ยะลา - กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงแผนรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ประจำปี 2553 ขณะที่ ผบ.พตท.สั่งสอบเข้มกรณีคาร์บอมบ์ ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลังพบเกิดจากความผิดพลาดของเครื่องมือตรวจวัตถุระเบิดไม่ทำงาน
วันนี้ (7 ต.ค.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธาน ในการจัดแถลงแผนรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ประจำปี 2553 โดยมี พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ผู้แทนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 2 ตัว และ หมายเลขตัวเดียว พร้อมด้วย ร่วมรับฟังการแถลงแผนงานดังกล่าว
พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จากการปฏิบัติงานในปีที่ผ่านมานั้น ภายใต้การร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น ลงพื้นที่ เพื่อพบปะพูดคุยกับประชาชน ในส่วนต่างๆ นำการพัฒนาในด้านต่างๆ ลงสู่ชุมชน และ หมู่บ้าน ได้มากกว่าในห้วงปี ก่อน ๆ ทำให้ประชาชนร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐมากยิ่งขึ้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในห้วงปี 52 ในภาพรวมดีขึ้น
ส่วนแนวทางในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในปี 53 ยังคงยึดถือ 2 ยุทธศาสตร์หลัก คือ ยุทธศาสตร์พัฒนา และยุทธศาสตร์ความมั่นคง โดยใช้แนวทาง การเมืองนำการทหาร ยึดหลักสันติวิธีภายใต้กฎหมายเดียวกัน ให้ความเคารพสิทธิมนุษยชน และ ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สามารถดำรงชีวิต และประกอบอาชีพได้อย่างปกติสุข
ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนที่หากไม่ดำเนินการแล้วจะส่งผลกระทบต่อสังคมจิตวิทยา ที่จะต้องเร่งการขับเคลื่อนกิจกรรมลงสู่ชุมชน หมู่บ้านในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 2,901 หมู่บ้านเพื่อยกระดับรายได้ และ คุณภาพชีวิต
ด้าน พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่คนร้ายนำคาร์บอมบ์ มาก่อเหตุ บริเวณด้านหน้าโรงแรมเมอร์ลิน เขตเทศบาลสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เริ่มแรกตนเองได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีรถยนต์ต้องสงสัยเข้ามาจอดบริเวณดังกล่าว จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปตรวจสอบในชั้นต้น โดยใช้เครื่องจีที 200 ปรากฏว่าเครื่องไม่ชี้ว่า เป็นสารตั้งต้นของระเบิด แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานไปยังชุดทำลายวัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันตรวจสอบก็ได้เกิดระเบิดขึ้นก่อน
ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเครื่องตรวจจีที 200 ทำไมไม่ทำงาน ซึ่งได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ผู้ใช้ หรือของเครื่องมือ สำหรับ เครื่องจีที 200 ที่ใช้ในพื้นที่เป็นเครื่องที่ทำงานโดยอาศัยไฟฟ้าในตัวคนเพราะฉะนั้นเป็นไปได้ว่าคนที่ใช้บางครั้งร่างกายจะอ่อนแอ หากไฟฟ้าในร่างกายน้อยลงทำให้ประสิทธิภาพของการใช้เครื่องน้อยลง จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยจัดเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 2 คน ประจำเครื่อง หลังจากเกิดเหตุในพื้นที่บ่อยครั้ง
ส่วนเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ อาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายอาศัยจังหวะของการสับเปลี่ยนกำลังพล และเปลี่ยนผู้บังคับหน่วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ ทั้งด่านถาวร และชั่วคราว และ ให้ใช้เครื่องมือทุกชนิดเข้าปฏิบัติการอย่างเข้มงวด เพื่อป้องการการก่อเหตุของกลุ่มคนร้าย