ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.เร่งสอบสวนหนุ่มเจ็ตสกี ก่อเหตุข่มขู่เรียกค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยว หลังมีภาพเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตออกไปทั่วโลก ผู้ว่าระบุปัญหาข่มขู่นักท่องเที่ยวเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผู้กำกับการตำรวจภูธรกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.581/2552 ลงวันที่ 9 ก.ย 2552 จำนวน 1 คน โดยกล่าวหาว่า กรรโชกทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบเหตุตามที่มีแผ่นซีดี บันทึกภาพและเสียงทหารเรืออังกฤษเช่าเรือเจ็ตสกีไปขับแล้วเกิดอุบัติเหตุได้รับความเสียหาย
จากนั้นมีการเจรจาเรียกร้องค่าเสียหายขึ้นระหว่างทหารเรืออังกฤษและผู้ให้เช่าเรือเจ็ตสกี แต่ทหารเรืออังกฤษไม่ยอมจ่ายตามที่เรียกร้องจึงได้มีการข่มขู่โดยใช้อาวุธปืนยาวออกมาถือ ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทำให้ทราบว่า บุคคลที่ก่อเหตุดังกล่าวเป็นใคร จึงได้มีการจับกุมดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนในส่วนของผู้ต้องหาที่จับกุมมาได้ โดยมีการตรวจยึดสิ่งเทียมอาวุธปืนด้วยจำนวน 1 กระบอก
นายวิชัยกล่าวว่า หลังจากที่มีภาพการข่มขู่เรียกรับค่าเสียหายของผู้ประกอบการเจ๊ทสกีเผยแพร่ออกไปทางอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ตนก็ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งภาพที่สื่อออกไปนั้นสร้างความไม่สบายใจ และสร้างความเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียหายให้กับจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก
เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปล่อยปละละเลยมีการตรวจสอบทันที่ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งในการปฏิบัตินั้นจะต้องให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งสังคมและการท่องเที่ยวที่ถูกทำลาย และจะต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถ้าหากเป็นการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องปล่อยไป
ที่ผ่านมามีการร้องเรียนเรื่องของการเอารัดเอาเปรียบของเจ็ตสกีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นบ่อนทำลายการท่องเที่ยวอย่างร้ายแร้ง แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ยังมีการข่มขู่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวโดยใช้ตัวเจ็ตสกีมาเป็นตัวทำมาหากิน โดยการให้เช่าเมื่อเกิดความเสียหายก็เรียกร้องค่าเสียหายเกิดความเป็นจริง และภาพที่สื่อออกไปนั้นปรากฏออกไปทั่วโลกสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก แต่การดำเนินการอย่างเด็ดขาดและทันทีก็จะส่งผลดีต่อจังหวัดภูเก็ต ซึ่งคนที่ทราบเรื่องก็จะเห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ปล่อยปละละเลยมีการป้องปรามและปราบปรามอย่างเฉียบขาด
นายวิชัยกล่าวต่อไปว่า ตนและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้รับมอบนโยบายมาจากร้องนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้แก้ไขปัญหาเจ็ตสกีเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวให้เรียบร้อย ซึ่งต่อไปนี้ทางจังหวัดจะเอาจริงในการปราบปรามการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวซึ่งการดำเนินการนั้น จะต้องดำเนินการกับทุกกรณีที่เกิดขึ้นรวมถึงกรณี 2-3 รายก่อนหน้านี้ที่มีการร้องเรียนไปยังสถานทูตต่างๆ ก็จะต้องสืบสวนหาตัวคนผิดมาลงทาให้ได้
ขณะที่พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะทู้ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนเรื่องของการข่มขู่นักท่องเที่ยว กรณีที่เช่าเรือเจ็ตสกีออกไปใช้แล้วเกิดอุบัติเหตุจำนวนหลายครั้ง แต่การร้องเรียนนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะทราบก็ต่อเมื่อนักท่องเที่ยวตกลงเสียค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าของเจ็ตสกีไปแล้ว ซึ่งรายนี้ก็เช่นกันมีการร้องเรียนเข้ามาแล้วหลายครั้งโดยมีพฤติกรรมเจรจาตกลงเรียกร้องค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยว