ตรัง – เจ้าของช้างพังวังทอง เผยความคืบหน้าอาการของช้างพังวังทอง ดีขึ้นเล็กน้อย หลังเกิดอาการปวด ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.จากใช้สมุนไพรพื้นบ้านในการรักษา โดยสามารถกลืนยาลงท้องได้แล้ว แต่คงต้องใช้เวลาในการรักษา
วันนี้ (17 ก.ย.) จากกรณีช้างพังวังทอง อายุ 45 ปี น้ำหนัก 2.5 ตัน ซึ่งเป็นช้างของ นายสุชาติ บัวแก้ว อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 3 ตำบลบางกุ้ง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ที่เลี้ยงไว้เพื่อการท่องเที่ยว เกิดอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา ด้วยอาการอาหารอุดตันในหลอดอาหาร จนไม่สามารถกินอาหารเองได้ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนล้าและน้ำหนักตัวลดลง ประมาณ 300-400 กิโลกรัมนั้น
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตรัง ต้องใช้เชือกป่านในการผูกดึงตัวช้างพังวังทองไว้กับตันไม้ เพื่อป้องกันช้างล้ม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการให้ความช่วยเหลือมากยิ่งขึ้น พร้อมกับเร่งหาทางช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่องและเต็มที่ ขณะที่เจ้าของช้าง และญาติพี่น้องก็ห่วงใยช้างพังวังทองอย่างยิ่ง จึงหาวิธีการรักษาทุกวิธีทางรวมทั้งพึ่งพาไสยศาสตร์ ด้วยการจุดธูปเทียนอธิษฐานขอพรคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ช้างพังวังทองหายป่วยโดยเร็วที่สุด
ขณะที่ นายสัตวแพทย์วัฒนพล พลอยมีค่า สัตวแพทย์สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมในการช่วยเหลือช้างพังวังทองในครั้งนี้ เข้าไปในพื้นที่ดูแลช้างพังวังทองอย่างใกล้ชิด พร้อมขอคำปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย โรงพยาบาลช้างลำปาง ตลอดเวลา ทั้งให้ยาปฏิชีวนะ ยาบำรุง และให้น้ำเกลือช่วยเหลือ
พร้อมกับได้พยายามกรอกน้ำมันพืชเข้าไปทางปากช้าง ซึ่งเป็นวิธีการรักษาแบบสากลกรณีอาหารติดคอช้าง เพื่อให้เกิดน้ำหล่อลื่น จากนั้นพยายามใช้น้ำฉีดอัดเข้าไป แต่ปรากฎว่าวิธีการนี้ไม่สำเร็จ เนื่องจากว่าแรงดันน้ำไม่แรงพอที่จะดันเศษอาหารที่ติดค้างลงไปในท้องช้างได้
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2552 นายสุชาติ บัวแก้ว เจ้าของช้างพังวังทอง กล่าวว่า ได้ติดต่อประสานงานของให้เจ้าของช้างจากจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพรรคพวกกันลงมาช่วยดูแลรักษาช้างพังวังทอง ปรากฏว่า ได้ใช้สมุนไพรพื้นบ้านในการรักษา เช่น นำมะขามเปียก ผสมกับมะนาว และเกลือ ป้อนเข้าไปในปากช้าง จนทำให้ช้างพังวังทองสามารถกลืนยาลงท้องได้แล้ว ขณะเดียวกัน ก็ยังนำสมุนไพรชนิดต่างๆ ตามความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ในการรักษาช้างเป็นประจำ มาใช้กับช้างพังวังทองด้วย
นอกจากนั้น ยังมีการนำน้ำสมุนไพรที่ผ่านการต้มแล้วมาเช็ดตัว จนขณะนี้ส่วนตัวเห็นว่าช้างพังวังทองอาการดีขึ้น สดใสขึ้น และกินน้ำได้แล้ว ทางด้านทีมสัตวแพทย์ของ คุณหมอวัฒนพล ก็ยังเข้ามาให้ยาบำรุงกับช้างพังวังทองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าการรักษาตามแบบของเจ้าของช้างจังหวัดสุรินทร์ที่มาช่วยน่าจะถูกทาง คงจะทำให้ช้างพังวังทองมีอาการดีขึ้น แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร