ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เทศบาลนครภูเก็ตปรับอัตราค่ากำจัดขยะเพิ่มจาก 300 เป็น 528 บาท/ตัน หลังถูกรัฐบาลตัดงบอุดหนุนค่าดำเนินการกำจัดขยะ กว่า 43 ล้านบาท ผวจ.จี้เร่งแก้ไขปัญหารถขยะสร้างความเดือดร้อนให้ปชช.รวมทั้งผู้ใช้รถใช้ถนนเหตุปล่อยให้น้ำจากขยะหกเรี่ยราดขณะขนส่ง
น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวถึงแนวทางการกำจัดขยะของจังหวัดภูเก็ตซึ่งในแต่ละวันมีปริมาณขยะเข้าสู่เตาเผากว่า 500 ตัน แต่ความสามารถในการกำจัดขยะของเต่าเผาขยะทำได้เพียงวันละ 250 ตัน ประกอบกับในปี กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งว่า คณะรัฐมนตรีไม่เห็นชอบให้ตั้งงบประมาณตามที่เสนอขออุดหนุน เป็นเงิน 43,737,547 บาทว่า เรื่องของการจัดการขยะของจังหวัดภูเก็ตซึ่งทุกปีจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลในการอุดหนุนงบประมาณประปี
แต่ปีงบประมาณ 2553 ทางเทศบาลนครภูเก็ตได้รับแจ้งจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นว่า คณะรัฐมนตรีมีมติไม่เห็นชอบให้ตั้งงบประมาณตามที่เสนอขออุดหนุน เป็นเงิน 43,737,547 บาท ทำให้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2553 เทศบาลนครภูเก็ตไม่มีเงินงบประมาณเพียงพอในการดำเนินการและบำรุงรักษาระบบกำจัดขยะของจังหวัดภูเก็ต จำเป็นต้องหาแนวทางการสรรหางบประมาณค่ากำจัดขยะให้เพียงพอ
“จากเดิมรัฐบาลอุดหนุน เป็นเงิน 43 ล้านบาทเศษต่อปี แต่ในปี 2553 เงินในส่วนนี้ขาดหายไปตามปริมาณขยะที่มีอยู่ 191,857 ตัน คิดเป็นส่วนที่ขาดหายไป 228 บาทต่อตัน เทศบาลนครภูเก็ตจึงขอปรับอัตราค่าขยะเพิ่มจากเดิม 300 บาท เป็น 528 บาท เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว” นางสาวสมใจ กล่าว
ขณะที่ นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ที่ผ่านมามีเรื่องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมเกี่ยวกับเรื่องของรถบรรทุกขยะที่ทำน้ำขยะรั่วไหล ขยะปลิว รวมทั้งส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้าน และผู้ที่สัญจรไปมาบนท้องถนน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยกำหนดระเบียบการใช้ยานพาหนะขนส่งขยะเข้าเมือง เช่น การใช้รถ เส้นทาง ลักษณะรถ การบำรุงรักษา การบีบปล่อยน้ำขยะ เหล่านี้เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องการให้มีการขนส่งอย่างปลอดภัย
จากข้อมูลพบว่า มีรถขยะวิ่งเข้ามายังโรงงานเตาเผาขยะวันละกว่า 200 เที่ยว โดยมีประเภทรถบรรทุกขยะแบบอัดท้าย รถบรรทุกขยะแบบเปิดข้าง รถบรรทุกธรรมดา และรถกระบะ ซึ่งมีทั้งของภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรถจำนวนหลายคันมีสภาพชำรุด การขนส่งไม่ป้องกันการปลิวของขยะ รถบรรทุกแบบอัดท้ายมีถังบรรจุน้ำชำรุด พนักงานขับรถด้วยความเร็วและปล่อยน้ำขยะลงบนถนน เป็นต้น
น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวถึงแนวทางการกำจัดขยะของจังหวัดภูเก็ตซึ่งในแต่ละวันมีปริมาณขยะเข้าสู่เตาเผากว่า 500 ตัน แต่ความสามารถในการกำจัดขยะของเต่าเผาขยะทำได้เพียงวันละ 250 ตัน ประกอบกับในปี กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งว่า คณะรัฐมนตรีไม่เห็นชอบให้ตั้งงบประมาณตามที่เสนอขออุดหนุน เป็นเงิน 43,737,547 บาทว่า เรื่องของการจัดการขยะของจังหวัดภูเก็ตซึ่งทุกปีจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลในการอุดหนุนงบประมาณประปี
แต่ปีงบประมาณ 2553 ทางเทศบาลนครภูเก็ตได้รับแจ้งจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นว่า คณะรัฐมนตรีมีมติไม่เห็นชอบให้ตั้งงบประมาณตามที่เสนอขออุดหนุน เป็นเงิน 43,737,547 บาท ทำให้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2553 เทศบาลนครภูเก็ตไม่มีเงินงบประมาณเพียงพอในการดำเนินการและบำรุงรักษาระบบกำจัดขยะของจังหวัดภูเก็ต จำเป็นต้องหาแนวทางการสรรหางบประมาณค่ากำจัดขยะให้เพียงพอ
“จากเดิมรัฐบาลอุดหนุน เป็นเงิน 43 ล้านบาทเศษต่อปี แต่ในปี 2553 เงินในส่วนนี้ขาดหายไปตามปริมาณขยะที่มีอยู่ 191,857 ตัน คิดเป็นส่วนที่ขาดหายไป 228 บาทต่อตัน เทศบาลนครภูเก็ตจึงขอปรับอัตราค่าขยะเพิ่มจากเดิม 300 บาท เป็น 528 บาท เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว” นางสาวสมใจ กล่าว
ขณะที่ นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ที่ผ่านมามีเรื่องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมเกี่ยวกับเรื่องของรถบรรทุกขยะที่ทำน้ำขยะรั่วไหล ขยะปลิว รวมทั้งส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้าน และผู้ที่สัญจรไปมาบนท้องถนน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยกำหนดระเบียบการใช้ยานพาหนะขนส่งขยะเข้าเมือง เช่น การใช้รถ เส้นทาง ลักษณะรถ การบำรุงรักษา การบีบปล่อยน้ำขยะ เหล่านี้เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องการให้มีการขนส่งอย่างปลอดภัย
จากข้อมูลพบว่า มีรถขยะวิ่งเข้ามายังโรงงานเตาเผาขยะวันละกว่า 200 เที่ยว โดยมีประเภทรถบรรทุกขยะแบบอัดท้าย รถบรรทุกขยะแบบเปิดข้าง รถบรรทุกธรรมดา และรถกระบะ ซึ่งมีทั้งของภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรถจำนวนหลายคันมีสภาพชำรุด การขนส่งไม่ป้องกันการปลิวของขยะ รถบรรทุกแบบอัดท้ายมีถังบรรจุน้ำชำรุด พนักงานขับรถด้วยความเร็วและปล่อยน้ำขยะลงบนถนน เป็นต้น