นครศรีธรรมราช - ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่ง นอภ.ลุยนายทุนบุกรุกยึดพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนาเกือบ 3,000 ไร่ ชาวบ้านสุดทนแจ้งสายด่วนผู้ว่าฯ 1567 ตรวจสอบตะลึงพื้นที่เหี้ยน สั่งยึดแบ็กโฮ 7 คัน นายทุนไม่สนสั่งขโมยคืน 2 คัน ผู้ว่าฯเต้นท้าทายอำนาจรัฐสั่งดำเนินคดดีขโมยของกลางอีกคดี
วันนี้ (12 ส.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น.นายธำรงค์ เขมรัตน์ นายอำเภอเชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับรายงานจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ว่าได้มีคนร้ายแอบขโมยรถแบ็กโฮของกลางที่ นายธำรงค์ จับกุม และตรวจยึดไว้เมื่อวานนี้จำนวน 7 คัน และมอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.การะเกด รับผิดชอบดูแลของกลาง แต่ปรากฏว่า รถแบ็กโฮของกลางถูกคนร้ายขโมยจำนวน 2 คัน นายธำรงค์ จึงรายงานเหตุการณ์ให้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชทราบ และสั่งกำลังฝ่ายปกครองออกติดตามรถแบ็กโฮของกลางที่ถูกขโมยไป 2 คันคืนทันที
จากการติดตามของเจ้าหน้าที่พบรถแบ็กโฮของกลางเพียง 1 คัน จอดซุ่มอยู่ในป่าละเมาะไม่ห่างจากบ้านของผู้ใหญ่บ้านมากนัก จึงสั่งตรวจยึดคืนทันที และมอบหมายให้ อส.จำนวนหนึ่งควบคุมดูแลรถแบ็กโฮคันดังกล่าวเอาไว้ตลอด 24 ชั่วโมง และจะสอบสวนสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในกรณีคนร้ายขโมยรถแบ็กโฮของกลางนั้น จะดำเนินคดีในข้อหาโจรกรรมของกลางที่อยู่ในการควบคุมดูแลของทางราชการเพิ่มอีกข้อหาหนึ่ง
นายธำรงค์ เขมรัตน์ นายอำเภอเชียรใหญ่ กล่าวว่า ตนได้รับคำสั่งจาก นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เข้าไปตรวจสอบจับกุมผู้บุกรุกพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนา ในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพำระราชดำริ ซึ่งมีพื้นที่หลายพันไร่ติดต่อกันในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เชียรใหญ่ และ อ.หัวไทร ตนจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบรถแบ็กโฮ จำนวน 7 คัน กำลังขุดดินปรับพื้นที่ราบเรียบจนเป็นบริเวณกว้างเนื้อที่ 2,000-3,000 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 9 ต.การะเกด ในขณะคนงานที่ขับรถแบ็กโฮทำงาน และอยู่ในพื้นที่ เมื่อเห็นกำลังเจ้าหน้าทีได้แยกย้ายกันวิ่งหลบหนีไป
ตนจึงสั่งการให้ทำตรวจยึดรถแบ็กโฮรวม 7 คัน ไว้เป็นของกลาง และเนื่องจากของกลางมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก ไม่สามารถนำออกมานอกพื้นที่ได้ จึงมอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.การะเกด เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบควบคุมดูแลรถแบ็กโฮของกลางเอาไว้
ส่วนในทางคดีนั้นได้รายงานให้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ เพื่อสั่งการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป แต่มีคนร้ายแอบมาขโมยรถแบ็กโฮของกลางไปจำนวน 2 คันดังกล่าว
“อย่างไรก็ตาม รถแบ็กโฮของกลางที่ถูกขโมยไป 2 คัน เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตรวจยึดคนกลับมาได้ 1 คัน ในคดีนี้จึงเหลือรถแบ็กโฮของกลาง 6 คัน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ในเบื้องต้นทราบว่าผู้บุกรุกเป็นนักการเมือง และผู้นำท้องถิ่นชื่อดังในภาคใต้หลายจังหวัด และอาจจะมีข้าราชการหลายระดับเกี่ยวข้องด้วย โดยตนจะเดินทางเข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติมในพื้นที่ในวันที่ 13 ส.ค.2552 นี้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเข้าไปตรวจสอบและตรวจยึดรถแบ็กโฮของกลางในครั้งนี้ สืบเนื่องจากชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยัง นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดทางโครงการ “นคร 24 ชั่วโมง เว็บไซต์และสายด่วน 1567” นายจารุมัย นพรัตน์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้นายอำเภอเชียรใหญ่ตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 ปีก่อน สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้ประทับเฮลิคอปเตอร์เยี่ยมพสกนิกรผ่านพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนัง และทรงทอดพระเนตรเห็นพื้นที่ป่าราบเรียบ พระองค์ได้ให้ความสนพระทัยเป็นอย่างมาก จึงให้กองทัพภาคที่ 4 ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
นายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 4 ร่วมกับ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ในขณะนั้นยังไม่เป็น รมต.) นำกำลังเข้าตรวจสอบ จึงพบว่าเป็นพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนา และการบุกรุกพื้นที่เพื่อปลูกปาล์มเป็นฝีมือถูกกลุ่มนายทุน ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น ใน จ.สงขลา และพัทลุง โดยมีข้าราชการระดับสูงหลายสังกัดที่เกี่ยวข้องร่วมขบวนการ เป็นข่าวฉาวโฉ่ในขณะนั้น แต่หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป
จนเมื่อวันที่ 29-30 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯประกอบพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชหลายจุด โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.แม่เจ้าอยู่หัว และ ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ ปรากฏว่า ได้มีเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยราชการสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้บินไปลงในพื้นที่ คาดว่า จะเข้าไปสั่งให้ยุติการใช้รถแบ็กโฮปรับพื้นที่เอาไว้ชั่วคราว ในช่วงที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จฯประกอบพระราชกรณียกิจในพื้นที่
หลังจาก สมเด็จพระเทพฯ เสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจ ขบวนการบุกรุกพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนาก็เริ่ม ในแต่ละวันจะมีรถแบ็กโฮไถปรับพื้นที่เกือบ 10 คัน จนชาวบ้านสุดทนร้องเรียนกับนายภาณุ จนมีการสั่งดำเนินการตรวจสอบตรวจยึดครั้งมโหฬารดังกล่าว
วันนี้ (12 ส.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น.นายธำรงค์ เขมรัตน์ นายอำเภอเชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับรายงานจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ว่าได้มีคนร้ายแอบขโมยรถแบ็กโฮของกลางที่ นายธำรงค์ จับกุม และตรวจยึดไว้เมื่อวานนี้จำนวน 7 คัน และมอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.การะเกด รับผิดชอบดูแลของกลาง แต่ปรากฏว่า รถแบ็กโฮของกลางถูกคนร้ายขโมยจำนวน 2 คัน นายธำรงค์ จึงรายงานเหตุการณ์ให้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชทราบ และสั่งกำลังฝ่ายปกครองออกติดตามรถแบ็กโฮของกลางที่ถูกขโมยไป 2 คันคืนทันที
จากการติดตามของเจ้าหน้าที่พบรถแบ็กโฮของกลางเพียง 1 คัน จอดซุ่มอยู่ในป่าละเมาะไม่ห่างจากบ้านของผู้ใหญ่บ้านมากนัก จึงสั่งตรวจยึดคืนทันที และมอบหมายให้ อส.จำนวนหนึ่งควบคุมดูแลรถแบ็กโฮคันดังกล่าวเอาไว้ตลอด 24 ชั่วโมง และจะสอบสวนสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในกรณีคนร้ายขโมยรถแบ็กโฮของกลางนั้น จะดำเนินคดีในข้อหาโจรกรรมของกลางที่อยู่ในการควบคุมดูแลของทางราชการเพิ่มอีกข้อหาหนึ่ง
นายธำรงค์ เขมรัตน์ นายอำเภอเชียรใหญ่ กล่าวว่า ตนได้รับคำสั่งจาก นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เข้าไปตรวจสอบจับกุมผู้บุกรุกพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนา ในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพำระราชดำริ ซึ่งมีพื้นที่หลายพันไร่ติดต่อกันในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เชียรใหญ่ และ อ.หัวไทร ตนจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบรถแบ็กโฮ จำนวน 7 คัน กำลังขุดดินปรับพื้นที่ราบเรียบจนเป็นบริเวณกว้างเนื้อที่ 2,000-3,000 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 9 ต.การะเกด ในขณะคนงานที่ขับรถแบ็กโฮทำงาน และอยู่ในพื้นที่ เมื่อเห็นกำลังเจ้าหน้าทีได้แยกย้ายกันวิ่งหลบหนีไป
