ปัตตานี - หน่วยเฉพาะกิจจังหวัดปัตตานี ชี้แจงกรณีเหตุการณ์เข้าไปจับกุมกลุ่มวัยรุ่นเสพยาเสพติด ในพื้นที่บ้านปาตาบาระ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เพราะหนึ่งในนั้นใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ก่อน จึงยิงสวนกลับไป พร้อมทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (23 ส.ค.) ที่หน่วยเฉพาะกิจจังหวัดปัตตานี ทาง พล.ต.ศักดิ์ศิลป์ กลั่นเสนาะ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พ.อ.ปกรณ์ จันทรโชตะ ผบ.กรมทหารพรานที่ 44 ได้ชี้แจงกรณีเหตุการณ์เข้าไปจับกุมกลุ่มวัยรุ่นเสพยาเสพติด ในพื้นที่บ้านปาตาบาระ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นจนได้รับบาดเจ็บ หลังกลุ่มวัยรุ่นได้ชักอาวุธปืนพยายามยิงใส่เจ้าหน้าที่ พร้อมกันนี้ ได้ชี้แจ้งกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า เจ้าหน้าที่ได้ยิงใส่มัสยิดบ้านปาตาบาระ
ทาง พ.อ.ปกรณ์ จันทรโชตะ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 44 ในฐานะผู้บังคับบัญชาของกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้กล่าวชี้แจงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เป็นตามข่าวที่ออกมาแต่อย่างใด จากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางกรมทหารพรานที่ 44 ได้เข้าไปร่วมกิจกรรมกับชาวบ้านในพื้นที่ ตามโครงการหมู่บ้านสันติสุข มีการจัดอบรม 3 วัน พบว่าปัญหาในพื้นที่ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี มีปัญหายาเสพติดอยู่มาก ทั้งยังได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสจากชาวบ้านในพื้นที่เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดในชุมชน จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่
โดยได้เข้าไปในพื้นที่ บ้านบนเป็นบ้านแรก พบวัยรุ่น 3 คนกำลังต้มน้ำใบกระท่อมกันอยู่ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และได้ส่งตัวให้ทางผู้นำชุมชน ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดเดิมได้เข้าไปตรวจสอบกลุ่มยาเสพติดตามที่ได้รับแจ้งข้อมูลมาในพื้นที่บ้านปาตาบาระ จุดดังกล่าวอยู่ใกล้ชายทะเล ห่างไปทางทิศตะวันตกจากมัสยิดในหมู่บ้าน 100 กว่าเมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่ใช้เก็บอุปกรณ์ทำการประมง ได้พบวัยรุ่นกลุ่มใหญ่กำลังเสพยาเสพติดกันอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้ไฟฉายส่องไปยังกลุ่มดังกล่าว พร้อมแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม ทำให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้วิ่งหลบหนี แต่มีอยู่หนึ่งรายได้ชักอาวุธปืนพกสั้นพยายามยิงใส่เจ้าหน้าที่แต่ปืนไม่ทำงาน ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้อาวุธปืนยิงสวนไปเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวทั้งหมดส่งเข้าโรงพยาบาลรักษาตัว
พ.อ.ปกรณ์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าไปพร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองเพื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และพบปะทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่มัสยิดบ้านปาตาบาระ ชาวบ้านส่วนใหญ่และผู้นำชุมชนเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ทราบดีว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ทำการเสพยาเสพติดจริง เพราะมีของกลางในจุดเกิดเหตุอยู่หลายรายการ เช่น กัญชา พร้อมอุปกรณ์เสพ ยาแก้ไอ ใบกระท่อม พร้อมอุปกรณ์ต้มน้ำใบกระท่อม และที่สำคัญคืออาวุธปืนลูกซองสั้น ของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวที่พยายามจะใช้ยิงเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม 1 กระบอก
หลังจากที่ชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจกับสิ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็ยอมรับในการกระทำที่เกินกว่าเหตุของกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่ยิงตอบโต้ในไปยังกลุ่มวัยรุ่นโดยที่ปืนของกลุ่มวัยรุ่นไม่ทำงาน แต่ทั้งหมดก็ยืนยันว่าจะนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย หากมีความผิดจริงต้องได้รับโทษตามกฎหมาย
