ยะลา - “ถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย” ลงพื้นที่ยะลาตรวจสอบการจัดจ้างการติดตั้งกล้อง CCTV ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังพบไม่สามารถส่งมอบงานได้ ประกาศต่อไปนี้จะลงมาทำงานในพื้นที่ภาคใต้สัปดาห์ละ 1 วัน
วันนี้ (7 ก.ย.) ที่อาคารอเนกประสงค์ชั้น 3 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อ.เมือง จ.ยะลา นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมประชุมกับ นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา คณะผู้บริหารกลุ่มงาน และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ในศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อมอบแนวนโยบายการปฏิบัติงาน รวมทั้งชี้แจงโครงสร้างการปฏิบัติงานภายใต้โครงสร้างใหม่
นายถาวร กล่าวว่า ต่อไปนี้ตนจะเดินทางมาทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน ที่สำคัญ ต้องการมาตรวจสอบเรื่องกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ที่มีการจัดจ้างตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งทางบริษัทไม่สามารถส่งมอบงานได้ รวมทั้งไม่ผ่านการตรวจรับ จึงต้องลงพื้นที่ติดตาม และทราบว่า บริษัทที่รับเหมาติดตั้งกล้องได้มีการบอกเลิกสัญญา ซึ่งปกติแล้วบริษัทจะไม่สามารถบอกเลิกสัญญาได้และในขณะนี้อยู่ในระหว่างการบอกเลิกสัญญาจากทางราชการ เพื่อดำเนินการจัดจ้าง บริษัทใหม่มาดำเนินการติดตั้ง
สำหรับการดำเนินการติดตั้งกล้อง CCTV นั้นได้ดำเนินการในสมัยรัฐบาล คมช.ซึ่งมี นายอารีย์ วงศ์อารียะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จัดจ้างในวงเงินกว่า 900 ล้านบาท และจ่ายค่าติดตั้งไปแล้ว ในงวดแรกจำนวน 139 ล้านบาท แต่ทางบริษัทรับจ้าง ได้ทิ้งงานไป พร้อมบอกเลิกสัญญาไป ทำให้การติดตั้งวงจรปิด หรือ CCTV ไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนที่ใช้ได้ นั้นเป็นของกรมปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อนุมัติให้เทศบาลดำเนินการติดตั้งเท่านั้น
นายถาวร กล่าวต่อถึงการดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดว่า ทางบริษัทรับจ้างได้ส่งมอบงานงวดแรกที่ อ.เมือง จ.สงขลา ปรากฏว่า บริษัทไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามขอบเขตของงานได้ คณะกรรมการตรวจรับการจ้าง จึงไม่รับมอบงาน หลังจากนั้นบริษัทได้ขอส่งมอบงานอีกครั้ง ปรากฏว่าไม่บอกล่วงหน้า ทำให้ประธานคณะกรรมการตรวจรับงาน ซึ่งเดินทางไปราชการที่อื่นไม่สามารถเดินทางมารับการจ้างได้ ทำให้บริษัทอ้างเหตุการณ์ดังกล่าวขอยกเลิกสัญญา ซึ่งทางบริษัทไม่บอกนัดล่วงหน้ากับคณะกรรมการตรวจรับการจ้าง แต่มาอ้างการไม่มาตรวจรับการจับจ้าง เป็นเหตุผลในการยกเลิกสัญญา ซึ่งต้องเฝ้าพฤติกรรมบริษัทว่า ยังมีความตั้งใจที่จะเป็นบริษัทคู่สัญญาอีกหรือเปล่า
“ที่สำคัญที่สุด เราปรับเขามาเป็นระยะเวลายาวนานและการส่งมอบงานแม้แต่งวดแรกก็ยังไม่สามารถส่งมอบงานได้ เป็นเหตุให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ต้องหารือไปยังคณะกรรมการงานพัสดุ กระทรวงการคลัง เพื่อที่จะชี้หาแนวทางว่า บริษัททิ้งงานหรือไม่ ผิดสัญญาหรือไม่จะได้บอกเลิก ขณะนี้กล้องที่ติดตั้งอยู่แต่เดิมเป็นสัญญาอีกสัญญาหนึ่ง ซึ่งติดตั้งในปี 2548 นั้นได้ให้บริษัทไปดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ก็ยังไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จ”
วันนี้ ผมได้สั่งการให้ศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีของกระทรวง เร่งติดตามและให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ติดตามไปยังคณะกรรมการพัสดุ กระทรวงการคลัง ว่า เข้าค่ายผิดสัญญาหรือไม่ ถ้าหากว่าบริษัทขอยกเลิกสัญญา แสดงว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ผิดสัญญา เขาต้องเรียกค่าเสียหาย แต่วันนี้เราได้ปรับบริษัท โดยกล่าวว่า เขาทำผิดสัญญา เนื่องจากส่งมอบงานไม่ได้ตามกำหนด และมีปัญหาในเรื่องของซอฟแวร์ เนื่องจากการคณะกรรมการยืนยันว่าไม่สามารถเปิดรับภาพให้คณะกรรมการได้ นั่นแสดงว่ามีปัญหาในเรื่องของซอฟต์แวร์ด้วย” นายถาวร กล่าว
ส่วนแนวทางการแก้ปัญหานั้น นายถาวร กล่าวว่า แนวโน้มของการบอกเลิกสัญญาจากกระทรวงมหาดไทยมีสูงมาก และต้องดำเนินการโดยเร็วหากคณะกรรมการพัสดุของกระทรวงการคลัง แจ้งมาว่าสามารถยกเลิกสัญญาได้ และต้องดูอีกว่าหากดำเนินการใหม่ จะเดินตามขอบเขตเดิมหรือไม่ เพราะหลายฝ่ายมองว่างบประมาณ 900 กว่าล้านนั้นสูงเกินความจำเป็นเขาต้องการให้แยกเป็นพื้นที่ๆ ไป พอจะจับภาพได้ อ่านภาพวัสดุได้
หลังจากประชุมเสร็จ เวลาประมาณ 14.00 น.นายถาวร พร้อมด้วย นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ตัวแทนของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และ เจ้าหน้าที่ในระดับต่างๆ เดินทางไปพบปะพี่น้องประชาชน ที่มาใช้บริการโดยสารรถไฟในการเดินทาง พร้อมเยี่ยมชมระบบทีวีวงจรปิดของสถานีรถไฟยะลาด้วย
จากนั้น นายถาวร ได้เดินพบปะกับประชาชนที่มายืนรอต้อนรับ ที่บริเวณหน้าอาคารริมถนนสายพิพิธภักดี รวมทั้งเยี่ยมพบปะประชาชน ที่ถนนสายกลาง ย่านการค้า เขตเทศบาลนครยะลา ก่อนจะเดินไปตรวจจุดเกิดเหตุคาร์บอม เมื่อวันที่ 4 ก.ย.52 ที่ผ่านมา บริเวณสี่แยกธนาคารนครหลวงไทย ถนน ณ นคร ตัดกับ ถนนยะลา พร้อมพูดคุยกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว
นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้นายกฤษฎา บุญราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาดูแลเยียวยาให้กับร้านค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าวโดยด่วนด้วย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากวันนี้เป็นต้นไป จะเดินทางลงมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ด้วยตนเอง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน ในการดูแลนโยบายการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทางรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการดูแล และ แก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