ตนจึงสั่งการให้ทำตรวจยึดรถแบ็กโฮรวม 7 คัน ไว้เป็นของกลาง และเนื่องจากของกลางมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก ไม่สามารถนำออกมานอกพื้นที่ได้ จึงมอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.การะเกด เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบควบคุมดูแลรถแบ็กโฮของกลางเอาไว้
ส่วนในทางคดีนั้นได้รายงานให้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ เพื่อสั่งการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป แต่มีคนร้ายแอบมาขโมยรถแบ็กโฮของกลางไปจำนวน 2 คันดังกล่าว
“อย่างไรก็ตาม รถแบ็กโฮของกลางที่ถูกขโมยไป 2 คัน เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตรวจยึดคนกลับมาได้ 1 คัน ในคดีนี้จึงเหลือรถแบ็กโฮของกลาง 6 คัน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ในเบื้องต้นทราบว่าผู้บุกรุกเป็นนักการเมือง และผู้นำท้องถิ่นชื่อดังในภาคใต้หลายจังหวัด และอาจจะมีข้าราชการหลายระดับเกี่ยวข้องด้วย โดยตนจะเดินทางเข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติมในพื้นที่ในวันที่ 13 ส.ค.2552 นี้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเข้าไปตรวจสอบและตรวจยึดรถแบ็กโฮของกลางในครั้งนี้ สืบเนื่องจากชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยัง นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดทางโครงการ “นคร 24 ชั่วโมง เว็บไซต์และสายด่วน 1567” นายจารุมัย นพรัตน์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้นายอำเภอเชียรใหญ่ตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 ปีก่อน สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้ประทับเฮลิคอปเตอร์เยี่ยมพสกนิกรผ่านพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนัง และทรงทอดพระเนตรเห็นพื้นที่ป่าราบเรียบ พระองค์ได้ให้ความสนพระทัยเป็นอย่างมาก จึงให้กองทัพภาคที่ 4 ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
นายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 4 ร่วมกับ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ในขณะนั้นยังไม่เป็น รมต.) นำกำลังเข้าตรวจสอบ จึงพบว่าเป็นพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนา และการบุกรุกพื้นที่เพื่อปลูกปาล์มเป็นฝีมือถูกกลุ่มนายทุน ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น ใน จ.สงขลา และพัทลุง โดยมีข้าราชการระดับสูงหลายสังกัดที่เกี่ยวข้องร่วมขบวนการ เป็นข่าวฉาวโฉ่ในขณะนั้น แต่หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป
จนเมื่อวันที่ 29-30 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯประกอบพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชหลายจุด โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.แม่เจ้าอยู่หัว และ ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ ปรากฏว่า ได้มีเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยราชการสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้บินไปลงในพื้นที่ คาดว่า จะเข้าไปสั่งให้ยุติการใช้รถแบ็กโฮปรับพื้นที่เอาไว้ชั่วคราว ในช่วงที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จฯประกอบพระราชกรณียกิจในพื้นที่
หลังจาก สมเด็จพระเทพฯ เสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจ ขบวนการบุกรุกพื้นที่มูลนิธิชัยพัฒนาก็เริ่ม ในแต่ละวันจะมีรถแบ็กโฮไถปรับพื้นที่เกือบ 10 คัน จนชาวบ้านสุดทนร้องเรียนกับนายภาณุ จนมีการสั่งดำเนินการตรวจสอบตรวจยึดครั้งมโหฬารดังกล่าว
