ชุมพร-พบซากปลาโลมาหัวบาตร เพศผู้ ตายถูกคลื่นซัดเกยตื้นริมชายหาดทุ่งวัวแล่น แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดชุมพร คาดจมน้ำตายเหตุถูกอวนรัดหาง จนไม่สามารถว่ายขึ้นหายใจเหนือน้ำได้ ขณะที่นักวิชาการ เผย ปีที่ผ่านมามีโลมา ตายนับ 10 ตัว
วันนี้ (11 ม.ค.) นายปราโมทย์ ฉิมหาด เจ้าหน้าที่งานประมง ชำนาญงาน ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง ได้รับแจ้งจาก นายชัยพร พรหมพิมาน อายุ 29 ปี หัวหน้าชุดกู้ภัยทางทะเล หาดทุ่งวัวแล่น อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่า มีปลาโลมาตายลอยขึ้นมาเกยฝั่งบริเวณหน้าหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ 8 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร
จึงได้นำเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบพบว่า เป็นปลาโลมา สายพันธุ์หัวบาตร หางราบ เพศผู้ ยาวประมาณ 1.23 เมตร น้ำหนักประมาณ 19 กิโลกรัม อายุประมาณปีเศษ สภาพผิวหนังถลอกทั้งตัว มีเลือดไหลออกมาทางปาก จึงทำการผ่าชันสูตรซากพบว่า ในกระเพาะมีปลาตัวเล็ก ๆ จำนวนมากที่ยังไม่ย่อย สลาย
บ่งบอกว่า ระบบทางเดินอาหารเป็นปกติ คาดว่า น่าจะขาดอากาศหายใจ เนื่องจากตรวจบริเวณโคนหางมีร่องรอยคล้ายถูกอวนของชาวประมง จึงขึ้นมาเหนือน้ำหายใจไม่ได้ น่าจะตายมา แล้วประมาณ 2 วัน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บชิ้นส่วนนำไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อหาว่าเป็นโลมาจากฝูงไหน
นายปราโมทย์ ฉิมหาด เจ้าหน้าที่งานประมง ชำนาญงาน ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง กล่าวว่า น่านน้ำอ่าวไทย ตั้งแต่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนถึง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช จะมีปลาโลมาอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโลมาหัวบาตร พบว่า มีมากที่สุด รองลงมาคือโลมาสายพันธุ์อิรวดี และบลูด้า
โดยแต่ละสายพันธุ์จะอยู่ร่วมกันเป็นฝูงนับ 10 ตัว โดยในปี 2552 ที่ผ่านมา มีปลาโลมาตายในลักษณะติดเครื่องมือประมง และลอยมาเกยฝั่งในน่านน้ำอ่าวไทย กว่า 10 ตัว นอกจากนี้ ยังมีเต่าทะเล ที่ตายด้วยเศษอาหาร ถุงพลาสติกที่ทิ้งลงทะเล อยู่ในกระเพาะเต่าอีกด้วย.
วันนี้ (11 ม.ค.) นายปราโมทย์ ฉิมหาด เจ้าหน้าที่งานประมง ชำนาญงาน ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง ได้รับแจ้งจาก นายชัยพร พรหมพิมาน อายุ 29 ปี หัวหน้าชุดกู้ภัยทางทะเล หาดทุ่งวัวแล่น อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่า มีปลาโลมาตายลอยขึ้นมาเกยฝั่งบริเวณหน้าหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ 8 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร
จึงได้นำเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบพบว่า เป็นปลาโลมา สายพันธุ์หัวบาตร หางราบ เพศผู้ ยาวประมาณ 1.23 เมตร น้ำหนักประมาณ 19 กิโลกรัม อายุประมาณปีเศษ สภาพผิวหนังถลอกทั้งตัว มีเลือดไหลออกมาทางปาก จึงทำการผ่าชันสูตรซากพบว่า ในกระเพาะมีปลาตัวเล็ก ๆ จำนวนมากที่ยังไม่ย่อย สลาย
บ่งบอกว่า ระบบทางเดินอาหารเป็นปกติ คาดว่า น่าจะขาดอากาศหายใจ เนื่องจากตรวจบริเวณโคนหางมีร่องรอยคล้ายถูกอวนของชาวประมง จึงขึ้นมาเหนือน้ำหายใจไม่ได้ น่าจะตายมา แล้วประมาณ 2 วัน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บชิ้นส่วนนำไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อหาว่าเป็นโลมาจากฝูงไหน
นายปราโมทย์ ฉิมหาด เจ้าหน้าที่งานประมง ชำนาญงาน ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง กล่าวว่า น่านน้ำอ่าวไทย ตั้งแต่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนถึง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช จะมีปลาโลมาอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโลมาหัวบาตร พบว่า มีมากที่สุด รองลงมาคือโลมาสายพันธุ์อิรวดี และบลูด้า
โดยแต่ละสายพันธุ์จะอยู่ร่วมกันเป็นฝูงนับ 10 ตัว โดยในปี 2552 ที่ผ่านมา มีปลาโลมาตายในลักษณะติดเครื่องมือประมง และลอยมาเกยฝั่งในน่านน้ำอ่าวไทย กว่า 10 ตัว นอกจากนี้ ยังมีเต่าทะเล ที่ตายด้วยเศษอาหาร ถุงพลาสติกที่ทิ้งลงทะเล อยู่ในกระเพาะเต่าอีกด้วย.
