กองปราบฯ ซุ่มรวบแก๊งทวงหนี้โหด โดยใช้เหยื่อแกล้งขอส่งคืนเงิน 2,000 บาทล่อออกมา หลังผู้เสียหายแจ้งความถูกกลุ่มทวงหนี้เงินกู้นอกระบบตามข่มขู่ “หากไม่ยอมจ่ายเงินคืนให้เตรียมหาโลงศพไว้รอได้เลย” เนื่องจากไปค้ำประกันกู้เงิน 3 หมื่น ให้เพื่อนบ้าน แต่เพื่อนบ้านเบี้ยวไม่จ่ายผ่อนคืน ทำให้ดอกเบ่งบานเป็นกว่าแสนบาท
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เชี่ยววิทย์ ศรีวิเชียร สว.กก.1 บก.ป. และ ร.ต.ต.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ รอง สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายปรีชา พิมพรัตน์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 8 ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธ์ พร้อมของกลางเงินสด 2,000 บาท ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 616/19 ซอยจองมาลี ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา นางแก้วอุดร สินทรัพย์ อายุ 52 ปี อาชีพขายเสื้อผ้าที่สวนจตุจักร ถูกแก๊งทวงหนี้เงินกู้นอกระบบตามมาข่มขู่ให้จ่ายเงินที่นางแก้วอุดรได้ไปค้ำประกันให้เพื่อนบ้านที่รู้จักกู้เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท จากนายทุนเงินกู้ย่านบางพลัด แต่ภายหลังเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นลูกหนี้ผ่อนชำระคืนเงินกู้ให้เจ้าหนี้ได้เพียง 2 เดือนก็หลบหนีไป นางแก้วอุดรจึงถูกเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยรวมเป็นยอดทั้งสิ้น 153,000 บาท และติดตามทวงเงินดังกล่าว
นางแก้วอุดรให้การว่า ในวันเกิดเหตุนายปรีชา ลูกน้องของเจ้าหนี้เงินกู้ได้มาหาตนและบุกเข้ามาในบ้าน พร้อมกับบอกให้ตนรีบคืนเงินที่กู้ไปโดยพูดข่มขู่ว่าหากไม่ยอมจ่ายเงินพรุ่งนี้ก็จะมีคนมาที่บ้านอีกหลายคนและไม่รับรองความปลอดภัย จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้พูดสายกับเจ้าหนี้เงินกู้ ซึ่งข่มขู่อีกว่า “หากไม่ยอมจ่ายเงินคืนก็ให้เตรียมหาโลงศพไว้รอได้เลย” ทำให้ตนกลัวว่าจะถูกทำอันตรายถึงชีวิตจึงได้เข้าแจ้งความตำรวจกองปราบปราม
ต่อมาเจ้าหน้าที่วางแผนจับกุมโดยนำเงินของกลางจำนวน 2,000 บาท มามอบให้กับนางแก้วอุดร เพื่อล่อให้นายปรีชามารับเงิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังซุ่มโป่งบริเวณรอบบ้านผู้เสียหาย ต่อมานายปรีชาได้เดินทางมาถึงพร้อมทั้งพูดจาข่มข่มขู่นางแก้วอุดรอยู่ตลอดเวลา กระทั่งชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.ที่ซุ่มรออยู่แสดงตัวเข้าจับกุมนายปรีชาเอาไว้ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.ป.
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ บุกรุกในเวลากลางคืน และให้กู้ยืมเงินโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดต่อนายปรีชา ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ รับไว้ดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ดี ทางพนักงานสอบสวน บก.ป.พบข้อมูลว่านายทุนเงินกู้รายนี้มีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท และขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับนายทุนเงินกู้รายนี้แล้ว
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เชี่ยววิทย์ ศรีวิเชียร สว.กก.1 บก.ป. และ ร.ต.ต.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ รอง สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายปรีชา พิมพรัตน์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 8 ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธ์ พร้อมของกลางเงินสด 2,000 บาท ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 616/19 ซอยจองมาลี ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา นางแก้วอุดร สินทรัพย์ อายุ 52 ปี อาชีพขายเสื้อผ้าที่สวนจตุจักร ถูกแก๊งทวงหนี้เงินกู้นอกระบบตามมาข่มขู่ให้จ่ายเงินที่นางแก้วอุดรได้ไปค้ำประกันให้เพื่อนบ้านที่รู้จักกู้เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท จากนายทุนเงินกู้ย่านบางพลัด แต่ภายหลังเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นลูกหนี้ผ่อนชำระคืนเงินกู้ให้เจ้าหนี้ได้เพียง 2 เดือนก็หลบหนีไป นางแก้วอุดรจึงถูกเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยรวมเป็นยอดทั้งสิ้น 153,000 บาท และติดตามทวงเงินดังกล่าว
นางแก้วอุดรให้การว่า ในวันเกิดเหตุนายปรีชา ลูกน้องของเจ้าหนี้เงินกู้ได้มาหาตนและบุกเข้ามาในบ้าน พร้อมกับบอกให้ตนรีบคืนเงินที่กู้ไปโดยพูดข่มขู่ว่าหากไม่ยอมจ่ายเงินพรุ่งนี้ก็จะมีคนมาที่บ้านอีกหลายคนและไม่รับรองความปลอดภัย จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้พูดสายกับเจ้าหนี้เงินกู้ ซึ่งข่มขู่อีกว่า “หากไม่ยอมจ่ายเงินคืนก็ให้เตรียมหาโลงศพไว้รอได้เลย” ทำให้ตนกลัวว่าจะถูกทำอันตรายถึงชีวิตจึงได้เข้าแจ้งความตำรวจกองปราบปราม
ต่อมาเจ้าหน้าที่วางแผนจับกุมโดยนำเงินของกลางจำนวน 2,000 บาท มามอบให้กับนางแก้วอุดร เพื่อล่อให้นายปรีชามารับเงิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังซุ่มโป่งบริเวณรอบบ้านผู้เสียหาย ต่อมานายปรีชาได้เดินทางมาถึงพร้อมทั้งพูดจาข่มข่มขู่นางแก้วอุดรอยู่ตลอดเวลา กระทั่งชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.ที่ซุ่มรออยู่แสดงตัวเข้าจับกุมนายปรีชาเอาไว้ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.ป.
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ บุกรุกในเวลากลางคืน และให้กู้ยืมเงินโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดต่อนายปรีชา ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ รับไว้ดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ดี ทางพนักงานสอบสวน บก.ป.พบข้อมูลว่านายทุนเงินกู้รายนี้มีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท และขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับนายทุนเงินกู้รายนี้แล้ว