อุดรธานี - 4 โจรบุกอุ้มแม่ค้าหมูเมืองอุดรฯ พร้อมลูก-ผัวหายตัวลึกลับ อ้างเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบจากตำรวจภูธรภาค 4 บุกกรรโชกทรัพย์เหยื่อพ่อค้าเนื้อหมูในหมู่บ้าน 2 ราย ใช้ปืนจี้พาขึ้นรถตู้ไปตรวจค้นบ้านยึดทรัพย์สิน-เงินสด บังคับกดเอทีเอ็ม จากนั้นให้พาไปหาแม่ค้าเนื้อหมูก่อนจะปล่อยตัวเหยื่อ 2 รายแรกไป แล้วอุ้มครอบครัวแม่ค้าเนื้อหมูไปแทน ล่าสุดยังไม่ทราบชะตากรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ ทองเนียม รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากนางเยาว์ เหง้าแก้ว อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่ 3 บ้านนา ต.ศรีสำราญ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานีว่า นายกิตติศักดิ์ ถาวร อายุ 35 ปี ลูกชายและเป็นหลานชายประธานสหกรณ์การเกษตรน้ำโสม หายตัวไปลึกลับจากบริเวณโรงสีข้าวในหมู่บ้านโนนผาแดง หมู่ 9 ต.นางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.เดือนเดียวกันนี้
ภายหลังสอบปากคำทราบรายละเอียดว่า เมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา มีชายฉกรรจ์ 4 คนขับรถตู้สีบรอนซ์ อ้างตัวว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบจากตำรวจภูธรภาค 4 เข้าไปตรวจค้นบ้านนายเอกภพ นันทะกุล อายุ 39 ปี เลขที่ 45 หมู่ 3 ต.ศรีสำราญ อ.น้ำโสม แต่ไม่พบตัวนายเอกภพ พบเพียงนายบุญฟอง นันทะกุล น้องชาย จึงนำตัวนายบุญฟองขึ้นรถตู้ไปตามหานายเอกภพ พี่ชายที่ไปกินข้าวบ้านเพื่อนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน
ในระหว่างทางก็พบตัวนายเอกภพที่ริมถนนข้างทางขณะเดินทางกลับบ้าน จึงใช้ปืนจี้นายเอกภพให้ขึ้นรถตู้นำไปที่บ้าน ส่วนนายบุญฟองได้ปล่อยตัวลงข้างทางให้เดินกลับบ้านเอง จากนั้นชายทั้ง 4 คนได้นำนายเอกภพเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านพร้อมยึดเงินสด 10,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น แหวนทองคำหนัก 1 สลึง 1 วง แล้วพาตัวนายเอกภพไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย สาขาสังคม จ.หนองคาย โดยให้นายเอกภพบอกรหัสเอทีเอ็ม และให้ 1 ใน 4 คนร้ายลงไปกดเงินที่ตู้แต่มีเงินในบัญชีเพียง 320 บาท ชายทั้ง 4 ที่อ้างตัวเป็นตำรวจจึงเปลี่ยนใจไม่กดเงินออกมา
ต่อมาชายทั้ง 4 คนได้ให้นายเอกภพพาไปหานายกิตติศักดิ์ ที่โรงสีข้าวในหมู่บ้านโนนผาแดง เมื่อไปถึงพบนายกิตติศักดิ์นั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนบ้าน 3-4 คน ชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนบอกว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบจากตำรวจภูธรภาค 4 แล้วควบคุมตัวนายกิตติศักดิ์ขึ้นรถตู้ พร้อมกับใส่กุญแจมือและเอาถุงพลาสติกคลุมหัวนายกิติศักดิ์ไว้ โดยให้นั่งคู่กับนายเอกภพ
จากนั้นให้นำไปหานางไล ซึ่งเป็นแม่ค้าขายหมูในตลาดที่บ้านพักบริเวณบ้านผาดำ หมู่ 11 ต.นางัว อ.น้ำโสม จากนั้นเข้าตรวจค้นบ้านนางไล ครู่หนึ่ง ก็นำตัวนางไล พร้อมสามี และลูกอายุเพียง 1 เดือน ขึ้นรถกระบะของนางไลที่จอดอยู่ในบ้าน โดย 1 ใน 4 คนร้าย เป็นคนขับรถกระบะ แล้วพามายังโรงแรมลัดดาวัลย์ ข้างสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตอุดรธานี ถ.อุดร-หนองบัวลำภู เขตเทศบาลนครอุดรฯ ส่วนนายเอกภพ และนายกิตติศักดิ์ คนร้ายให้อยู่บนรถตู้กับคนร้ายอีก 3 คน
จากนั้นคนร้ายนำเหยื่อทั้งหมดไปไว้ที่ห้องพักหมายเลข A 9 แล้วทั้ง 4 คน ผลัดเปลี่ยนกันมาสอบถามนางไล นายเอกภพ และนายกิตติศักดิ์ ก่อนนำตัวนายเอกภพและนายกิตติศักดิ์ มาปล่อยที่ตลาดรังษิณา แยกถนนเลี่ยงเมืองอุดรฯ-หนองคาย ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรฯ พร้อมกับสั่งห้ามบอกใครและไม่ให้ไปแจ้งความ จากนั้นทั้ง 2 คนจึงโทรศัพท์บอกให้ญาติมารับตัวกลับบ้านไป ญาติจึงนำตัวแจ้งความดังกล่าว
พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องทั้งหมดแล้วจึงให้ผู้เสียหายทั้งหมดดูรูปภาพของตำรวจภูธรภาค 4 ปรากฏว่าทั้ง 4 คนที่อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบไม่มีรูปอยู่ในภาพ จึงให้ทุกคนแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และนำกำลังออกสืบสวนติดตามตัวคนร้ายทั้ง 4 คนนี้มาดำเนินคดี ในขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการประสานไปยังธนาคารกสิกรไทย สาขาสังคม เพื่อขอภาพวงจรปิด เนื่องจากทราบว่า 1 ใน 4 คนร้าย เป็นคนไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ชายทั้ง 4 คนบุกจับเหยื่อทั้งหมด เนื่องจากเมื่อหลายปีก่อนนายเอกภพเคยต้องโทษคดีเสพยาเสพติด และบำบัดจนหายเป็นปกติมาประกอบอาชีพสุจริต กลุ่มชายดังกล่าวอาศัยจุดอ่อนดังกล่าวเพื่อมาจับขู่กรรโชกทรัพย์ และบังคับให้นำไปหาบุคคลอื่นๆ อีก 3 คน ซึ่งมีฐานะดีกว่า โดยทั้งหมดเป็นพ่อ ค้าและแม่ค้าหมูชำแหละ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดยังไม่มีการปล่อยตัวนางไล สามี และลูกน้อยออกมาแต่อย่างใด สร้างความวิตกกังวลให้กับญาติเป็นอย่างมาก หวั่นว่าจะได้รับอันตราย และไม่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามกลุ่มคนร้ายจริงจังแค่ไหน เพราะจนถึงบัดนี้ยังไม่มีความคืบหน้าคดีแต่อย่างใด