แกนนำไทยพลัดถิ่นระนองถูกทหารกักตัว

ระนอง - แกนนำไทยพลัดถิ่นจังหวัดระนอง จำนวน 45 คนถูกทหารประจำด่านตรวจกักตัวไว้ไม่ให้เดินทางไปอบรมและพัฒนาศักยภาพแกนนำเรื่องสิทธิและกระบวนการเสนอกฎหมายคืนสัญชาติไทย ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เมื่อเวลา 11.45 น. วันนี้ (10 ก.ย.) นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กม. ได้เดินทางไปพบปะพูดคุยกับแกนนำคนไทยพลัดถิ่นจังหวัดระนอง และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 150 คน ที่สำนักสงฆ์สะพานปลา หมู่ที่ 5 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง หลังจากที่แกนนำคนไทยพลัดถิ่นจำนวน 45 คน ถูกทหารประจำด่านตรวจหน้านิคมสร้างตนเองปากจั่น ต.จ.ป.ร. อ.กระบุรี จ.ระนอง กักตัวไว้

ทั้งนี้ เนื่องจากไม่มีหนังสืออนุญาตจากจังหวัดระนอง ให้เดินทางออกนอกพื้นที่ เพื่อไปเข้าร่วมโครงการฟื้นฟูและพัฒนาวิถีชีวิตคนไทยพลัดถิ่น : คนไร้สัญชาติ การอบรมแกนนำและพัฒนาศักยภาพแกนนำ : สิทธิและกระบวนการเสนอกฎหมายคืนสัญชาติไทย ที่วัดประชาสนธิ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน 2552

นายแพทย์นิรันดร์ กล่าวว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ถือว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ยึดเพียงหลักกฎหมาย แต่ไม่ได้คำนึงถึงความเป็นธรรม ซึ่งแตกต่างกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ยึดหลักความเป็นธรรม ควบคู่กับหลักกฎหมาย หลังจากที่ตนได้พยายามประสานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแล้วมีการโยนกันไปโยนกันมา ตนจึงตัดสินใจโทร.ไปหา พลโท พิเชฐ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ในเมื่อจังหวัดระนอง ไม่อนุญาตให้คนไทยพลัดถิ่นเดินทางออกนอกจังหวัด

ตนจึงขออนุญาตให้คนไทยพลัดถิ่นจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางมาร่วมประชุมที่จังหวัดระนองแทน ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะคนไทยพลัดถิ่นไม่มีปัญหาในเรื่องของความมั่นคงและเรื่องการเมืองแต่อย่างใด จึงต้องขอขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 4 ด้วยที่เข้าใจ

นายแพทย์นิรันดร์กล่าวด้วยว่า คนไทยพลัดถิ่นทุกคนถือเป็นคนไทยโดยเลือดเนื้อและจิตวิญญาณ เพียงแต่ถูกรัฐทำให้เป็นคนไทยพลัดถิ่น โดยกฎหมายสัญชาติ และการปักปันเขตแดนเมื่อร้อยกว่าปีก่อน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องกฎหมาย เพราะกฎหมายมาที่หลังคนไทยพลัดถิ่น ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ต้องไปดำเนินการแก้ไขกฎหมาย รวมทั้งการคืนสิทธิด้านต่างๆ เช่น การรักษาพยาบาล การศึกษา การประกอบอาชีพ และที่อยู่อาศัย เป็นต้น

นายภควินท์ แสงคง ผู้แทนเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง หรือ คปสม. คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของเครือข่ายชุมชนการปฏิรูปสังคมและการเมือง ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้เช่าเหมารถบัสจำนวน 1 คัน เพื่อนำแกนนำคนไทยพลัดถิ่นจังหวัดระนอง จำนวน 45 คน ไปอบรมที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านมาได้มีการทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อทราบ โดยระบุชื่อบุคคล ทะเบียนรถ และภารกิจที่มีความจำเป็นต้องพาคนไทยพลัดถิ่นออกนอกจังหวัดระนอง ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่มาครั้งนี้เมื่อรถไปถึงด่านตรวจของทหารที่ อ.กระบุรี กลับถูกกักตัวไว้ไม่ให้เดินทางตัวตั้งแต่เวลา 13.00 -24.00 น.ของวันที่ 9 กันยายน หลังจากใช้ความพยายามอธิบายถึงความจำเป็นไม่เป็นผลแล้วจึงตัดสินใจเดินทางกลับ แล้วประสานไปยังเครือข่ายคนไทยพลัดถิ่นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้เดินทางมาประชุมที่จังหวัดระนองแทน