ปัตตานี - ชาวบ้านสายบุรีกว่า 100 คนปิดล้อมเจ้าหน้าที่ทหารพราน หลังทหารพรานใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย สร้างความไม่พอใจแก่ชาวบ้าน นอภ.สายบุรี เข้าเจรจา ยอมรับข้อเสนอชาวบ้าน 3 ข้อจึงยอมสลายตัว
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 44 เกิดเหตุยิงปะทะกับกลุ่มวัยรุ่นบ้านปาตาบาระ ม.1 ต.ปาเสยาวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ในขณะที่ขอทำการตรวจค้นเป็นเหตุให้กลุ่มวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เหตุดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจแก่ชาวบ้านในพื้นที่ และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ทหารออกจากที่เกิดเหตุ และขอให้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
นายลือชัย เจริญทรัพย์ นายอำเภอสายบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ชาวบ้านไม่พอใจและได้มีการรวมตัวกันประมาณ 100 คน จึงได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความสงบเรียบร้อยหมู่บ้านเจรจาชี้แจงทำความเข้าใจ มีข้อสรุป 3 ข้อ คือ ญาติราษฎรผู้เสียหายขอแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ทหาร 6 นาย 2.ขอส่งตัวแทนจำนวน 10 คน เพื่อเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกขั้นตอนเพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหาย โดยมีกำนันตำบลปะเสยาวอเป็นหัวหน้า และ 3.ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดผลทางคดี และแจ้งให้ผู้แทนชาวบ้านทราบ เป็นระยะ จนกระทั่งเวลา 02.00 น.ชาวบ้านจึงยอมสลายแยกย้ายกันกลับบ้านพัก
ตรวจสอบเบื้องต้น กลุ่มวัยรุ่นที่บาดเจ็บมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นความเข้าใจผิดหรือไม่ หรือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุยังตอบได้ไม่ชัดเจน ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่กองวิทยาการได้ตรวจสอบและสอบสวน วัตถุพยาน บุคคล อย่างละเอียดก่อน ทั้งอาวุธปืนที่อยู่ในที่เกิดเหตุว่าเป็นของใคร ของกลางที่เป็นอุปกรณ์การเสพยาเสพติด
“ผมยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องให้ความเป็นธรรม ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้กำชับในเรื่องนี้มาก ถ้าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุเจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ส่วนเรื่องการแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ทางอำเภอยินดีจะอำนวยความสะดวกให้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบ ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้น ทาง ผบ.กรมทหารพรานได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งแล้ว” นายอำเภอสายบุรีกล่าว
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เวลา 21.00 น. ชุด อส.ทพ.กรมทหารพรานที่ 44 จำนวน 6 นาย ได้เข้าไปสถานที่เกิดเหตุซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นอยู่จำนวนหลายคน ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 5-6 นัด ชาวบ้านที่อยู่บนมัสยิดบ้านปาตาบาระจึงได้ไปยังที่เสียงปืนดังขึ้นพบว่ามีราษฎรบาดเจ็บ 3 ราย คือ นายมูฮำหมัด สาเระ, นายนิมัด เจะเตะ อาการสาหัส และนายรอยาลี โตะดี จึงได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี ต่อมาได้นำส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานี
หลังเกิดเหตุ นายลือชัย เจริญทรัพย์ นายอำเภอสายบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปัญญา คารวนันท์ รอง ผกก.สภ.สายบุรี พ.อ.ปกรณ์ จัทรโชตะ ผบ.กรมทหารพรานที่44 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีอุปกรณ์การเสพยาเสพติด ได้แก่ อุปกรณ์สูบกัญชา ภาชนะต้มใบกระท่อม ใบกระท่อมสดจำนวนหนึ่ง และขวดยาแก้ไอ 5 ขวด ขวดน้ำเปล่า ในบริเวณเดียวกันยังพบปืนพกสั้น (ไทยประดิษฐ์) ลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 1 นัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุได้มีชาวบ้านในหมู่บ้านปาตาบาระ จำนวน 100 กว่าคนรวมตัวบริเวณหน้ามัสยิดและไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ออกจากที่เกิดเหตุ โดยขอให้มีการชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมทั้งขอพบเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 6 นาย ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามชี้แจงและรับข้อเสนอของชาวบ้านจำนวน 3 ข้อ โดยมีนายอำเภอสายบุรีเป็นผู้รับข้อเสนอ ชาวบ้านพอใจจึงยอมสลายกันกลับบ้านพักในเวลา 02.00 น.
