หนองคาย-พระเมืองหนองคาย เขม่นกัน วันเดียววางมวยกัน 2 รอบ พอถึงช่วงทำวัดเย็น พระลากมีดดาบถือเข้าโบสถ์ ฟันหัวพระคู่อริ แล้วฟันซ้ำที่คอ พระถูกฟันต้องไหว้ขอชีวิต ขณะที่พระอีกนับสิบแตกฮือหนีตายอลหม่านกลัวโดนลูกหลง หลังก่อเหตุพระเลือดร้อนหลบหนีทันที ตำรวจเร่งล่าตัว
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 ต.ค.52 ร.ต.อ.พีระพัฒน์ หาระคุณ ร้อยเวรสอบสวนสภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเหตุพระถูกทำร้ายร่างกาย ภายในอุโบสถ วัดโพธิ์ศรี เขตเทศบาลเมืองหนองคาย โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถานได้นำตัวพระที่ถูกทำร้ายส่งโรงพยาบาลหนองคาย ทราบชื่อภายหลังคือ พระสมัคร ชูนาค อายุ 30 ปี ถูกของมีคมฟันเข้าที่บริเวณศีรษะด้านซ้าย 1 แผล และลำคอ 1 แผล อาการสาหัส จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยผู้ที่ลงมือทำร้ายพระสมัคร คือ พระณรงค์ แข็งข้อ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัดเดียวกัน
ต่อมาเวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระกฤษณา จันทสีโล และ พระวิสุทธิ์ วิสุทโธ ซึ่งทั้งสองรูปเป็นพระที่เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำ โดยพระกฤษณา ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ พระสมัคร และพระณรงค์ ได้ออกไปช่วยกันเก็บกู้กระทงยักษ์ที่เสร็จจากการประกวดในช่วงเทศกาลออกพรรษา บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะจนถึงขั้นชกต่อยกันที่ริมฝั่งโขง ชาวบ้านต้องเข้าห้ามปราม พระณรงค์ปากแตก
ส่วนพระสมัครไม่มีบาดแผล ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. ทั้งคู่พักผ่อนอยู่ในบริเวณวัดก็เกิดเขม่นกันและชกต่อยกันอีก พระรูปอื่น ๆ ได้มาช่วยแยกออกจากกัน จนกระทั่งถึงเวลาทำวัดเย็น ประมาณ 18.20 น. พระสมัคร ได้นั่งทำวัดเย็นอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถ ข้างกันพระกฤษณา ร่วมกับพระสงฆ์อีกประมาณ 10 รูป ซึ่งพระณรงค์ไม่ได้ร่วมทำวัดเย็นด้วย ขณะที่พระสงฆ์ทุกรูปกำลังสวดมนต์ทำวัดเย็นยังไม่แล้วเสร็จ
พระณรงค์ก็เดินถือมีดดาบ ยาวประมาณ 60 ซ.ม. เข้ามาภายในพระอุโบสถ เดินตรงไปหาพระสมัคร แล้วไม่พูดไม่จา ใช้มีดฟันที่ศีรษะทันที 1 ครั้ง แล้วฟันซ้ำที่ลำคออีก 1 ครั้ง พระสมัครยังไม่ทันตั้งตัว ได้หันไปมองและพยายามไหว้ร้องขอชีวิต ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของพระรูปอื่น ต่างพากันแตกฮือออกจากพระอุโบสถ กลัวจะถูกลูกหลง เมื่อลงมือแล้วพระณรงค์ได้ถือมีดเดินออกจากพระอุโบสถตามหาพระคู่อริอีกรูปหนึ่ง แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย พระณรงค์ก็หลบหนีไป พอพระณรงค์หนีไปแล้วพระรูปที่เหลือจึงพากันมาดูพระสมัคร ซึ่งยังมีสติอยู่ ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด จึงได้แจ้งหน่วยกู้ภัยมารับตัวส่งโรงพยาบาลหนองคาย
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้จัดชุดไล่ล่าพระณรงค์ เลือดร้อน ที่คาดว่าจะยังไม่หลบหนีไปไกลมาดำเนินคดีโดยด่วนแล้ว