ผบ.กรมทหารพรานที่ 44 กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย ที่โรงพยาบาล และมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นกับครอบครัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย พร้อมบอกกับครอบครัวผู้บาดเจ็บว่า จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในการดูแลผู้บาดเจ็บ ทั้งจะดำเนินการประสานเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือตามเกณฑ์ที่รัฐกำหนด ซึ่งทางญาติๆของผู้บาดเจ็บ รู้สึกพอใจและเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ได้กระทำความผิดจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการล่าสุดของผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ได้พ้นขีดอันตรายแล้ว 2 ราย คือนายมูฮามัดสาเระ เต๊ะเยะ และ นายลูซาลี โต๊ะดี ส่วนอาการของนายนิมัส เจ๊ะเต๊ะ ตอนนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลปัตตานี
พล.ต.ศักดิ์ศิลป์ กลั่นเสนาะ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้น หากมีชาวบ้านรายใดรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีที่เกิดขึ้น สามารถเข้าดำเนินการแจ้งความตามกระบวนการตามกฎหมาย ทางหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีพร้อมและยินดีที่จะอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องความเข้าใจของชาวบ้านในพื้นที่ จากที่ทางหน่วยในพื้นที่ได้เข้าไปตังแต่หลังเกิดเหตุได้พบปะพูดคุย ส่วนใหญ่มีความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดี และยืนยันจะไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวในในรูปแบบม๊อบแต่อย่างใด
สำหรับเรื่องสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ถือว่าน่าเป็นห่วงกลุ่มเยาวชนในพื้นที่มาก เพราะส่วนใหญ่จะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยกลุ่มเหล่านี้จะใช้ยาเสพติดในการชักจูงเยาวชนเข้าสู่ขบวนการก่อความไม่สงบ ที่ผ่านมาเราพบอยู่หลายครั้งที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเข้าสู่ขบวนการด้วยยาเสพติด
พล.ต.ศักดิ์ศิลป์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้นำแนวปฏิบัติของกอ.รมน.ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเน้นเสมอว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงในการเข้าดำเนินการ แต่จะเน้นใช้กระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายเข้าดำเนินการ อย่างเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ขอให้ประชาชนในพื้นที่สบายใจได้
วันนี้ (23 ส.ค.) ที่หน่วยเฉพาะกิจจังหวัดปัตตานี ทาง พล.ต.ศักดิ์ศิลป์ กลั่นเสนาะ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พ.อ.ปกรณ์ จันทรโชตะ ผบ.กรมทหารพรานที่ 44 ได้ชี้แจงกรณีเหตุการณ์เข้าไปจับกุมกลุ่มวัยรุ่นเสพยาเสพติด ในพื้นที่บ้านปาตาบาระ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นจนได้รับบาดเจ็บ หลังกลุ่มวัยรุ่นได้ชักอาวุธปืนพยายามยิงใส่เจ้าหน้าที่ พร้อมกันนี้ ได้ชี้แจ้งกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า เจ้าหน้าที่ได้ยิงใส่มัสยิดบ้านปาตาบาระ
ทาง พ.อ.ปกรณ์ จันทรโชตะ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 44 ในฐานะผู้บังคับบัญชาของกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้กล่าวชี้แจงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เป็นตามข่าวที่ออกมาแต่อย่างใด จากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางกรมทหารพรานที่ 44 ได้เข้าไปร่วมกิจกรรมกับชาวบ้านในพื้นที่ ตามโครงการหมู่บ้านสันติสุข มีการจัดอบรม 3 วัน พบว่าปัญหาในพื้นที่ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี มีปัญหายาเสพติดอยู่มาก ทั้งยังได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสจากชาวบ้านในพื้นที่เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดในชุมชน จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่
โดยได้เข้าไปในพื้นที่ บ้านบนเป็นบ้านแรก พบวัยรุ่น 3 คนกำลังต้มน้ำใบกระท่อมกันอยู่ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และได้ส่งตัวให้ทางผู้นำชุมชน ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดเดิมได้เข้าไปตรวจสอบกลุ่มยาเสพติดตามที่ได้รับแจ้งข้อมูลมาในพื้นที่บ้านปาตาบาระ จุดดังกล่าวอยู่ใกล้ชายทะเล ห่างไปทางทิศตะวันตกจากมัสยิดในหมู่บ้าน 100 กว่าเมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่ใช้เก็บอุปกรณ์ทำการประมง ได้พบวัยรุ่นกลุ่มใหญ่กำลังเสพยาเสพติดกันอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้ไฟฉายส่องไปยังกลุ่มดังกล่าว พร้อมแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม ทำให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้วิ่งหลบหนี แต่มีอยู่หนึ่งรายได้ชักอาวุธปืนพกสั้นพยายามยิงใส่เจ้าหน้าที่แต่ปืนไม่ทำงาน ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้อาวุธปืนยิงสวนไปเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวทั้งหมดส่งเข้าโรงพยาบาลรักษาตัว
