ชุมพร - พบซากเต่าตะนุ เพศเมีย อายุประมาณ 16 ปี น้ำหนัก 100 กิโลกรัม ลอยเกยตื้นชายหาดบ้านบ่อเมา ตรวจสอบที่คอมีบาดแผลเหวอะหวะ ลักษณะคล้ายติดตาข่ายอวนเรือประมง ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (21 ธ.ค.) น.ส.ชิดสุภางค์ ชำนาญ เลขาธิการสมาคมเพื่อนสิ่งแวดล้อม จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเต่าทะเลตัวขนาดใหญ่ตายถูกคลื่นซัด ขึ้นมาเกยบริเวณชายหาดบ้านบ่อเมา หมู่ 1 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงประสานไปยัง นางนิภาวรรณ บุศราวิช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ
จุดที่พบซากเต่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ อ.ปะทิว บริเวณชายหาดพบซากเต่าทะเลตัวขนาดใหญ่สภาพตายขึ้นอืดมีกลิ่นเหม็นโชยคลุ้งไปทั่ว ตรวจสอบเป็นเต่าตะนุ เพศเมีย อายุประมาณ 16 ปี น้ำหนัก 100 กิโลกรัม ที่คอมีบาดแผลเหวอะหวะลักษณะคล้ายติดตาข่ายอวนเรือประมง ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า
เต่าตะนุตัวดังกล่าว น่าจะออกหาอาหารกินแล้วส่วนหัวได้มุดเข้าไปติดตาข่ายอวนเรือประมง ที่วางจับปลาอยู่กลางทะเล หรือติดเศษอวนที่ถูกทิ้งจมอยู่ใต้ท้องทะเลแล้วดิ้นรนจนคอเป็นแผลเหวอะหวะ และจมน้ำตายในที่สุด กระทั่งถูกคลื่นทะเลซัดลอยขึ้นไปเกยอยู่บนหาด และมีชาวบ้านไปพบแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบดังกล่าว
นางนิภาวรรณ บุศราวิช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร กล่าวว่า เต่าตะนุตัวดังกล่าวเป็นเพศเมียที่กำลังอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ และขยายพันธุ์ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเพราะแต่ละปีทางศูนย์วิจัยฯ ได้พยายามร่วมกับชุมชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และขยายพันธุ์เต่าตะนุ
ด้วยการปล่อยพันธุ์เต่าลงสู่ทะเลอ่าวไทยเป็นจำนวนมาก เมื่อพบว่า มีซากเต่าที่อยู่ในวัยขยายพันธุ์ตายแล้วถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยชายหาด ซึ่งไม่ว่าจะตายด้วยสาเหตุใดก็ตาม ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากไม่ตาย จะทำให้เต่าวัยเจริญพันธุ์ดังกล่าวสามารถแพร่ขยายพันธุ์ได้อีกเป็นจำนวนมาก.