กระบี่-จับอีกแก๊งทวงหนี้ดอกเบี้ยโหดร้อยละ 60 ต่อเดือน ได้ผู้ต้องหา 9 ราย เงินสด 97,000 บาท พร้อมรายชื่อลูกหนี้ กว่า 200 คน เตรียมพิจารณาข้อหาอั้งยี่ ลงโทษเพิ่ม แทนปรับ 500 บาท
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี่ (11 ก.ย.) ที่ห้องสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผกก.สภ.เมืองกระบี่ พ.ต.ท.สุขเกษม นครวิลัย รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งทวงหนี้โหดร้อยละ 60 ต่อเดือน ได้ผู้ต้องหา 9 คน ประกอบด้วย นายวิทยา บริบูรณ์เกษตร อายุ 19 ปี บ้านอยู่จังหวัด นครปฐม นายพูลศักดิ์ ลิ่มเอี่ยม อายุ 27 ปี บ้านอยู่ จ.ราชบุรี นายชัยรัตน์ หนูสุวรรณ อายุ 24 ปี บ้านอยู่ อ.เมือง จ.กระบี่ นายบุญรอด สุวรรณไตร อายุ 32 ปี บ้ายอยู่ จ.กระบี่ นายสิทธิชัย ท่าหิน อายุ 20 ปี บ้านอยู่ จ.ระยอง
นายดำรงศักดิ์ ขจรกลาง อายุ 37 ปี บ้านอยู่ จ.นครราชสีมา นายบุญเลี้ยง เบี้ยกระโทก อายุ 31 ปี บ้านอยู่ จ.นครราชสีมา และนายสิทธิโชค บุตรเนียม อายุ 26 ปี บ้านอยู่ จ.ชัยนาท นายประสาน แก้วเดโช อายุ 19 ปี บ้านอยู่อ.เหนือคลอง จ.กระบี่
พร้อมของกลางเงินสดประมาณ 97,000 บาท รถยนต์กระบะจำนวน 2 คัน รถจักรยายนต์จำนวน 2 คัน บัญชีรายชื่อลูกค้าจำนวน 2 แฟ้ม กว่า 200 คน สัญญาเงินกู้จำนวน 8 เล่ม ตู้เซฟจำนวน 1 ตู้ และโทรศัพท์มือถือจำนวน 9 เครื่อง
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากแม่ค้าในพื้นที่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ว่ามีแก๊งทวงหนี้โหด เข้ามาเก็บดอกเบี้ยลูกค้า โดยเรียกดอกเบี้ยร้อยละ 60 ต่อเดือน ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมาย จึงนำกำลังไปดักซุ่มรออยู่ที่จุดนัดหมาย เมื่อผู้ต้องหาเข้าเก็บเงินจากลูกค้า จึงได้เข้าทำการจับกุมก่อนขยายผลไปยังผู้ต้องหาที่เหลือได้ในที่สุด
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่ากฎหมายกำหนด (พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475) ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ นำส่งเจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.พศิน กล่าวว่า แก๊งทวงหนี้โหดที่จับได้ทุกราย จะไม่ให้ประกันตัว ส่งฟ้องศาลทันที เพราะพฤติกรรมของแต่ละคนเป็นภัยต่อลูกหนี้ มีการข่มขู่ขณะทวงหนี้ และได้กำชับไปยังตำรวจต่างอำเภอให้กวดขันติดตามจับกุมด้วย เพราะเชื่อว่ายังมีอีกมาก
ส่วนการดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาศาลได้ตัดสินปรับรายละ 500 บาท และรอลงอาญานั้น เป็นโทษที่เบาเกินไป เป็นไปไปได้ จะพิจารณาหาข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เพื่อให้มีโทษหนักขึ้น เช่น เป็นซ่องโจร หรืออั้งยี่ มีโทษสูงขึ้น
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้มีการจับกุมแก็งทวงหนี้รวมแล้วรวม 45 ราย ยอดเงินกู้รวม 7.5 ล้านบาท มีลูกค้ารวมประมาณ 200 กว่าคน แต่ยังไม่สามารถสาวไปถึงตัวนายทุนได้
