xs
xsm
sm
md
lg

ปิดล้อมหมู่บ้านรวบเอเยนต์ยาบ้า 1 ราย ยึดของกลาง 59 เม็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง จ.กาฬสินธุ์(ซ้ายเสื้อแขนยาวสีส้ม) พ.ต.อ.ชัยยุทธ นิลวงศ์ ผกก.สภ.คำม่วง พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษปราบปรามยาเสพติด อส.อำเภอคำม่วงและเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.คำม่วงจับกุมตัวนายจารุวิทย์ จันทะมาตร (เสื้อลายทหาร)อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 ม.3 ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมยึดของกลางยาบ้าจำนวน 59 เม็ด เงินสด กว่า 50,000 บาท หลังปิดล้อมกระท่อมกลางทุ่งนาบริเวณหลังวัดโพธิ์วิสัย โดยได้รับแจ้งว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวกำลังเสพยาบ้าและสถานที่ดังกล่าวเป็นแหล่งจำหน่ายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในพื้นที่
กาฬสินธุ์ - ชุดปฏิบัติการพิเศษปราบปรามยาเสพติดอำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.คำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ออกปฏิบัติการปิดล้อมหมู่บ้านรวบผู้ต้องหาค้ายาบ้า 1 ราย ยึดของกลาง 59 เม็ด เงินสดกว่า 5 หมื่นบาท และรวบวัยรุ่นเสพยาบ้าได้อีก 1 ราย

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (15 ต.ค.) นายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ชัยยุทธ นิลวงศ์ ผกก.สภ.คำม่วง นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษปราบปรามยาเสพติด อส.อำเภอคำม่วงและเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.คำม่วง กว่า 30 นาย เข้าตรวจค้นและจับกุมกลุ่มวัยรุ่นซึ่งกำลังเสพยาบ้าที่กระท่อมกลางทุ่งนาบริเวณหลังวัดโพธิ์วิสัย หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวกำลังเสพยาบ้าและสถานที่ดังกล่าวเป็นแหล่งจำหน่ายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในพื้นที่

โดยเจ้าหน้าที่พบว่า กลุ่มวัยรุ่นประมาณ 3-4 คน กำลังเสพยาบ้ากันภายในกระท่อมดังกล่าว ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุมทำให้กลุ่มวัยรุ่นตกใจ ต่างวิ่งหนีไปคนละทิศและทาง โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายจารุวิทย์ จันทะมาตร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 ม.3 ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมยึดของกลางยาบ้าจำนวน 59 เม็ด เงินสด 12,670 บาท

ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออาศัยความชำนาญในพื้นที่ประกอบกับมีต้นข้าวสูง จึงสามารถหลบหนีไปได้ และจากการตรวจค้นภายในกระท่อมพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าจำนวนมาก เงินสดอีกจำนวน 33,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก

จากการสอบสวน นายจารุวิทย์ ให้การว่า ได้นำยาบ้ามาจากเอเย่นต์รายหนึ่งเพื่อนำมาจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ เนื่องจากเห็นว่าเป็นทางหาเงินที่ได้มาง่าย ซึ่งทำมาหลายครั้งแล้ว กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเสียก่อน ทั้งนี้เงินจำนวน 12,670 บาทได้มาจากการจำหน่ายยาบ้า ส่วนเงินอีกจำนวน 33,000 บาทนั้น มีวัยรุ่นคนหนึ่งมาขอซื้อยาบ้าจำนวน 200 เม็ด

โดยนัดส่งยากันตอนเย็นวันที่ 15 ตุลาตม 2552 แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมกับนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม เวลา 13.30 น.วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ได้ให้นายจารุวิทย์โทรศัพท์ไปล่อให้วัยรุ่นที่สั่งซื้อยาบ้าจำนวน 200 เม็ดมารับยาบริเวณหน้าวัดวัดโพธิ์วิสัย บ้านโพน ต.โพน ซึ่งวัยรุ่นดังกล่าวก็หลงเชื่อและตกลงเดินทางมารับยาบ้าตรงจุดนัดพบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที ทราบชื่อคือ นายดล (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษา ปวส.วิทยาลัยแห่งหนึ่ง พร้อมตรวจค้นพบใบเสร็จเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็ม 3 ใบ รวมเป็นเงิน 33,000 บาท จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวมาตรวจปัสวะและสอบสวนที่โรงพัก ซึ่งพบว่าปัสสวะเป็นสีม่วง

จากการสอบสวน นายดล รับสารภาพว่า ได้ถูกว่าจ้างจากนายโบ้ ซึ่งอยู่ที่ จ.ขอนแก่น จำนวน 1,000 บาท เพื่อนำเงิน 33,000 บาท มาซื่อยาบ้าจาก นายจารุวิทย์ โดยได้ให้เงินกับนายจารุวิทย์ก่อนและค่อยมารับยาทีหลัง แต่ก็มาถูกตำรวจจับเสียก่อน ทั้งนี้ ทำไปเพราะฐานะทางบ้านยากจน จึงต้องการเงินมาลงทะเบียน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยจะส่งไปฟื้นฟูยาเสพติดกับสำนักงานสาธารณสุขต่อไป

นายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีกลุ่มวัยรุ่นลักลอบจำหน่ายยาบ้าในพื้นที่ จึงสนธิกำลังกับตำรวจนำโดย พ.ต.อ.ชัยยุทธ นิลวงศ์ ผกก.สภ.คำม่วง เข้าปิดล้อมและตรวจค้น ซึ่งก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว ทั้งนี้ผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอยู่ ทราบว่าหนึ่งในนั้นเป็นเอเย่นต์รายใหญ่ในพื้นที่ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแล้วว่าเป็นใคร และได้ออกหมายจับ พร้อมกับส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาตัวแล้ว คาดว่าอีกไม่นานน่าจะสามรถจับกุมตัวได้

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ทางอำเภอได้มีแนวนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด โดยร่วมมือกับหน่วยงานราชการทุกภาคส่วนโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อร่วมกันทำให้ทุกหมู่บ้านเป็นสีขาวปลอดยาเสพติด ซึ่งแนวทางหลักที่สำคัญหากจับกุมผู้ต้องหาได้ก็จะดึงมาเป็นแนวร่วมการแจ้งข่าวและเบาะแส จากนั้นจะมีการส่งเสริมและจัดหาอาชีพให้ทำ เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว
กำลังโหลดความคิดเห็น