นครศรีธรรมราช - สภ.เมืองนครศรีธรรมราช จับกุมชายวัยรุ่นใช้เครื่องมือพยายามงัดตู้เอทีเอ็ม 2 ตู้ จากการสอบสวนทราบว่าถูกข่มขู่ ที่ติดหนี้ค่ายาเสพติดและติดพนันบอล หลังจากที่หาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจออกตระเวนงัดตู้เอทีเอ็มดังกล่าว
วันนี้ (25 ต.ค.) ร.ต.ท.สมพร ภูมิภัทร รอง สวป.ร้อยเวรหัวหน้าสายตรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่าได้รับการประสานและสัญญาณเตือนภัยตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทยรวม 2 ตู้ จุดติดตั้งบริเวณตรงข้ามวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง
หลังจากนั้นจึงนำกำลังเข้าทำการตรวจสอบ พบว่ามีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นกำลังใช้เครื่องมือพยายามงัดตู้เอทีเอ็ม จึงจับกุมไว้ได้ทราบชื่อต่อมาคือ นายเฟาซาน สินภาษา อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 ม.3 ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล พร้อมของกลางเป็นเครื่องมือช่างที่ใช้สำหรับการงัดแงะ พบเศษชิ้นส่วนตู้เอทีเอ็มที่ได้รับความเสียหาย
เมื่อทำการตรวจสอบพบว่าตู้เอทีเอ็มทั้ง 2 ตู้ เป็นของธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย ธนาคารได้ติดตั้งไว้ใกล้กันบริเวณทางเท้าฝั่งตรงข้ามกับวัด มีร่องรอยถูกงัดแงะจนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบริเวณฝาครอบที่ถูกงัดจนหักเปิดออก แต่ไม่สามารถงัดกล่องบรรจุเงินออกมาได้ ปลั๊กไฟฟ้าถูกปลดออกทั้งสองตู้ในมุมมืดข้างซอยดังกล่าว พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าสีดำ ทะเบียน คขร-838 นครศรีธรรมราช เบื้องต้นพบว่าเป็นของนายเฟาซานเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด
หลังจากคุมตัวนายเฟาซาน ผู้ต้องหาทำการสอบสวนในเบื้องต้น เพื่อทำการบันทึกจับกุม ยอมรับสารภาพว่าได้เดินทางมาจาก จ.สตูล มาอาศัยอยู่กับญาติทำงานรับจ้างติดตั้งเครื่องเสียงและอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ต่างๆ อยู่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช สาเหตุที่ต้องงัดตู้เอทีเอ็มดังกล่าวเนื่องจากความเครียดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะหนี้สินที่ติดค้างในการซื้อซอแรม เป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง โดยถูกผู้ค้าใน จ.สตูล โทรศัพท์ขู่หลายครั้งในทำนองว่าหากไม่นำเงินหนี้สินที่ติดค้างมาจ่ายจะทำร้ายครอบครัวที่อยู่ใน จ.สตูล รวมทั้งหนี้สินพนันบอลและอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง หลังจากที่หาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจออกตระเวนหาตู้เอทีเอ็มที่ติดตั้งใกล้กับถนนและปลอดคนในยามดึก จนมาพบว่าตู้เอทีเอ็มทั้งสองตู้เหมาะ จึงลงมืองัดโดยการเตรียมเครื่องมือมาพร้อมจนถูกเจ้าหน้าที่จับกุม
วันนี้ (25 ต.ค.) ร.ต.ท.สมพร ภูมิภัทร รอง สวป.ร้อยเวรหัวหน้าสายตรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่าได้รับการประสานและสัญญาณเตือนภัยตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทยรวม 2 ตู้ จุดติดตั้งบริเวณตรงข้ามวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง
หลังจากนั้นจึงนำกำลังเข้าทำการตรวจสอบ พบว่ามีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นกำลังใช้เครื่องมือพยายามงัดตู้เอทีเอ็ม จึงจับกุมไว้ได้ทราบชื่อต่อมาคือ นายเฟาซาน สินภาษา อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 ม.3 ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล พร้อมของกลางเป็นเครื่องมือช่างที่ใช้สำหรับการงัดแงะ พบเศษชิ้นส่วนตู้เอทีเอ็มที่ได้รับความเสียหาย
เมื่อทำการตรวจสอบพบว่าตู้เอทีเอ็มทั้ง 2 ตู้ เป็นของธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย ธนาคารได้ติดตั้งไว้ใกล้กันบริเวณทางเท้าฝั่งตรงข้ามกับวัด มีร่องรอยถูกงัดแงะจนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบริเวณฝาครอบที่ถูกงัดจนหักเปิดออก แต่ไม่สามารถงัดกล่องบรรจุเงินออกมาได้ ปลั๊กไฟฟ้าถูกปลดออกทั้งสองตู้ในมุมมืดข้างซอยดังกล่าว พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าสีดำ ทะเบียน คขร-838 นครศรีธรรมราช เบื้องต้นพบว่าเป็นของนายเฟาซานเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด
หลังจากคุมตัวนายเฟาซาน ผู้ต้องหาทำการสอบสวนในเบื้องต้น เพื่อทำการบันทึกจับกุม ยอมรับสารภาพว่าได้เดินทางมาจาก จ.สตูล มาอาศัยอยู่กับญาติทำงานรับจ้างติดตั้งเครื่องเสียงและอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ต่างๆ อยู่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช สาเหตุที่ต้องงัดตู้เอทีเอ็มดังกล่าวเนื่องจากความเครียดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะหนี้สินที่ติดค้างในการซื้อซอแรม เป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง โดยถูกผู้ค้าใน จ.สตูล โทรศัพท์ขู่หลายครั้งในทำนองว่าหากไม่นำเงินหนี้สินที่ติดค้างมาจ่ายจะทำร้ายครอบครัวที่อยู่ใน จ.สตูล รวมทั้งหนี้สินพนันบอลและอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง หลังจากที่หาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจออกตระเวนหาตู้เอทีเอ็มที่ติดตั้งใกล้กับถนนและปลอดคนในยามดึก จนมาพบว่าตู้เอทีเอ็มทั้งสองตู้เหมาะ จึงลงมืองัดโดยการเตรียมเครื่องมือมาพร้อมจนถูกเจ้าหน้าที่จับกุม