ชุมพร - ตำรวจ สภ.ท่าแซะ จังหวัดชุมพร โชว์ฝีมือรวบ 4 ผู้ต้องหาแก๊ง 18 มงกุฎ ตระเวนต้มตุ๋นหลอกขายรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล และตกทองชาวบ้าน ได้ยกก๊วน หลังตระเวนก่อคดีมีผู้เสียหายนับ 10 ราย เข้าชี้ตัวยืนยันสูญเงินนับล้านบาท
พ.ต.อ.ชำนาญ แทนม้วน ผกก.สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับรายงานว่า พบแก๊ง 18 มงกุฎ หลอกขายรางวัลลอตเตอรี่ ตกทอง ต้มตุ๋น ที่เคยก่อคดีหลอกลวงชาวบ้านในพื้นที่รับผิดชอบมาแล้วหลายราย ต้องสูญเสียทรัพย์สินไปจำนวนมาก จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อารมณ์ น้ำใจสุข สว.สส.สภ.ท่าแซะ นำกำลังออกตรวจสกัด
กระทั่งพบรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สองตอน สีดำ ทะเบียน กค–2758 ชุมพร ขณะขับอยู่บริเวณถนนหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาท่าแซะ ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยที่เคยก่อคดีมาแล้วหลายครั้ง จึงนำกำลังเข้าสกัด และเรียกขอตรวจสอบ ทราบชื่อคนขับ นางลัดดา ช่วยศรี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ 2 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร และ น.ส.ทิฆัฆพร โพธิ์รักษ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/351 แขวงอนุสาวรี เขตบางเขน กทม.
น.ส.จินตนา สมใจ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210 หมู่ 2 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร,น.ส.สุนันทา เศรษฐนาวา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210 หมู่ 2 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร ทั้งหมดนั่งมาเบาะข้างคนขับ และเบาะนั่งด้านหลัง
ตรวจค้นในกระเป๋าสะพายพบสร้อยคอทองคำปลอมหนัก 1 บาท 2 เส้น, สร้อยข้อมือทองคำปลอมหนัก 1 บาท 2 เส้น,สลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลขต่างๆ ออกเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2552, วันที่ 1 กันยายน 2552 และวันที่ 16 กันยายน 2552 จำนวน 13 คู่ รวม 26 ฉบับ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังผู้เสียหายในพื้นที่รับผิดชอบที่เคยแจ้งความว่า ถูกแก๊งดังกล่าวหลอกลวงต้มตุ๋นให้เสียทรัพย์สินมาแล้ว ให้มาดูตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยเบื้องต้นมีผู้เสียหายทั้งหมด 9 ราย ประกอบด้วย นางประจิน แพ่งยัง อายุ 62 ปี ถูกหลอกเอาทรัพย์สินไปเป็นเงินสด 3 หมื่นบาท, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, นางบุญลือ เวชวรรณ อายุ 62 ปี ถูกหลอกเอาเงินสดไป 2 หมื่นบาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
นางบุญส่ง ช่วยชูหนู อายุ 70 ปี ถูกหลอกเอาเงินสดไป 3 หมื่นบาท, นางบุญให้ วรรณเผือก อายุ 76 ปี ถูกหลอกเอาสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท,นางเบี่ยง กฤษฏากร อายุ 80 ปี ถูกหลอกเอาสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท, นางหญิต สุวิไล อายุ 85 ปี ถูกหลอกเอาสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท เงินสด 9 ,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
นางสนิท พุทธรักษ์ อายุ 80 ปี ถูกหลอกเอาเงินสด 2,700 บาท, นางเฉลียว รัตนพร อายุ 67 ปี ถูกหลอกเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท แหวนทองคำหนัก 1 บาท และนางสมร โยธารักษ์ อายุ 61 ปี ถูกหลอกเอาเงินสด 3 หมื่นบาท สร้อยคอทองคำ 3 บาท และแหวนทองคำ 1 บาท
