ตรัง - ตม.DSI มูลนิธิกระจกเงา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นบริษัท เจ.ดี.พี.จำกัด แพปลารายใหญ่ในอ.กันตัง พบแรงงานพม่ากว่า 60 คน เจ้าของบริษัทอ้างเป็นลูกเรือประมงที่มาส่งสินค้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงงาน
วันนี้ (23 พ.ย.) พ.ต.ท.ทวีป ช่างต่อ สารวัตรสืบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวน สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นำกำลังประสานร่วมกับ เจ้าหน้าที่ DSI เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดตรัง และสำนักงานจัดหางานจังหวัดตรัง กว่า 30 คน พร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดตรัง เข้าตรวจค้นบริษัท เจ.ดี.พี.จำกัด เลขที่ 25/3 หมู่ที่ 4 ตำบลบางเป้า อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นโรงงานปลาป่นและโรงน้ำแข็งบด รายใหญ่ในพื้นที่อำเภอกันตัง
หลังได้รับแจ้งว่าภายในโรงงานดังกล่าว มีการกักขังและใช้กำลังความรุนแรงทารุณกรรมแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า เข้าข่ายลักษณะการค้ามนุษย์ ซึ่งจากการตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ที่พักอาศัยอยู่ภายในบ้านพักคนงาน จำนวน 32 คน และอาศัยอยู่ภายในเรือซึ่งจอดอยู่ในเขตโรงงานอีก จำนวน 24 คน รวมแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าที่ตรวจพบในครั้งนี้ทั้งหมด จำนวน 56 คน และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า แรงงานต่างด้าวบางคนมีการขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง แต่บางคนไม่มีใบอนุญาตมานำแสดง จึงควบคุมทั้งหมดดำเนินการสืบสวนสอบสวน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้รับแจ้งจากแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ที่หลบหนีรอดออกไปได้ว่าภายในโรงงานดังกล่าว มีแรงงานพม่าชื่อว่า นายยาว เป็นคนใช้กำลังทารุณกรรมทุบตี บังคับข่มขู่ให้ใช้แรงงานโดยไม่ยินยอม โดยจะมีไต๋ก๋งเรือเป็นนายหน้าจัดหาแรงงานต่างด้าวมาอีกทอดหนึ่ง โดยที่แรงงานต่างด้าวที่จับกุมได้ทั้งหมดในครั้งนี้ บางคนไม่มีความยินยอมในการทำงาน และต้องการกลับประเทศแต่ถูกกักขังไว้จนไม่สามารถออกไปไหนได้
ส่วนทางด้าน เจ้าของบริษัท เจ.ดี.พี.จำกัด ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ อ้างว่า แรงงานต่างด้าวที่ตรวจพบมีใบอนุญาตนั้น เป็นคนงานที่ทางโรงงานว่าจ้างอย่างถูกกฎหมาย ส่วนที่เหลือนั้นเป็นลูกเรือที่มาเรือประมงที่นำสินค้ามาส่งให้ โดยที่ทางโรงงานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบังคับใช้แรงงานตามที่ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมาแต่อย่างใด โดยสามารถตรวจสอบเอกสารที่ทางโรงงานมีทั้งหมดได้ ซึ่งโรงงานได้มีการว่างจ้างแรงานต่างด้าวไว้ทั้งหมด 674 คน และอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุญาตใหม่อีกจำนวนหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามนายหน้าไต๋ก่งเรือที่ได้รับแจ้งว่า เป็นผู้ล่อลวงและกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือเข้าข่ายการค้าแรงงานมนุษย์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนทางโรงงานนั้นกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ว่า เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายใดบ้าง และจะมีการสอบถามความสมัครใจแก่แรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้องว่า มีความต้องการที่จะทำงานในประเทศไทยต่อไปอีกหรือไม่ ซึ่งหากต้องการที่จะกลับประเทศก็จะมีการประสาน และผลักดันแรงงานทั้งหมดกลับประเทศพม่าต่อไป
วันนี้ (23 พ.ย.) พ.ต.ท.ทวีป ช่างต่อ สารวัตรสืบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวน สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นำกำลังประสานร่วมกับ เจ้าหน้าที่ DSI เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดตรัง และสำนักงานจัดหางานจังหวัดตรัง กว่า 30 คน พร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดตรัง เข้าตรวจค้นบริษัท เจ.ดี.พี.จำกัด เลขที่ 25/3 หมู่ที่ 4 ตำบลบางเป้า อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นโรงงานปลาป่นและโรงน้ำแข็งบด รายใหญ่ในพื้นที่อำเภอกันตัง
หลังได้รับแจ้งว่าภายในโรงงานดังกล่าว มีการกักขังและใช้กำลังความรุนแรงทารุณกรรมแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า เข้าข่ายลักษณะการค้ามนุษย์ ซึ่งจากการตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ที่พักอาศัยอยู่ภายในบ้านพักคนงาน จำนวน 32 คน และอาศัยอยู่ภายในเรือซึ่งจอดอยู่ในเขตโรงงานอีก จำนวน 24 คน รวมแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าที่ตรวจพบในครั้งนี้ทั้งหมด จำนวน 56 คน และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า แรงงานต่างด้าวบางคนมีการขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง แต่บางคนไม่มีใบอนุญาตมานำแสดง จึงควบคุมทั้งหมดดำเนินการสืบสวนสอบสวน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้รับแจ้งจากแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ที่หลบหนีรอดออกไปได้ว่าภายในโรงงานดังกล่าว มีแรงงานพม่าชื่อว่า นายยาว เป็นคนใช้กำลังทารุณกรรมทุบตี บังคับข่มขู่ให้ใช้แรงงานโดยไม่ยินยอม โดยจะมีไต๋ก๋งเรือเป็นนายหน้าจัดหาแรงงานต่างด้าวมาอีกทอดหนึ่ง โดยที่แรงงานต่างด้าวที่จับกุมได้ทั้งหมดในครั้งนี้ บางคนไม่มีความยินยอมในการทำงาน และต้องการกลับประเทศแต่ถูกกักขังไว้จนไม่สามารถออกไปไหนได้
ส่วนทางด้าน เจ้าของบริษัท เจ.ดี.พี.จำกัด ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ อ้างว่า แรงงานต่างด้าวที่ตรวจพบมีใบอนุญาตนั้น เป็นคนงานที่ทางโรงงานว่าจ้างอย่างถูกกฎหมาย ส่วนที่เหลือนั้นเป็นลูกเรือที่มาเรือประมงที่นำสินค้ามาส่งให้ โดยที่ทางโรงงานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบังคับใช้แรงงานตามที่ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมาแต่อย่างใด โดยสามารถตรวจสอบเอกสารที่ทางโรงงานมีทั้งหมดได้ ซึ่งโรงงานได้มีการว่างจ้างแรงานต่างด้าวไว้ทั้งหมด 674 คน และอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุญาตใหม่อีกจำนวนหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามนายหน้าไต๋ก่งเรือที่ได้รับแจ้งว่า เป็นผู้ล่อลวงและกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือเข้าข่ายการค้าแรงงานมนุษย์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนทางโรงงานนั้นกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ว่า เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายใดบ้าง และจะมีการสอบถามความสมัครใจแก่แรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้องว่า มีความต้องการที่จะทำงานในประเทศไทยต่อไปอีกหรือไม่ ซึ่งหากต้องการที่จะกลับประเทศก็จะมีการประสาน และผลักดันแรงงานทั้งหมดกลับประเทศพม่าต่อไป