สำหรับพระณรงค์ ที่ก่อเหตุ เพิ่งย้ายมาจากวัดดอนสวรรค์ มาจำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรี แห่งนี้ได้เพียง 1 เดือน ส่วนพระสมัครที่ถูกทำร้าย จำพรรษามา 2 พรรษาแล้ว
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 ต.ค.52 ร.ต.อ.พีระพัฒน์ หาระคุณ ร้อยเวรสอบสวนสภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเหตุพระถูกทำร้ายร่างกาย ภายในอุโบสถ วัดโพธิ์ศรี เขตเทศบาลเมืองหนองคาย โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถานได้นำตัวพระที่ถูกทำร้ายส่งโรงพยาบาลหนองคาย ทราบชื่อภายหลังคือ พระสมัคร ชูนาค อายุ 30 ปี ถูกของมีคมฟันเข้าที่บริเวณศีรษะด้านซ้าย 1 แผล และลำคอ 1 แผล อาการสาหัส จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยผู้ที่ลงมือทำร้ายพระสมัคร คือ พระณรงค์ แข็งข้อ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัดเดียวกัน
ต่อมาเวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระกฤษณา จันทสีโล และ พระวิสุทธิ์ วิสุทโธ ซึ่งทั้งสองรูปเป็นพระที่เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำ โดยพระกฤษณา ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ พระสมัคร และพระณรงค์ ได้ออกไปช่วยกันเก็บกู้กระทงยักษ์ที่เสร็จจากการประกวดในช่วงเทศกาลออกพรรษา บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะจนถึงขั้นชกต่อยกันที่ริมฝั่งโขง ชาวบ้านต้องเข้าห้ามปราม พระณรงค์ปากแตก
ส่วนพระสมัครไม่มีบาดแผล ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. ทั้งคู่พักผ่อนอยู่ในบริเวณวัดก็เกิดเขม่นกันและชกต่อยกันอีก พระรูปอื่น ๆ ได้มาช่วยแยกออกจากกัน จนกระทั่งถึงเวลาทำวัดเย็น ประมาณ 18.20 น. พระสมัคร ได้นั่งทำวัดเย็นอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถ ข้างกันพระกฤษณา ร่วมกับพระสงฆ์อีกประมาณ 10 รูป ซึ่งพระณรงค์ไม่ได้ร่วมทำวัดเย็นด้วย ขณะที่พระสงฆ์ทุกรูปกำลังสวดมนต์ทำวัดเย็นยังไม่แล้วเสร็จ
พระณรงค์ก็เดินถือมีดดาบ ยาวประมาณ 60 ซ.ม. เข้ามาภายในพระอุโบสถ เดินตรงไปหาพระสมัคร แล้วไม่พูดไม่จา ใช้มีดฟันที่ศีรษะทันที 1 ครั้ง แล้วฟันซ้ำที่ลำคออีก 1 ครั้ง พระสมัครยังไม่ทันตั้งตัว ได้หันไปมองและพยายามไหว้ร้องขอชีวิต ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของพระรูปอื่น ต่างพากันแตกฮือออกจากพระอุโบสถ กลัวจะถูกลูกหลง เมื่อลงมือแล้วพระณรงค์ได้ถือมีดเดินออกจากพระอุโบสถตามหาพระคู่อริอีกรูปหนึ่ง แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย พระณรงค์ก็หลบหนีไป พอพระณรงค์หนีไปแล้วพระรูปที่เหลือจึงพากันมาดูพระสมัคร ซึ่งยังมีสติอยู่ ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด จึงได้แจ้งหน่วยกู้ภัยมารับตัวส่งโรงพยาบาลหนองคาย
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้จัดชุดไล่ล่าพระณรงค์ เลือดร้อน ที่คาดว่าจะยังไม่หลบหนีไปไกลมาดำเนินคดีโดยด่วนแล้ว
สำหรับพระณรงค์ ที่ก่อเหตุ เพิ่งย้ายมาจากวัดดอนสวรรค์ มาจำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรี แห่งนี้ได้เพียง 1 เดือน ส่วนพระสมัครที่ถูกทำร้าย จำพรรษามา 2 พรรษาแล้ว