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 44 เกิดเหตุยิงปะทะกับกลุ่มวัยรุ่นบ้านปาตาบาระ ม.1 ต.ปาเสยาวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ในขณะที่ขอทำการตรวจค้นเป็นเหตุให้กลุ่มวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เหตุดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจแก่ชาวบ้านในพื้นที่ และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ทหารออกจากที่เกิดเหตุ และขอให้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
นายลือชัย เจริญทรัพย์ นายอำเภอสายบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ชาวบ้านไม่พอใจและได้มีการรวมตัวกันประมาณ 100 คน จึงได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความสงบเรียบร้อยหมู่บ้านเจรจาชี้แจงทำความเข้าใจ มีข้อสรุป 3 ข้อ คือ ญาติราษฎรผู้เสียหายขอแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ทหาร 6 นาย 2.ขอส่งตัวแทนจำนวน 10 คน เพื่อเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกขั้นตอนเพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหาย โดยมีกำนันตำบลปะเสยาวอเป็นหัวหน้า และ 3.ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดผลทางคดี และแจ้งให้ผู้แทนชาวบ้านทราบ เป็นระยะ จนกระทั่งเวลา 02.00 น.ชาวบ้านจึงยอมสลายแยกย้ายกันกลับบ้านพัก
ตรวจสอบเบื้องต้น กลุ่มวัยรุ่นที่บาดเจ็บมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นความเข้าใจผิดหรือไม่ หรือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุยังตอบได้ไม่ชัดเจน ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่กองวิทยาการได้ตรวจสอบและสอบสวน วัตถุพยาน บุคคล อย่างละเอียดก่อน ทั้งอาวุธปืนที่อยู่ในที่เกิดเหตุว่าเป็นของใคร ของกลางที่เป็นอุปกรณ์การเสพยาเสพติด
“ผมยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องให้ความเป็นธรรม ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้กำชับในเรื่องนี้มาก ถ้าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุเจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ส่วนเรื่องการแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ทางอำเภอยินดีจะอำนวยความสะดวกให้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบ ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้น ทาง ผบ.กรมทหารพรานได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งแล้ว” นายอำเภอสายบุรีกล่าว
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เวลา 21.00 น. ชุด อส.ทพ.กรมทหารพรานที่ 44 จำนวน 6 นาย ได้เข้าไปสถานที่เกิดเหตุซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นอยู่จำนวนหลายคน ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 5-6 นัด ชาวบ้านที่อยู่บนมัสยิดบ้านปาตาบาระจึงได้ไปยังที่เสียงปืนดังขึ้นพบว่ามีราษฎรบาดเจ็บ 3 ราย คือ นายมูฮำหมัด สาเระ, นายนิมัด เจะเตะ อาการสาหัส และนายรอยาลี โตะดี จึงได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี ต่อมาได้นำส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานี
หลังเกิดเหตุ นายลือชัย เจริญทรัพย์ นายอำเภอสายบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปัญญา คารวนันท์ รอง ผกก.สภ.สายบุรี พ.อ.ปกรณ์ จัทรโชตะ ผบ.กรมทหารพรานที่44 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีอุปกรณ์การเสพยาเสพติด ได้แก่ อุปกรณ์สูบกัญชา ภาชนะต้มใบกระท่อม ใบกระท่อมสดจำนวนหนึ่ง และขวดยาแก้ไอ 5 ขวด ขวดน้ำเปล่า ในบริเวณเดียวกันยังพบปืนพกสั้น (ไทยประดิษฐ์) ลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 1 นัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุได้มีชาวบ้านในหมู่บ้านปาตาบาระ จำนวน 100 กว่าคนรวมตัวบริเวณหน้ามัสยิดและไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ออกจากที่เกิดเหตุ โดยขอให้มีการชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมทั้งขอพบเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 6 นาย ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามชี้แจงและรับข้อเสนอของชาวบ้านจำนวน 3 ข้อ โดยมีนายอำเภอสายบุรีเป็นผู้รับข้อเสนอ ชาวบ้านพอใจจึงยอมสลายกันกลับบ้านพักในเวลา 02.00 น.
