ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานที่ดินภูเก็ตสั่งตรวจสอบสารบบการออกเอกสารสิทธิให้ประชาชน รวมทั้งสารบบการซื้อขายที่ดิน หลังผู้เฒ่าวัย 82 ร้องผู้ว่าฯภูเก็ต ตรวจสอบออกเอกสารสิทธิที่ดินของตัวเองทั้งที่ไม่เคยยื่นขอ อ้างมีการขายเปลี่ยนมือโดยไม่ทราบเรื่อง
จากกรณีที่นายหมีด เกิดทรัพย์ อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 3 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้เดินเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผ่าน ศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อให้ตรวจสอบกรณีการออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยใช้หลักฐาน ส.ค.1 หมายเลข 305 ออกเป็น น.ส. 3 ก.หมายเลข 240 ซึ่งเป็นที่ดินในพื้นที่ตำบลป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
นายหมีด กล่าวว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่6ไร่ 1 งาน อยู่ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ป่าคลอก ซึ่งขณะนี้ได้มีการออกเอกสารสิทธิ น.ส.3ก.โดยใช้หลักฐานส.ค.1หมายเลข 305 ตั้งแต่ปี 2527 ซึ่งเป็นที่ดินที่ตนครอบครองอยู่ แต่ที่ดินดังกล่าวได้กลายเป็นของบุคคลอื่นโดยที่ตนซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินไม่ทราบเรื่อง และไม่เคยยื่นเรื่องขอออก น.ส. 3 ก.มาก่อน จึงอยากให้ จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเอกสารสิทธิในที่ดินดังกล่าวเนื่องจากขณะนี้มีบุคคลอื่นมาแสดงตัว เป็นเจ้าของที่ดินแปลงที่ตนเองได้ทำมาหากินมาเป็นเวลานานแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (12 พ.ย.) นายไพฑูรย์ เลิศไกร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า จากข้อมูลเอกสารที่ผู้ร้องระบุ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเดิมมีการแจ้งครอบครองโดย ส.ค.1 ต่อมาภายหลังมีการเดินสำรวจเพื่อออกเอกสารสิทธิตามโครงการของกรมที่ดินในสมัยนั้น เจ้าของที่ดินได้นำเดินสำรวจ โดยระบุว่าไม่ได้แจ้งการครอบครองหรือไม่ใช้ ส.ค.1 มานำในการเดินสำรวจ จนมีการออกเอกสารที่ดินเป็น นส.3 ก และจดทะเบียนขาย
เท่าที่ตรวจสอบพบว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน ภายหลังมีหลักฐานการจดทะเบียนขายที่ดินแปลงดังกล่าวโดยมีการทำนิติกรรมโดยผู้ร้องเอง ซึ่งในส่วนของ ส.ค.1 หากทำการตรวจสอบได้แน่ชัดว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกันกับที่มีการออกเอกสารที่ดินเป็น นส.3 ก ในทางปฎิบัติก็คงต้องทำการจำหน่าย ส.ค.1 ฉบับดังกล่าวไปโดยปริยาย
ส่วนประเด็นที่นายหมีด ผู้ร้องอ้างว่า ตนเองมิได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อ ในการยื่นเรื่องขอออกโฉนดที่ดินและเซ็นชื่อขายที่ดินแปลงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องที่จะต้องมีการพิสูจน์หาข้อเท็จจริงกันต่อไปตามกระบวนการยุติธรรม เรื่องนี้ตนเองได้สั่งการให้ทางที่ดินอำเภอถลางเร่งดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงที่แน่ชัดต่อไป
สำหรับเหตุการณ์กรณีที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งมีเอกสารสิทธิ ส.ค.1 แล้วมีบุคคลอื่นนำไปออกเอกสารสิทธิ์เป็น นส.3 ก นั้น พบไม่บ่อยนัก กรณีนี้จึงอาจเกิดจากการหลงลืมของผู้ร้องหรือมีความผิดพลาดตรงจุดไหน คงต้องทำการสอบสวนหาสาเหตุกันต่อไป กรณีเช่นนี้ถือว่าเกิดขึ้นได้น้อยมาก
ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเอกสารหลักฐานการยื่นขอออกเอกสารสิทธิ นส.3 ก และหลักฐานการซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าวว่า เป็นลายมือชื่อของผู้ร้องจริงหรือไม่ หรือมีการปลอมแปลงลายมือชื่อ ในขณะนีศูนย์ดำรงธรรมยังไม่ส่งเรื่องมาถึงตน แต่จากข้อมูลที่ทราบเรื่องตนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการไปทางที่ดิน อ.ถลาง ตรวจสอบสารบบการยื่นเรื่องขอออก นส.3 ก และสารบบการซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดภายใน 1-2 วันนี้
ด้านนายไพฑูรย์ เลิศไกร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ยังฝากถึงเจ้าของที่ดินที่มี ส.ค.1 อยู่ในครอบครองว่า ให้รีบมายื่นขอออกโฉนดหรือ นส.3 ก ณ สำนักงานที่ดินท้องที่ ก่อนวันที่ 6 ก.พ.2553 หากเลยกำหนดแล้ว นับจากวันที่ 7 ก.พ.2553 เป็นต้นไป เจ้าของที่ดินที่มี ส.ค.1 ประสงค์จะออกโฉนดหรือ นส.3 ก ต้องปยื่นคำร้องต่อศาลเท่านั้น ซึ่งจะยุ่งยากและทำให้เสียเวลาและเสียค่าใช้เพิ่มขึ้น