พ.อ.ปกรณ์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าไปพร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองเพื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และพบปะทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่มัสยิดบ้านปาตาบาระ ชาวบ้านส่วนใหญ่และผู้นำชุมชนเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ทราบดีว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ทำการเสพยาเสพติดจริง เพราะมีของกลางในจุดเกิดเหตุอยู่หลายรายการ เช่น กัญชา พร้อมอุปกรณ์เสพ ยาแก้ไอ ใบกระท่อม พร้อมอุปกรณ์ต้มน้ำใบกระท่อม และที่สำคัญคืออาวุธปืนลูกซองสั้น ของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวที่พยายามจะใช้ยิงเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม 1 กระบอก
หลังจากที่ชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจกับสิ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็ยอมรับในการกระทำที่เกินกว่าเหตุของกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่ยิงตอบโต้ในไปยังกลุ่มวัยรุ่นโดยที่ปืนของกลุ่มวัยรุ่นไม่ทำงาน แต่ทั้งหมดก็ยืนยันว่าจะนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย หากมีความผิดจริงต้องได้รับโทษตามกฎหมาย
ผบ.กรมทหารพรานที่ 44 กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย ที่โรงพยาบาล และมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นกับครอบครัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย พร้อมบอกกับครอบครัวผู้บาดเจ็บว่า จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในการดูแลผู้บาดเจ็บ ทั้งจะดำเนินการประสานเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือตามเกณฑ์ที่รัฐกำหนด ซึ่งทางญาติๆของผู้บาดเจ็บ รู้สึกพอใจและเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ได้กระทำความผิดจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการล่าสุดของผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ได้พ้นขีดอันตรายแล้ว 2 ราย คือนายมูฮามัดสาเระ เต๊ะเยะ และ นายลูซาลี โต๊ะดี ส่วนอาการของนายนิมัส เจ๊ะเต๊ะ ตอนนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลปัตตานี
พล.ต.ศักดิ์ศิลป์ กลั่นเสนาะ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้น หากมีชาวบ้านรายใดรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีที่เกิดขึ้น สามารถเข้าดำเนินการแจ้งความตามกระบวนการตามกฎหมาย ทางหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีพร้อมและยินดีที่จะอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องความเข้าใจของชาวบ้านในพื้นที่ จากที่ทางหน่วยในพื้นที่ได้เข้าไปตังแต่หลังเกิดเหตุได้พบปะพูดคุย ส่วนใหญ่มีความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดี และยืนยันจะไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวในในรูปแบบม๊อบแต่อย่างใด
สำหรับเรื่องสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ถือว่าน่าเป็นห่วงกลุ่มเยาวชนในพื้นที่มาก เพราะส่วนใหญ่จะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยกลุ่มเหล่านี้จะใช้ยาเสพติดในการชักจูงเยาวชนเข้าสู่ขบวนการก่อความไม่สงบ ที่ผ่านมาเราพบอยู่หลายครั้งที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเข้าสู่ขบวนการด้วยยาเสพติด
พล.ต.ศักดิ์ศิลป์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้นำแนวปฏิบัติของกอ.รมน.ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเน้นเสมอว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงในการเข้าดำเนินการ แต่จะเน้นใช้กระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายเข้าดำเนินการ อย่างเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ขอให้ประชาชนในพื้นที่สบายใจได้