ยะลา- ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ติดตามเร่งรัด ความคืบหน้าคดียิงถล่มมัสยิดที่ อ.เจาะไอน้อง จ.นราธิวาส เผยคืบหน้า 80 % แล้ว ส่วน กรณี “จ่าปัญญา” นั้น ยังไม่ได้รับการประสานมาแต่อย่างใด
วันนี้ (17 ก.ค.) พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกหน่วยกำลังในพื้นที่ประชุมติดตามสถานการณ์ และ เร่งรัดการปฏิบัติงานหน่วยกำลังในพื้นที่ เพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนที่ผ่านมา และทำการวิเคราะห์แนวโน้มของสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และ มอบนโยบายในการการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ
พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) เปิดเผยว่า การเรียกประชุมหัวหน้าหน่วยกำลังในพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อมุ่งเน้นติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และติดตามความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงที่สำคัญ เช่น กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงชาวบ้านที่กำลังประกอบพิธีละหมาด ภายในมัสยิดอัลฟรุกอน บ้านไอร์ปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนหลายราย
ทางศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส หลังจากที่เกิดเหตุแล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ได้ทุ่มกำลังความสมารถทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อที่คลี่คลายคดีที่เกิดขึ้นนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามสืบสวนสอบสวน คืบหน้าไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ และ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับคนร้ายไปแล้วจำนวน 1 คน และพอที่จะทราบกลุ่มของผู้ที่ก่อเหตุแล้ว คาดว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ยังไม่ได้ไปไหนไกล
ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) ยังกล่าวอีกว่า ตนเองขอฝากยืนยันกับพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านไอร์ปาแย และหมู่บ้านข้างเคียงในพื้นที่ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ 1.จะทำการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และ มีความโปร่งใสมากที่สุด 2.จะต้องจับตัวผู้ที่กระทำความผิดจริงๆ มาลงโทษให้ได้ และประการที่ 3 คือ เมื่อจับกุมตัวได้แล้วนั้น สามารถที่จะตอบกับสังคมได้ได้กระทำความผิดจริงๆ
สำหรับเรื่อง จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ทหารสังกัดกองบัญชาการสงครามพิเศษ ที่อยู่ประจำกรมทหารพรานที่ 44 อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และ ช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นั้นตนเองยังไม่ได้รับการประสานงานในการติดตามแต่อย่างใด เพราะเป็นการรับผิดชอบในเขตพื้นที่อื่น คดีที่ตนเองรับผิดชอบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มีมากพออยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าของคดีที่รับผิดชอบต่อไป หากได้รับการประสานก็ยินดีให้ความร่วมมือตลอดเวลา
วันนี้ (17 ก.ค.) พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกหน่วยกำลังในพื้นที่ประชุมติดตามสถานการณ์ และ เร่งรัดการปฏิบัติงานหน่วยกำลังในพื้นที่ เพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนที่ผ่านมา และทำการวิเคราะห์แนวโน้มของสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และ มอบนโยบายในการการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ
พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) เปิดเผยว่า การเรียกประชุมหัวหน้าหน่วยกำลังในพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อมุ่งเน้นติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และติดตามความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงที่สำคัญ เช่น กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงชาวบ้านที่กำลังประกอบพิธีละหมาด ภายในมัสยิดอัลฟรุกอน บ้านไอร์ปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนหลายราย
ทางศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส หลังจากที่เกิดเหตุแล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ได้ทุ่มกำลังความสมารถทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อที่คลี่คลายคดีที่เกิดขึ้นนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามสืบสวนสอบสวน คืบหน้าไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ และ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับคนร้ายไปแล้วจำนวน 1 คน และพอที่จะทราบกลุ่มของผู้ที่ก่อเหตุแล้ว คาดว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ยังไม่ได้ไปไหนไกล
ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) ยังกล่าวอีกว่า ตนเองขอฝากยืนยันกับพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านไอร์ปาแย และหมู่บ้านข้างเคียงในพื้นที่ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ 1.จะทำการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และ มีความโปร่งใสมากที่สุด 2.จะต้องจับตัวผู้ที่กระทำความผิดจริงๆ มาลงโทษให้ได้ และประการที่ 3 คือ เมื่อจับกุมตัวได้แล้วนั้น สามารถที่จะตอบกับสังคมได้ได้กระทำความผิดจริงๆ
สำหรับเรื่อง จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ทหารสังกัดกองบัญชาการสงครามพิเศษ ที่อยู่ประจำกรมทหารพรานที่ 44 อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และ ช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นั้นตนเองยังไม่ได้รับการประสานงานในการติดตามแต่อย่างใด เพราะเป็นการรับผิดชอบในเขตพื้นที่อื่น คดีที่ตนเองรับผิดชอบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มีมากพออยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าของคดีที่รับผิดชอบต่อไป หากได้รับการประสานก็ยินดีให้ความร่วมมือตลอดเวลา