“ชุมพล” เตรียมเสนอ ครม. ต่ออายุมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวยาวออกไปถึงสิ้นปีนี้ หวังช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวให้ถึงฝั่ง ยันตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปีที่ผ่านมา ทะลุเป้าได้กว่า 14 ล้านคน ไม่ได้โม้ ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯเตรียมหาข้อสรุปด้วยการให้ฝ่ายสถิติทำงานร่วมกับภาคเอกชน จัดเก็บตัวเลขให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เหตุที่ผ่านมาตัวเลขขัดแย้งกันมาโดยตลอด
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ทางกระทรวงฯอยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลขอต่ออายุมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนมี.ค.ศกนี้ โดยจะขอให้ต่ออายุไปถึงสิ้นปี จากเดิมที่มาตรการจะครบกำหนดในเดือน มี.ค.53 เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ยกเว้นค่าลงจอดสนามบิน(แลนด์ดิ้งฟี) ยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน เป็นต้น ทั้งนี้เพราะเห็นด้วยกับภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวว่ามาตรการที่รัฐบาลออกมานั้นสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้จริง และยังมีความจำเป็นต้องทำต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
สำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตั้งไว้ว่าในปี 2553 ต้องการจะทำให้ได้ 16 ล้านคน ยอมรับเป็นตัวเลขที่สูงมาก เพื่อต้องการให้ทุกฝ่ายเกิดความพยายาม โดยไม่มีจุดประสงค์จะไปกดดันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด เพราะแม้ไม่ได้ตามเป้าหมายก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นความบกพร่องของใคร
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2552 ล่าสุด ได้รับรายงานจากด่านตรวจคนเข้าเมืองในทุกด่านของประเทศไทย โดยมียอดรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดปี 2552 ที่จำนวน 14.09 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 5.27 แสนล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่เกิดกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการออกมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล ตลอดจนการทำงานเชิงรุก ที่กระทรวงการท่องเที่ยว ททท.และภาคเอกชนร่วมมือกัน อาทิ การเดินทางไปโรดโชว์ต่างประเทศ เรียกความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและบริษัทนำเที่ยว
ทั้งนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2552 สรุปได้เร็วกว่าทุกๆปี เป็นเพราะกระทรวงฯได้สั่งการในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำชับทุกฝ่ายให้รวบรวมตัวเลขโดยเร็วที่สุด โทรศัพท์สอบถามจากทุกด่าน เพื่อให้ทราบสถานการณ์นักท่องเที่ยวให้ทันกับเหตุการณ์ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับรายงานยังพบว่าเฉพาะเดือนธ.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจำนวนมากถึง 1.63 ล้านคน จากเป้าหมายเดมที่คาดว่าจะได้ 1.5 ล้านคน ทำให้ตัวเลขรวมทั้งหมดมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามรายงานข่าวระบุว่า ที่ผ่านมา การนำเสนอตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติระหว่างภาครัฐบาลกับภาคเอกชน มักแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจมีปัญหามาจากหลายๆสาเหตุ โดยภาคเอกชนอ้างว่าเก็บข้อมูลจากชาวต่างชาติที่ใช้บริการและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมที่เกิดขึ้นจริง
ขณะที่ภาครัฐจะยืนยันตัวเลขนักท่องเที่ยวตามรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จากทุกด่านของประเทศไทย แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าการจัดเก็บตัวเลข ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาของประเทศไทย ยังไม่มีระบบการแบ่งแยกว่า เข้ามาเพื่อจุดประสงค์ใดอย่างแน่ชัด ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) อยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบการจัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ระบุว่า ได้เตรียมให้สำนักสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยว ทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อจัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ทางกระทรวงฯอยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลขอต่ออายุมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนมี.ค.ศกนี้ โดยจะขอให้ต่ออายุไปถึงสิ้นปี จากเดิมที่มาตรการจะครบกำหนดในเดือน มี.ค.53 เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ยกเว้นค่าลงจอดสนามบิน(แลนด์ดิ้งฟี) ยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน เป็นต้น ทั้งนี้เพราะเห็นด้วยกับภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวว่ามาตรการที่รัฐบาลออกมานั้นสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้จริง และยังมีความจำเป็นต้องทำต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
สำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตั้งไว้ว่าในปี 2553 ต้องการจะทำให้ได้ 16 ล้านคน ยอมรับเป็นตัวเลขที่สูงมาก เพื่อต้องการให้ทุกฝ่ายเกิดความพยายาม โดยไม่มีจุดประสงค์จะไปกดดันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด เพราะแม้ไม่ได้ตามเป้าหมายก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นความบกพร่องของใคร
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2552 ล่าสุด ได้รับรายงานจากด่านตรวจคนเข้าเมืองในทุกด่านของประเทศไทย โดยมียอดรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดปี 2552 ที่จำนวน 14.09 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 5.27 แสนล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่เกิดกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการออกมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล ตลอดจนการทำงานเชิงรุก ที่กระทรวงการท่องเที่ยว ททท.และภาคเอกชนร่วมมือกัน อาทิ การเดินทางไปโรดโชว์ต่างประเทศ เรียกความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและบริษัทนำเที่ยว
ทั้งนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2552 สรุปได้เร็วกว่าทุกๆปี เป็นเพราะกระทรวงฯได้สั่งการในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำชับทุกฝ่ายให้รวบรวมตัวเลขโดยเร็วที่สุด โทรศัพท์สอบถามจากทุกด่าน เพื่อให้ทราบสถานการณ์นักท่องเที่ยวให้ทันกับเหตุการณ์ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับรายงานยังพบว่าเฉพาะเดือนธ.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจำนวนมากถึง 1.63 ล้านคน จากเป้าหมายเดมที่คาดว่าจะได้ 1.5 ล้านคน ทำให้ตัวเลขรวมทั้งหมดมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามรายงานข่าวระบุว่า ที่ผ่านมา การนำเสนอตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติระหว่างภาครัฐบาลกับภาคเอกชน มักแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจมีปัญหามาจากหลายๆสาเหตุ โดยภาคเอกชนอ้างว่าเก็บข้อมูลจากชาวต่างชาติที่ใช้บริการและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมที่เกิดขึ้นจริง
ขณะที่ภาครัฐจะยืนยันตัวเลขนักท่องเที่ยวตามรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จากทุกด่านของประเทศไทย แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าการจัดเก็บตัวเลข ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาของประเทศไทย ยังไม่มีระบบการแบ่งแยกว่า เข้ามาเพื่อจุดประสงค์ใดอย่างแน่ชัด ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) อยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบการจัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ระบุว่า ได้เตรียมให้สำนักสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยว ทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อจัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
