ยะลา - ผู้จัดการใหญ่ธนาคารอิสลามลงพื้นที่ภาคใต้ ติดตามความคืบหน้าโครงการเงินกู้จุลภาค สนับสนุนคนทุนน้อยที่ต้องการประกอบอาชีพธุรกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ คาดจะสามารถช่วยเหลือคนจนทั้งพุทธ-มุสลิม ปลอดจากหนี้นอกระบบได้
วันนี้ (15 ต.ค.) นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยพร้อมคณะ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติและติดตามโครงการเงินกู้จุลภาค ซึ่งทางธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้เตรียมเงินสนับสนุนเป็นเงินกู้ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อให้คนจนที่ประกอบอาชีพในครัวเรือน ที่ต้องการเงินลงทุนตั้งแต่ 2,000 บาท ขึ้นไปไปจนถึงนักธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่ต้องการเงินกู้จำนวนมาก สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากธนาคารอิสลามได้ ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น
นายธีรศักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มลูกค้าของธนาคารมีความเข้าใจธนาคารมากขึ้น ว่า ธนาคารไม่ได้ให้บริการเฉพาะลูกค้าที่เป็นมุสลิมเพียงอย่างเดียว ทำให้เห็นภาพรวมของธนาคารที่มีลูกค้าทั้งพุทธและมุสลิมมาใช้บริการมากขึ้น ทั้งในภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ และใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ส่วนทางด้านระบบของการบริหารนั้น ทางธนาคารได้มีการพัฒนาในระบบของการบริหารงานการให้บริการที่ให้ความสะดวกรวดเร็วและหลากหลายมากขึ้น เพื่อเป็นที่พึ่งพาของนักธุรกิจได้ โดยสินเชื่อของธนาคารมีครบทุกประเภท ทั้งวงเงินกู้ในธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก ตลอดจนระดับรากหญ้า
สำหรับในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ธนาคารกำลังจะทำในรูปแบบเงินกู้จุลภาค ที่จะเปิดโอกาสให้คนจนในระดับรากหญ้าที่ต้องการเงินกู้ในจำนวนน้อยๆ สำหรับการประกอบธุรกิจในครัวเรือน สามารถใช้บริการของทางธนาคารได้ เพื่อป้องกันการกู้เงินในนอกระบบ ซึ่งมีจังหวัดนราธิวาสเป็นโครงการนำร่อง เนื่องจากทางธนาคารยังไม่พร้อมในเรื่องของเครือข่าย แต่จะทยอยดำเนินการมายัง จ.ยะลา ปัตตานี ตามลำดับ
ในขณะเดียวกัน ทางธนาคารยังได้มีเวลาในการประเมินผลการดำเนินการว่า จากที่ได้คิดและดำเนินการไปแล้วนั้น ประชาชนมีความต้องการมากน้อยเพียงใดอย่างไร ซึ่งโครงการเงินกู้สินเชื่อจุลภาคนั้น จะสามารถให้การช่วยเหลือคนจนทั้งไทยพุทธ มุสลิม ในพื้นที่ ที่มีความตั้งใจจะประกอบอาชีพแต่ขาดเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งประชาชนกลุ่มเหล่านี้ไม่สามารถที่เข้าถึงเงินทุนในระบบของธนาคารปกติอยู่แล้ว
กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ยังกล่าวถึงว่า การปล่อยเงินกู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบว่า ตนไม่ได้เป็นห่วงว่า จะเป็นหนี้สูญ เพราะธนาคารจะถือว่า “ตราบใดที่ลูกค้ายังเป็นลูกค้าที่ดี ถึงสถานการณ์จะเป็นเช่นไร จะไม่ผลกระทบกับธนาคารแต่อย่างใด”