ศูนย์ข่าวภูเก็ต -เกิดเหตุพื้นผิวการจราจรถนนทางลงเขาป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 3 เมตร ลึกประมาณ 5 เมตร หลังฝนตกหนักตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองป่าตอง ตำรวจ ต้องปิดการจราจรเร่งเคลียร์พื้นที่ ทำรถติดเป็นระยะทางยาว โชคดีช่วงเกิดเหตุ ไม่มีรถที่วิ่งผ่านไป-มาพลัดตกลงไป เบื้องต้นคาด สาเหตุดินอุ้มน้ำไม่ไหว เหตุเป็นดินอ่อน และเป็นจุดวางท่อน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดภูเก็ต ว่า วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ได้เกิดเหตุพื้นผิวการจราจร ถนนทางลงเขาป่าตอง ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้ทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ ช่วงที่ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองป่าตอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ต้องทำการปิดการจราจร ให้รถสามารถสัญจรผ่านไป-มา ได้เพียงช่องจราจรเดียว
โดยกั้นไม่ให้รถทุกชนิดผ่านขึ้นเขาป่าตองได้ ตั้งแต่บริเวณด่านตรวจสี่กอ สภ.ทุ่งทอง พร้อมกันให้รถเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าปฏิบัติงานเคลียร์พื้นที่ได้สะดวกขึ้น ทำการให้การจราจรถนนทางขึ้นเขาป่าตอง รถติดเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยมี พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผกก.สภ.กะทู้ และนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการเร่งเคลียร์พื้นที่เป็นการด่วน
ทั้งนี้ จุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางลงเขาป่าตองช่วงแรก ฝั่งซ้ายมือ อยู่ห่างจากโครงการซีเพิร์ลวิลล่า ประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ต่ำ ลักษณะคล้ายท้องช้าง พื้นผิวจราจรได้ทรุดตัวลง เป็นหลุมขนาดความกว้างประมาณ 3 เมตร ลึกประมาณ 5 เมตร เป็นโพรงใต้ดิน เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถแบ็กโฮ ทำการขุดเจาะ เพื่อเปิดปากหลุมให้มีขนาดกว้างขึ้น พร้อมกับนำเศษหิน อิฐ และลูกรัง บรรทุกรถสิบล้อมาถมเป็นจำนวนหลายคันรถ
เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถถมดิน และเปิดให้รถสัญจรผ่านไป-มา ได้ตามปกติ แต่ให้วิ่งผ่านได้เพียงช่องจราจรเดียว พร้อมกับนำป้ายสัญญาณจราจร และวางวัตถุกั้นไว้ ให้ผู้ที่สัญจรผ่านไป-มา สังเกตเห็นได้ชัดเจน ป้องกันอันตราย ซึ่งวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.) เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองป่าตอง และแขวงการทางภูเก็ต จะเข้าทำการซ่อมแซมฟื้นผิวการจราจรให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม จุดที่เกิดเหตุเป็นจุดที่มีการวางท่อระบายน้ำ ลักษณะดินอ่อน คาดว่า สาเหตุของการทรุดตัวครั้งนี้ น่าจะมาจากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ตั้งแต่คืนวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ทำให้ดินที่อ่อนตัวอยู่แล้วอุ้มน้ำไม่ไหว จึงทรุดตัวลง โชคดีช่วงที่เกิดเหตุ ไม่มีรถคันใดที่วิ่งผ่านไป-มา พลัดตกลงไป
