังให้การต้อนรับ
นายสุขิน รัตนเสถียร ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล (ศจป.) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการส่งออกและนำเข้าสินค้าระหว่างประเทศจำนวนมาก โดยผ่านท่าเรือกรุงเทพฯ ท่าเรือศรีราชา ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือมาบตาพุด ซึ่งท่าเรือเหล่านี้เป็นท่าเรือยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวไทยตอนในและใกล้เคียง
นอกจากนี้ ชายฝั่งภาคตะวันออกและอ่าวไทยตอนใน ฝั่งจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ มีสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เช่น ชะอำ หัวหิน พัทยา เกาะล้าน เกาะเสม็ด เกาะช้าง โดยมีการเดินเรือและการจราจรทางน้ำค่อนข้างหนาแน่น และทำรายได้ให้กับประเทศมหาศาล
นายสุขิน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล มีพื้นที่ครอบคลุมชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกเท่านั้น ตั้งแต่เกาะจวง เกาะล้าน เกาะสีชัง สถานีนำร่องกรุงเทพฯ ที่ควบคุมท่าเรือสำคัญ คือ ท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือศรีราชา ที่มีศูนย์ควบคุมทั้งหมด อยู่ที่ ท่าเรือแหลมฉบัง
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในท้องทะเลทั้งหมด จึงมีโครงการขยายพื้นที่ ออกไปให้ครอบคลุมพื้นที่อ่าวไทยตอนในทั้งหมด และพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ถึงจังหวัดตราด ไปจนถึงชายฝั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และ สมุทรสงคราม โดยกรมเจ้าท่ามีแผนงานในอนาคต เพื่อให้ครอบคลุม บริเวณภาคใต้ฝั่งอันดามัน (จังหวัดภูเก็ต) บริเวณอ่าวไทย (จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี) ต่อไป
ด้าน นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ทางรัฐบาล การเดินทางมาดูงานในครั้งนี้ เพื่อต้องการพัฒนาจังหวัดชลบุรี ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างชื่อเสียงและสร้างรายได้สู่ประเทศ โดยเฉพาะการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งหากจะพัฒนาหรือมีโครงการใด เพื่อให้บ้านเมืองเจริญเติบโต ก็ให้รีบดำเนินการในทันที
ขณะนี้ทราบว่า จะมีโครงการขยายท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ซึ่งทราบว่า มีเสียงคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ โดยเรื่องนี้กลุ่มมวลชนไม่ควรคัดค้านหรือขัดขวางโครงการดังกล่าวเลย เพราะเป็นการสร้างความเจริญเติบโตให้กับประเทศชาติและสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ ก็ควรให้โครงการนี้เกิดขึ้น