xs
xsm
sm
md
lg

จี้ มท.แจงคำสั่งห้าม 17 ชาวบ้านแม่อายย้ายทะเบียนราษฎร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชียงใหม่ – เครือข่ายเอ็นจีโอ จี้มหาดไทย แจงคำสั่งห้าม 17 ชาวบ้านแม่อายเคลื่อนย้ายทะเบียนราษฎร พร้อมเตรียมออกคำสั่งเพิ่มอีก 774 คน ทั้งที่เป็นกลุ่มคนที่ได้รับการคุ้มครองตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด

รายงานข่าวแจ้งว่า สถาบันวิจัยและพัฒนาเพื่อเฝ้าระวังสภาวะไร้รัฐ, เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย (คชท.), มูลนิธิกระจกเงา สำนักงานเชียงราย, มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมสำเนาถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นายอำเภอแม่อาย และ นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ลงวันที่ 14 ต.ค.52 เรียกร้องให้ชี้แจงเกี่ยวกับการดำนานการตามมาตรา 11 พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 และขอให้มีหนังสือสั่งการเพื่อทำความเข้าใจต่อการดำเนินการดังกล่าว

โดยระบุว่า เนื่องจากสำนักทะเบียนอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งระงับการเคลื่อนไหวรายการทะเบียนราษฎรชาวบ้านอำเภอแม่อายแล้ว จำนวน 17 คน และอยู่ระหว่างเตรียมออกคำสั่ง จำนวน 774 คน สถาบันวิจัยและพัฒนาเพื่อเฝ้าระวังสภาวะไร้รัฐ ร่วมกับเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนบนพื้นที่สูง มูลนิธิกระจกเงา และมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ซึ่งเป็นองค์กรด้านกฎหมายและองค์กรพัฒนาเอกชนด้านปัญหาสถานะบุคคลและสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ แรงงานข้ามชาติและผู้มีปัญหาสถานะบุคคล เห็นว่าปฏิบัติหน้าที่ของสำนักทะเบียนอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่และกรมการปกครอง หรือคำสั่งทางปกครองดังกล่าว โดยมีความเห็นว่า

ก่อนที่จะมีการออกหนังสือคำสั่งดังกล่าว ควรไต่สวนเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง โดยออกคำสั่งเรียกให้ชาวบ้านมาได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอและมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐาน อันเป็นหลักทั่วไปแห่งวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ที่ได้รับการรับรองคุ้มครองโดยมาตรา 58 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มิใช่ดำเนินการเพียงการตรวจสอบฝ่ายเดียวโดยลำพัง และออกคำสั่งดังกล่าว

นอกจากนี้ การใช้อำนาจตามมาตรา 11 ยังเป็นการตัดราษฎร ซึ่งเป็นผู้ได้รับคำสั่ง หรือคู่กรณีออกไปจากการดำเนินกระบวนการพิจารณาทางปกครอง คู่กรณีไม่มีโอกาสได้ร่วมรู้เห็นในชั้นการดำเนินการพิจารณาจนล่วงเลยถึงชั้นออกคำสั่งไปแล้ว การจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องในชั้นทบทวนคำสั่งไปแล้ว

และเนื่องจากชาวบ้านผู้ได้รับคำสั่งระงับการเคลื่อนไหวทางทะเบียน โดยสำนักทะเบียนแม่อายกลุ่มนี้ คือ กลุ่มบุคคลใน 1,243 คน ที่เคยได้รับการคุ้มครองตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๑๗/๒๕๔๘) โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวนี้เป็นบุคคลดั้งเดิม อาศัยอยู่มานานจนมีสิทธิที่จะได้รับการพัฒนาสถานะบุคคลเป็นผู้มีสัญชาติไทยตามกฎหมายสัญชาติและระเบียบที่เกี่ยวข้อง กลุ่มบุคคลดังกล่าวยังคงยืนยันถึงสิทธิในสถานะบุคคลผู้มีสัญชาติไทยของตนมาโดยตลอด พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบสถานะบุคคล การพิสูจน์ถึงการมีสัญชาติไทย โดยยังคงปรากฏตัว ไม่เคยอพยพโยกย้ายออกไปจากอำเภอแม่อาย ฯลฯ

การออกคำสั่งทางปกครองของสำนักทะเบียนแม่อาย ถือเป็นการผลักภาระการพิสูจน์ให้กับชาวบ้าน อาจกล่าวได้ว่า เป็นการกระทำทางปกครองที่ขัดต่อหลักความจำเป็น อีกทั้งคำสั่งดังกล่าว ยังมีผลกระทบต่อฐานะทางทะเบียนราษฎรและสิทธิเสรีภาพในการโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อไปประกอบอาชีพหรือดำเนินการต่างๆ อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยคุ้มครองและรับรองไว้ ทั้งยังก่อให้เกิดและ/หรืออาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้ได้รับคำสั่งฯ ดังที่เคยเกิดขึ้นกับชาวบ้านอำเภอแม่แตงซึ่งถูกคำสั่งระงับการเคลื่อนไหวทางทะเบียนมาแล้ว

ดังนั้น ทางองค์กรและเครือข่าย จึงขอให้กรมการปกครองชี้แจงถึงแนวทางปฏิบัติ ตลอดจนการเยียวยาหากเกิดความเสียหายขึ้นอย่างชัดเจน

กำลังโหลดความคิดเห็น