นครศรีธรรมราช -“สมเด็จพระเทพฯ” ทรงแสดงความประสงค์จะเสด็จเยือน “บ้านคีรีวง” ชุมชนลือชื่อแห่งเมืองนครศรีธรรมราช เหตุเพราะมีการสำรวจแล้วพบว่า มีอากาศบริสุทธิ์ที่สุดในเมืองไทยด้วย ผวจ.ดันพระธาตุนครศรีฯสู่มรดกโลก
นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชกำลังร่วมกันดำเนินการภารกิจที่ยิ่งใหญ่คือ การผลักดันพระบรมธาตุสู่มรดกโลก และจะมีการการจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุน รณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งในช่วงสัปดาห์ส่งเสริมและเผยแผ่พระพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษานี้ ประชาชนทุกภาคส่วนได้จัดกิจกรรมขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
ในวันที่ 7 ก.ค.ที่ตรงกับวันอาสาฬหบูชา จะมีกิจกรรมแห่เทียนพรรษาพระราชทาน โดยคลื่นชาวพุทธชุดขาวกว่า 15,000 คน จากสนามหน้าเมืองมายังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร การประกอบพิธีบวงสรวงและพุทธาภิเษกเทียนพรรษายักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และการรางวัลผู้โชคดีที่ส่งบัตรการมีส่วนร่วมคัดเลือกตราสัญลักษณ์หรือโลโก้ รวมทั้งข้อความรณรงค์ประชาสัมพันธ์พระบรมธาตุสู่มรดกโลก และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
“ในระหว่างวันที่ 30-31 กรกฎาคม 2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จเป็นประธานในพิธีประดับนพรัตน์สังวาลองค์พระศรีศากยมุนีศรีธรรมราช ในวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชกล่าวและว่า
ในวโรกาสเดียวกันนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จะยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกหลายแห่ง ประกอบด้วย ทรงเปิดอนุสาวรีย์พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ณ สวนสาธารณะศรีธรรมราช ถ.ราชดำเนิน อ. เมือง จ.นครศรีธรรมราช เสด็จฯ ทรงเปิดอนุสาวรีย์ศรีปราชญ์ ณ โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช ถนนราชดำเนิน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เสด็จฯ ทรงเปิดพิพิธภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราช ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
เสด็จฯ ทรงเปิดพระบรมธาตุเจดีย์ศรีธรรมาโศกราช ณ วัดแม่เจ้าอยู่หัว หมู่ที่ 3 บ้านน้ำบ่อ ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และเสด็จฯ ทรงเปิดพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เลขที่ 134 หมู่ที่ 1 ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่หน่วยตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ กรมควบคุมมลพิษ เดินทางมาติดตั้งเครื่องตรวจวัดอากาศในจังหวัดนครศรีธรรมราช 2 จุดคือบ้านคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา และ บริเวณสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช และได้รายงานค่าเฉลี่ยผลการตรวจวัดอย่างเป็นทางการให้จังหวัดนครศรีธรรมราชทราบว่า ที่บ้านคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา นั้นมีค่าเฉลี่ยมลพิษทางอากาศแค่ 9 ไมโครกรัม /ลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งอาจจะเป็นอากาศดีหรืออากาศบริสุทธิ์ที่สุดของประเทศไทย
ส่วนค่าเฉลี่ยผลการตรวจวัดที่สนามหน้าเมืองก็อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงทราบจากสื่อมวลชน พระองค์ท่านจึงมีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จไปเยี่ยมเยียนประชาชนที่บ้านคีรีวงด้วย
“ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่วนล่วงหน้าได้แจ้งพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯสยามบรมราชกุมารี ให้จังหวัดนครศรีธรรมราชทราบ ติดต่อสอบถามรายละเอียดของพื้นที่คีรีวง พร้อมแจ้งว่าในวันที่ 16 ก.ค.2552 นี้เจ้าหน้าที่ส่วนล่วงหน้าในสมเด็จพระเทพฯ จะเดินทางมาสำรวจตรวจสอบพื้นที่จริง และจังหวัดนครศรีธรรมราชได้เร่งปรับเปลี่ยนพระราชกำหนดในการเสด็จมาประกอบพระราชกรณียกิจใหม่ โดยเพิ่มเติมในส่วนการเสด็จเยี่ยมพสกนิกรบ้านคีรีวง อ.ลานสกา เพิ่มเติม”
ทั้งนี้ ผลการตรวจวัดค่าเฉลี่ยมลพิษทางอากาศของกรมควบคุมมลพิษที่ปรากฏชัดเจน เรื่องอากาศหรือโอโซนที่บ้านคีรีวง อ.ลานสกา เป็นอากาศที่บริสุทธิ์ จะส่งผลดีต่อพื้นที่ อ.ลานสกา และจังหวัดนครศรีธรรมราชในทุกๆ ด้านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว พักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ในพื้นที่บ้านคีรีวงเพิ่มมากขึ้น
“ดังนั้น ชาวคีรีวงและชาว อ.ลานสกา ทั้งหมดจะต้องระมัดระวังเรื่องการดำรงชีวิตที่จะไม่กระทำการใดๆ ที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ เช่น การจัดเผาป่า เผาขยะ เป็นต้น” นายภาณุกล่าวในที่สุด