ทั้งนี้ ผู้เสียหายทั้งหมดชี้ตัวยืนยันว่า ในช่วงเวลา 1-2 เดือนที่ผ่านมา ได้ถูกผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มีพฤติกรรมก่อเหตุที่มีลักษณะเหมือนกัน โดยขับรถยนต์คันดังกล่าวตระเวนไปที่บ้านของผู้เสียหาย เมื่อเห็นว่า เป็นคนแก่อยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว ก็จะเข้าไปตีสนิทพูดคุยว่าเป็นแม่ค้ารับซื้อหมากพลู และพืชผลทางการเกษตร แล้วใช้วิธีพูดจาหว่านล้อมต่างๆ นานาจนผู้เสียหายตายใจ จากนั้นก็จะออกอุบายหลอกว่าลูกจ้างตนซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองซึ้อสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกรางวัลที่ 2 หนึ่งคู่ เป็นเงิน 2 แสนบาท แต่ไม่สามารถเงินขึ้นรางวัลได้เพราะเป็นแรงงานต่างด้าว ส่วนพวกตนไม่มีเงินจึงขอให้ผู้เสียหายรับซื้อไว้
โดยหลอกให้เอาทรัพย์สินเท่าที่มีอยู่ทั้งหมด เช่น เงินสด หรือทองคำมาจ่ายให้แรงงานต่างด้าวดังกล่าว โดยมอบสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อ้างว่า ถูกรางวัลที่ 2 ให้กับผู้เสียหายไว้ เมื่อไปขึ้นเงินแล้วส่วนที่เหลือค่อยมาแบ่งปันกำไรกัน โดยแก๊งต้มตุ๋นได้นำใบผลตรวจสลากที่ทำปลอมขึ้นมาให้ตรงกับเลขรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล มาให้ผู้เสียหายตรวจดู จนหลงเชื่อว่า ถูกรางวัลจริง จึงได้นำทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่มอบให้ไป
นอกจากนั้น แก๊งต้มตุ๋นดังกล่าวยังมีพฤติกรรมก่อเหตุกับผู้เสียหายอีกหลายราย ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ เมื่อเห็นว่าอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว และใส่สร้อยคอทองคำ แหวน หรือสร้อยข้อมือทองคำ ก็จะใช้วิธีตกทอง โดยเอาทองปลอมที่มีน้ำหนักมากกว่า ไปแลกกับทองจริงที่มีน้ำหนักน้อยกว่า และบางรายเข้าไปข่มขู่อุ้มขึ้นรถยนต์แล้วปลอดทรัพย์สินทั้งหมด แล้วนำไปปล่อยทิ้งไปปล่อยทิ้งไว้กลางทางก่อนหลบหนีไป
ด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร หลังได้รับรายงานจึงเดินทางไปสอบสวนแก๊งผู้ต้องหาด้วยตนเอง กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งถือว่า เป็นแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงที่ตำรวจกำลังต้องการตัวอย่างมาก และได้จัดชุดเฉพาะกิจออกสืบสวนหาข่าวติดตามจับกุมมานานแล้ว เนื่องจากช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวในหลายท้องที่ของ จ.ชุมพร
จนชาวบ้านทั่วไปต่างหวาดผวาวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ว่ามีมนต์สะกดจิตบ้าง หรือมียาสั่งป้ายจมูกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำตามแล้วปลดทรัพย์สินไปอย่างง่ายดาย โดยเหยื่อทั้งหมดจะเป็นผู้สูงอายุทั้งสิ้น และลูกหลานปล่อยอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว คาดว่า ยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน
ต้องสูญเสียทรัพย์สินไปนับล้านบาท ขณะนี้ได้ประสานไปยังพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง ที่เคยเกิดคดีดังกล่าวให้นำผู้เสียหาย หรือใครที่สงสัยว่าเคยถูกแก๊ง ต้มตุ๋น ขู่กรรโชกทรัพย์ หรือใช้วิธีดังกล่าว ให้มาดูตัวได้ที่ สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อจะได้อายัดตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป